เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่แปลงสวนมะลิของ นายปัญญา ระวิชัย อายุ 51 ปี เกษตรกรบ้านไม้ดอกไม้ประดับ บ.ห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ ต.หนองไฮ อ.เมือง อุดรธานี กำลังเร่งเก็บดอกมะลิในสวนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด 19 เพื่อส่งขายตามคำสั่งซื้อจากตลาด และแรงงานร้อยมาลัยในหมู่บ้าน ส่งขายตลาดในจังหวัดและใกล้เคียง ในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติปีนี้ ในสภาพราคาตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี เพียงกก.ละ 200 บาท และยังออกดอกน้อยกว่าทุกปี สวนทางในช่วงเดียวกันทุกปี
นายปัญญา ระวิชัย เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด 19 ปี กระทบเกษตรกรสวนมะลิ บ.ห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ มีราคาตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี แม้ปีนี้มะลิออกดอกน้อย จากฝนตกหนักทำให้ดอกเน่าและร่วง ซึ่งปีที่ผ่านมาดอกมะลิในช่วงเทศกาลวันแม่ ราคาจะสูงถึง 500-700 บาท/กก. และเก็บผลผลิตได้ 30-35 กก/วัน แต่มาปีนี้เก็บผลผลิตได้เพียง 5-6 กก./วัน หากปีนี้มะลิออกดอกมากคงต้องปล่อยทิ้ง เนื่องจากคำสั่งซื้อหายไปกว่าครึ่ง แถมราคายังตกต่ำซ้ำอีก แต่ก็ไม่ท้อเพราะมันสุดวิสัย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
“ 3 ปีที่ผ่านมาเก็บดอกมะลิขาย ในช่วงเทศกาลวันแม่ถึงปีละ 1 แสนบาท ปีนี้คาดว่าคงเก็บขายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท แต่ก็ยังมีรายได้เข้าบ้านทุกวัน ก็พอถูไถไปได้ และต้องอยู่กับมันให้ได้ ส่วนสาเหตุเพราะตลาดเงียบ ไม่มีใครเดินตลาด ทำให้คำสั่งซื้อลดลงไป ซึ่งทุกปีจะจ้างแรงงานมาเก็บดอกมะลิ 100 บาท/กก. หรือไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท โดยปีนี้คงไม่ได้จ้างแรงงานมาช่วยเก็บ ผมกับภรรยาจึงพากันมาเก็บเอง ”
น.ส.นาตยา ศรีนวล อายุ 46 ปี แม่ค้าร้อยพวงมาลัยขายส่ง บ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ และญาติพี่น้องที่ กำลังล้อมวงร้อยมาลัยกร ส่งให้แม่ค้าตามตลาดในเขต ทน.อุดรธานี เล่าว่า ตั้งแต่จำความได้ก็มานั่งร้อยพวงมาลัยช่วยแม่มาเกือบ 40 ปี ปีนี้มีการระบาดของโควิด 19 คำสั่งซื้อหายไปกว่า 50 % จากคนเดินตลาดน้อย และโรงเรียนไม่เปิดสอน กิจกรรมวันแม่ที่โรงเรียนจึงไม่มี ส่วนราคามาลัยกรขายส่งในราคาเดิม พวงละ 20-30 บาท แม่ค้าตามตลาดและสี่แยกสัญญาณไฟจราจร จะนำไปขายพวงละ 30-50 บาท เพราะมาลัยกรและพวงมาลัย เป็นงานฝีมือหัตกรรมที่ต้องใช้แรงงานและมีค่าใช้จ่ายไม่ลดลง…….
