เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 เมษายน 2565 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผูกคอตาย ที่เตาเผาถ่าน หลังหมู่บ้านโนนปอแดง หมู่ 3 ต.โคกสะอาด จึงพร้อมด้วยแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นเตาดินเผาถ่านไม้ มีเพิงไม้มุงด้วยสังกะสี พบศพนายวิชชากร วงศ์คำจันทร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 412/1 หมู่ 3 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับขื่อเพิงไม้ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ นั่งคุกเข่า มีถ้วยพลาสติกอยู่ตรงกลางระหว่างขา ลักษณะหนีบเอาไว้ เจ้าหน้าที่นำร่างลงมาตรวจสอบ จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 10 – 12 ชม. โดยมีชาวบ้านยืนมุงดูหลังทราบข่าว และมีสุนัขพันธ์ไทยสีน้ำตาล ชื่อเจ้าข้าวเหนียว นั่งเฝ้าศพนายวิชชากรฯ ที่เป็นเจ้านายของมัน ไม่ห่างไปไหนตั้งแต่เมื่อคืนนี้
นายอัศวิน ใจกว้าง อายุ 35 ปี เพื่อนบ้านและเป็นผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ตนมาดูตาข่ายดักจับปลา ที่ดักไว้ในสระน้ำหลังเตาเผาถ่าน พอมาถึงจุดพบศพ ถึงกับตกใจเมื่อเห็นคนผูกคอตาย จึงได้รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ ทำให้รู้ว่าผู้ตายคือนายวิชชากร ปกติจะเห็นผู้ตายชอบมานั่งเล่นกับตาของเขา บริเวณที่เผาถ่านเป็นประจำ และผู้ตายมักจะมาจับปลาบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่เขาคิดสั้นทำไมถึงมาผูกคอตาย
นายวิรัตน์ วงศ์คำจันทร์ อายุ 41ปี พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ลูกชายทำงานรับจ้าง มีนิสัยไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร และพึ่งเลิกกับแฟนสาวได้ไม่นาน ลูกชายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. กระทั่งเช้านี้ขณะตนกำลังนอนต้องสะดุ้งตื่น เพราะชาวบ้านร้องเอะอะโวยวายว่ามีคนผูกคอตายที่เถาเผาถ่านห่างจากบ้าน 500 เมตร ตนจึงมาดูก็พบเป็นลูกชาย ยังไม่รู้สาเหตุว่าลูกคิดสั้นเรื่องอะไร ก่อนเกิดเหตุไม่มีท่าทีว่าจะคิดสั้น
“ ส่วนสุนัขที่เฝ้าศพลูกชาย ชื่อข้าวเหนียว เพศผู้ ลูกชายเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้อายุ 3 ปีแล้ว เวลาลูกชายไปไหนเจ้าข้าวเหนียวมักจะไปด้วยไม่ห่างกัน เมื่อคืนนี้ลูกชายหายออกจากบ้านไปพร้อมเจ้าข้าวเหนียว ส่วนการเสียชีวิตของลูกชายคิดว่าคงจะเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่คิดว่าจะเป็นการคิดสั้นทำร้ายตัวเอง หรือมีอะไรมากกว่านี้ เพราะลูกมักจะไปมั่วสุมเสพยากับเพื่อนของเขา แต่ก็ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง และยังสงสัยในการตายของลูกชาย “
แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องตน เสียมาได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งญาติสงสัยการตาย จึงนำศพไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดในการหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วนตำรวจก็จะดำเนินการสอบปากคำญาติของผู้ตาย รวมถึงผู้มาพบศพและเพื่อนของผู้ตายมีใครบ้าง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป