เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 นายสุริยา เพ็งพันธ์ อายุ 55 ปี ชายพิการป่วยอัมพฤกษ์ครึ่งซีกด้านขวา ผู้ต้องหายอมติดคุกแทนแม่วัย 80 ปี ไม่มีเงินค่าปรับ 160,000 บาท คดีขายบุหรี่ติดอากรแสตมป์ปลอม 232 ซอง ถูก จนท.สรรพสามิตอุดรธานีจับกุม พร้อมนางประนอม เพ็งพันธ์ อายุ 80 ปี น.ส.วิลาวัลย์ เพ็งพันธ์ อายุ 49 ปี แม่และน้องสาว เดินทางพบ ร.ต.ท.ศุภชัย ขันอาษา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมีทนายความอาสา ร่วมรับฟังและให้คำแนะนำ และยังมี จนท. สนง.ยุติธรรม จ.อุดรธานี เดินทางมาพบให้คำแนะนำด้วย
น.ส.จักษณา ปัญญาสิทธิ์ ผอ.สนง.ยุติธรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า มาแจ้งสิทธิตามโครงการยุติธรรมเชิงรุก ให้รายละเอียดกับทางผู้ต้องหา ว่ากองทุนยุติธรรมสามารถช่วยเหลือประชาชน ที่ไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ซึ่งกองทุนฯจะช่วยเหลือในเรื่องเงินประกันตัว จากข่าวทางผู้ต้องหาได้นำหลักทรัพย์โฉนดที่ดิน ไปจำนำกับนายทุนนำเงินมาประกัน เราจะมาแนะนำทางออก เพื่อจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หรือไม่ลำบากตัวเองในภายหลัง ให้นำเงินกองทุนเอาไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมา
“ วันนี้เราพร้อมรับเรื่อง แต่ผู้ต้องหาต้องการไปพบที่สำนักงาน โดยได้อธิบายเบื้องต้นแล้วว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ในเรื่องการพิสูจน์ความผิดว่าไปตามกระบวนการ แต่เรื่องที่จะติดต่อกับเรา เพื่อไปยื่นคำขอใช้กองทุนฯประกันตัว จำนวนเงินอยู่กับศาลว่าหลักประกันเท่าไหร่ ส่วนค่าปรับไม่ได้มีเงินกู้ยืม เงื่อนไขคือหลังจากคดีเสร็จสิ้นแล้ว ผู้กระทำผิดไม่หลบหนี หลังจากคดียุติ ก็จะคืนเงินนั้นกลับไปกองทุน เพื่อใช้หมุนเวียนช่วยเหลือประชาชนต่อไป ส่วนเงินค่าปรับหรือเรื่องอื่น ๆ ไม่เกี่ยวกับเงินกองทุน ”
น.ส.วิลาวัลย์ เพ็งพันธ์ อายุ 49 ปี น้องสาวนายสุริยาฯ บอกว่า ตำรวจแจ้งข้อหา “ขายสินค้าไม่มีอากรแสตมป์” จะทำสำนวนสรุปส่งฟ้องศาลราว 7 วัน ทนายความแนะนำว่าถ้าเสียค่าปรับชั้นสอบสวนจะเสียเงินราว 48,000 บาท ซึ่งพวกตนไม่มีเงินในตอนนี้ จึงตัดสินใจไปเสียค่าปรับชั้นศาล ซึ่งจะมีเวลาในการหาเงิน โดยต่อไปได้บอกให้พี่ชายระมัดระวัง เพราะไปซื้อสินค้ามาขายเองไม่ได้ เมื่อมีคนขับรถมาส่งสินค้าก็จะซื้อไว้ขาย ซึ่งเห็นว่าแสตมป์เหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่าตัวเลขไม่เหมือนกัน ก็ดูแต่เพียงว่ามีแสตมป์ติดเพราะซองบุหรี่จะเหมือนกันหมด
“ ส่วนยุติธรรมจังหวัด มาให้คำแนะนำช่วยเหลือ ใช้เงินกองทุนยุติธรรมไปประกันตัว เมื่อเรื่องราวเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะได้นำเงินประกันไปคืนกองทุน แต่ต้องนำเอกสารไปยืนที่สำนักงาน ซึ่งพี่ชายมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สะดวกในการเดินทาง เกรงว่าถ้าเครียดและช็อค และยังมีนายทุนที่นำโฉนดที่ดินซึ่งเป็นชื่อแม่ ประมาณ 1 งาน ไปจำนอง 5 หมื่นบาท พอนายทุนเห็นข่าวก็รู้สึกสงสาร บอกว่าเงินที่ตนยืมมาประกันตัวพี่ชายไม่คิดดอกเบี้ยด้วย รู้สึกดีใจที่มียุติธรรมจังหวัด และนายทุนที่เมตตาช่วยเหลือ ”
