เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ร.ต.ท.ณัฐชนนท์ รอดผล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนจมน้ำเสียชีวิต ที่หนองขี่ควาย บ้านกลิ้งคำ หมู่ 10 ต.บ้านจั่น จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำสาธารณะ ญาตินำศพ น.ส.รพิพรรณ กอรัตน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225 หมู่ 10 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี มานอนอยู่ที่ศาลาโฮมฮักติดริมฝั่งหนองน้ำ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีม่วง ทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล พบรองเท้าแตะแบบหญิงถอดวางไว้ริมฝั่ง ส่วนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเขียวขาว หมายเลขทะเบียน 1กฉ 7280 หนองคาย ของผู้ตายจอดอยู่ห่างจากหนองน้ำประมาณ 100 เมตร จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 3 -5 ชม.
นายชัยยงค์ สีขาว อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านกลิ้งคำ สามีตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนไม่ค่อยพูด มีปัญหาอะไรก็ไม่บอกหรือเล่าให้ตนฟัง เพราะคิดว่าตนป่วยโรคเบาหวาน ความดัน ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 22.00-23.00 น. ผู้ตายพาหลานเข้านอน ส่วนตนนอนอยู่ห้องโถงหน้าขอทีวี พอตื่นขึ้นมาตนเห็นประตูบ้านเปิด คิดว่าผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตลาดซื้อกับข้าว และซื้อของมาเตรียมไปขายหอยทอดที่ตลาดสด ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน ส่วนตนก็ได้ประกาศประชาสัมพันธ์หอกระจ่ายข่าวของหมู่บ้านตามปกติ กระทั่งมีชาวบ้านโทรไปบอกว่า พบศพคนจมน้ำที่หนองขี้ควาย ตนกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงได้มาดู พบว่าเป็นภรรยาของตน จึงได้ช่วยกันลงไปนำร่างขึ้นมาไว้บนฝั่ง และแจ้งตำรวจ
“ส่วนสาเหตุตนก็ยังไม่ทราบ เพราะปกติภรรยาจะไม่ค่อยบอกอะไรกับตน เพราะตนป่วย ภรรยากลัวว่าจะไม่สบาย ส่วนเรื่องปัญหาหนี้สินไม่มี เพราะตนได้จ่ายค่างวดรถเก๋งที่ค้างชำระให้แล้ว 6 หมื่นบาท ตนให้ภรรยานำไปจ่ายธนาคาร ในส่วนเรื่องปัญหาการเงินอื่น ตนก็ยังไม่ทราบ ต้องสอบถามกับเพื่อนๆคนใกล้ชิด อีกครั้ง ซึ่งตนก็ยังไม่แน่ใจว่าภรรยาของตนจะมาคิดสั้นฆ่าตัวตายแบบนี้”
นางประมวล กงโบราณ อายุ 63 ปี เมียผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนสนิทผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีลูกผู้หญิงคนเดียว แต่งงานไปอยู่ต่างประเทศกับสามี หากมีปัญญาทะเลาะกับสามีก็จะมาเล่าให้ฟัง แต่ก่อนเกิดเหตุไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ก็แปลว่าไม่ได้ทะเลาะกับสามี ส่วนปัญหาน่าจะเป็นเรื่องการเงิน อาจจะมีหนี้สินที่ยืมมาใช้จ่ายในครอบครัว แต่ไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่เพราะไม่เคยมีหนี้สินมาก่อน ทำให้ผู้ตายคิดมาก ประกอบกับช่วงนี้ขายของไม่ค่อยดี เพราะมีแม่ค้าจำนวนมาก ของเหลือทำให้ไม่มีเงินลงทุนต่อ
ส่วน น.ส.จันทร์จิรา สุขเสนา อายุ 30 ปี หลานสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายก๋วยเตี๋ยวผ่านหนองน้ำ ตนเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดไว้ข้างทาง ส่วนผู้ตายเดินลงไปในหนองน้ำ ซึ่งระดับน้ำสูงถึงคอ แต่ตนจึงถามผู้ตายว่าทำอะไร ผู้ตายหันมาตอบว่าหาสายบัว ตนเรียกให้ผู้ตายขึ้นมาเพราะน้ำลึก แต่ผู้ตายก็ไม่ขึ้นมา และดึงสายบัวต่อ ตนไปเล่าให้สามีซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านฟัง ก็คิดว่าผู้ตายเก็บสายบัวไปขาย จากนั้นผู้ตายก็กลับมาบ้าน ไม่คิดว่าเช้านี้จะมาฆ่าตัวตาย เพราะปกติผู้ตายจะเป็นอัธยาศัยดี รักพี่น้อง ไม่เคยบ่นหรือว่าอะไรให้ญาติพี่น้อง ทำให้ไม่รู้ปัญหาหรือสาเหตุการฆ่าตัวตาย กระทั่งมาพบศพ
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายคิดมากเรื่องปัญหาหนี้สิน แต่ไม่พูดให้สามีฟัง ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ เย็นวานนี้จึงมาเดินลงน้ำฆ่าตัวตาย แต่หลานสาวมาพบ จึงกลับไปบ้าน และเช้ามืดวันนี้ก็กลับมาเดินลงน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้นำศพไปชันสูตรให้แน่ชัด เพื่อดำเนินการต่อไป
