ตรวจสอบฌาปนกิจลูกเสื้ออุดร พบทำผิด พรบ.การฌาปนกิจฯ เรียกเก็บเงินทายาทสมาชิกตาย รับสมัครสมาชิกใหม่ผิดระเบียบ อายุเกิน 80 ไม่ตรวจร่างกาย ป่วยขั้นสุดท้าย สมัครรวดเดียว 3 หมวด วงเงินจ่ายสูงถึง 320 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ความคืบหน้าความขัดแย้งใน “สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกเสืออุดรธานี” หลังจากนายธนดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี ในฐานะนายทะเบียน สั่งเปลี่ยนนายก-กรรมการเพียงเดือนเศษ 2 ครั้ง นายกสมาคมฯล่าสุดสั่งปิด สนง. 3 วัน จนมีมือดีใช้โซ่คล้องล็อคประตูซ้ำ พนักงาน ลูกจ้าง สมาชิก ของสโมสรลูกเสืออุดรธานี อยู่ในอาคารเดียวกันต้องเดือดร้อน ขณะที่วันนี้นายธนดรฯ นัดหมายตอบข้อซักถามสื่อมวลชน แต่ติดภาระกิจไม่ได้มาตามนัด
นายประพันธุ์ พลแพงขวา อดีต ผอ.สำนักการศึกษา ทน.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับแต่งตั้งจากนายธนดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี ในฐานะนายทะเบียนท้องที่ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ มาทำหน้าที่นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกเสือ จ.อุดรธานี พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการ มาทำหน้าที่แทนนายกฯ คือนายวาส์น อิศรางกูร ณ อยุธยา และกรรมการชุดเดิม หลังจากมีผู้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี และผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี สั่งให้นายทะเบียนฯแก้ไขปัญหา ด้วยเห็นว่าตนเองมีประสบการณ์เรื่องนี้
“ การร้องเรียนกล่าวหาสมาคมฯ ว่าเรียกรับเงินจากทายาทสมาชิก ที่ถึงแก่กรรมไปรายละ 2,000 บาท 700 ราย รวมเป็นเงิน 1.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำผิด พรบ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 , การรับสมาชิกเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง คือ อายุเกินกว่า 80 ปี ไม่มีใบรับรองแพทย์ และเป็นผู้ป่วยขั้นสุดท้าย 12 ต.ค.64 ผมและกรรมการ 8 คน เข้ามาทำงานรักษาการ บริหารจัดการสมาคมฌาปนกิจฯที่มีสมาชิก 20,000 คนเศษ และตรวจสอบเรื่องที่ร้องเรียนและอื่น ๆ ”
นายประพันธุ์ พลแพงขวา กล่าวต่อว่า พนักงานแจ้งว่าเคยมีเงินฝาก 70 ล้านบาท วันที่ตนเข้ารับงานต่อมี 30 ล้านบาท หลังทำงานได้ 1 เดือน ได้ทำรายงานไปที่นายทะเบียน ระบุเป็นการเรียกรับเงินทายาทสมาชิก เพิ่มจาก 700 คน เป็น 909 คน หรือวงเงินราว 1.8 ล้านบาท , การตรวจพบสมาชิก 1,092 ราย สมัครในปี 63 มีชื่ออยู่ในทุกประเภท ทั้งหมวด ก. , หมวด ข. และหมวด ข2 ซึ่งไม่สามารถทำได้ หากเสียชีวิตทั้งหมดต้องจ่ายเงินถึง 320 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นความบกพร่อง จะต้องหาผู้รับผิดชอบ
“ ต่อมาพบการหาเงินจากคนตาย โดยมีอดีตนายก อบต.แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี นำสมุดประจำตัวสมาชิกมาให้ดูมากถึง 80 ราย ที่ระบุอดีตนายกฯคนนั้นเป็นผู้รับผลประโยชน์ 20 ราย บอกว่าต้องจ่ายเงินให้สมาชิกทุกเดือนๆละ 20,000 บาท เพื่อรอให้สมาชิกรายนั้นเสียชีวิต ก็น่าจะมีลักษณะนี้อีกก็ตรวจสอบต่อ จนเมื่อใน 2 ธ.ค.64 นายทะเบียนฯมีคำสั่งให้ผมพร้อมคณะกรรมการพ้นจากหน้าที่ แล้วแต่งตั้งนายกฯ และคณะกรรมการชุดเดิมมาทำอีกครั้ง ”
นายประพันธุ์ พลแพงขวา กล่าวอีกว่า การตรวจสอบยังไม่เสร็จ แต่หลักฐานก็มีความชัดเจน ตอนแรกก็อยากจะทำงานต่อ ไปพบนายทะเบียนเพื่ออุทธรณ์คำสั่ง แต่ตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์ เคารพในการตัดสินใจนายทะเบียน คงเพียงยื่นรายงานตรวจสอบชุดที่ 2 ให้ โดยตลอด 1 เดือนเศษ ตนได้บริหารจัดการสมาคมฌาปนกิจ สิ้นสุดการทำงานได้ออกเช็คล่วงหน้า 5 ธ.ค.64 เงินฝากเพิ่มจาก 30 ล้านบาท เป็น 36 ล้านบาท และจนถึงวันนี้ 18 บัญชีธนาคาร ยังเป็นชื่อของตนและกรรมการ รอให้นายทะเบียนตัดสินใจ…..