อุดรฯติดโควิดวันเดียวทำนิวไฮ 191 มาจากพื้นที่เสี่ยง 136 ขณะคลัสเตอร์เนอร์สซิ่งโฮมติดเพิ่ม 35 ผู้สูงอายุ-ผู้ดูแล-นร.บริบาล และเสียชีวิตเพิ่มอีก เป็นช่างหญิงปั้นพระวัน 47 เชื่อติดเชื้อก่อนฉีดเข็ม 2 โรคอ้วน มาพบหมออาการหนักแล้ว
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 14 ของอุดรธานี เป็นหญิง อายุ 47 ปี ปฏิมากรหญิงชาว จ.ปทุมธานี มาปฏิบัติธรรมและสร้างพระพุทธรูป ณ สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง (สำนักสงฆ์ ห้วยโป่ง บ้านใหม่ ต.เมืองพาน) อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ทีมภาคสนาม รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้เคลื่อนศพมาฌาปนกิจ ณ ฌาปนสถาน วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) ทน.อุดรธานี โดยมีญาติและคนใกล้ชิด มาร่วมประกอบพิธีกระชับเรียบง่าย ระบุว่าเป็นผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยรายที่ 808 ระบุว่า 19 มิ.ย.64 พักอาศัยที่สำนักสงฆ์ฯ , 20 มิ.ย.64 เดินทางไปกรุงเทพฯ ด้วยรถตู้ส่วนตัว , 26 มิ.ย.64 เดินทางกลับมาอุดรธานีกันน้องชาย พักที่สำนักสงฆ์ฯ , 27 มิ.ย.64 ส่งน้องชายที่สนามบินอุดรธานี , 29 มิ.ย.64 เดินทางมาฉีดวัคซีน ซิโนแวค เข็ม 2 (เข็มแรก 8 มิ.ย.) ที่ มรภ.อุดรธานี ,1 ก.ค.64 เริ่มมีอาการไม่สบาย , 2 ก.ค.64 ไปที่คลินิก อ.บ้านผือ , 3 ก.ค.64 มีอาการหอบเหนื่อย เข้ารักษาตัวที่ รพ.บ้านผือ แพทย์สั่งตรวจหาเชื้อพบติด COVID-19 แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เสียชีวิต 12 ก.ค.64
เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี และ พ.ญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อุดรธานี ค้นพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยสูงสุด 191 ราย เป็นผู้เดินทางจากกรุงเทพฯปริมณฑล 136 ราย (ตรวจยืนยันมาก่อน 16 ราย) ตรวจพบจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในพื้นที่ 55 ราย (คลัสเตอร์ศูนย์พักพิงดูแลผู้สูงอายุ 35 ราย) สะสม 1316 ราย หายกลับบ้าน 648 ราย รักษาอยู่ 654 ราย เสียชีวิต 1 ราย สะสม 14 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ. อุดรธานี กล่าวว่า ยังมีผู้เดินทางจาก กทม.-ปริมณฑล มายังอุดรธานีต่อเนื่อง จากมาตรการคัดกรอง-ตรวจหาเชื้อ-นำเข้ารักษา-นำไปกักตัว ตั้งแต่ 27 มิ.ย.-11 ก.ค.64 ค้นพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยแล้ว 456 ราย โดยเป็นการค้นพบสถานที่กักตัว 44 คน ทั้งหมดเข้ารับการรักษา ไม่แพร่เชื้อไปครอบครัวและผู้ใกล้ชิด โดยมีผู้เล็ดลอดการคัดกรอง ไปแพร่เชื้อในวงแคบ ๆ และเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ก่อนหน้านี้ คือ แคมป์นักกีฬาบาสเยาวชน อยู่ในการควบคุมเฝ้าระวัง และศูนย์พักพิงดูแลผู้สูงอายุ ตรวจพบติดเชื้อแล้ว 35 ราย และเร่งติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่
“ มีการติดเชื้อในศูนย์พักพิงฯมาพอสมควร มาตรวจพบเมื่อผู้สูงอายุป่วย ส่งมารักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เมื่อเสียชีวิตจึงรู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งต่อมาก็เสียชีวิตอีก 1 ราย เมื่อลงสอบสวนควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากแยกเป็น กลุ่มผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่ติดเตียง 12 ราย , กลุ่มผู้ดูแล 15 ราย ติดเชื้อ 9 ราย และกลุ่มบริบาลจบใหม่ ทำงานพาร์ทไทม์ 23 ราย ติดเชื้อ 14 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสั่งให้กักตัวรอตรวจซ้ำ ซึ่งสองกลุ่มผู้ดูแล-นร.บริบาล มีการเดินทางเข้าออก น่าจะเป็นสาเหตุนำเชื้อเข้ามา จังหวัดมีคำสั่งเข้าควบคุมศูนย์พักพิงฯอื่นแล้ว ”
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ. อุดรธานี กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตของอุดรธานีรายที่ 14 แม้จะเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนชิโนแวตครบ 2 เข็ม ยังต้องอาศัยระยะเวลาการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือหากไม่ระวังตัวก็ติดเชื้อได้ เข็มแรก 8 มิ.ย.64 เข็มสอง 29 มิ.ย.64 ฉีดหลังกลับจากพื้นที่เสี่ยงสูง ผู้เสียชีวิตมีภาวะอ้วน ท้องเสียก่อนรับการรักษา มาถึง รพ.อาการป่วยรุนแรงแล้ว (ใส่ท่อ) ส่งจาก รพ.บ้านผือ มาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี มีภาวะเชื้อลงปอดรุนแรง ไตวาย เลือดเป็นกรด ความดันต่ำ รักษาต่อเนื่อง 8 วันเสียชีวิต
พ.ญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า รพ.ศูนย์อุดรธานีดูแลผู้ป่วยอยู่ 158 ราย ต้องให้ออกซิเจน 41 ราย เป็นระบบท่อช่วยหายใจ 10 ราย อาการรุนแรง 2 ราย , ระบบออกซิเจนแรงดันสูง 13 ราย และให้ออกซิเจนแรงดันต่ำ 18 ราย รพ.มีความพร้อมตรวจรักษา และเพิ่มศักยภาพรับผู้ป่วยเพิ่ม ขณะนี้เตียงผู้ป่วยอาการหนัก 32 เตียง ใช้งานอยู่ 10 เตียง ส่วน “ศูนย์แคร์” หรือ รพ.สนาม 382 เตียง วันนี้มีผู้ป่วยรอดูอาการและพักฟื้น 230 ราย ซึ่งจะมีการปรับแผนนำรับผู้ป่วยเพิ่ม 1.ผู้ป่วยเชื้อลงปอดที่อาการดีขึ้น และ 2.ผู้ป่วยแรกรับที่ยังไม่มีอาการ
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวว่า คกก.โรคติดต่ออุดรธานี ได้เพิ่มมาตรการรับสถานการณ์ 1.ขยายเวลางดการเรียนการสอนแบบออนไซด์ไปถึงสิ้นเดือน , 2.งดกิจกรรรมรวมกลุ่มตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป , 3.งดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างฯ และเข้มงวดกับการฝึกสอน-แข่งขัน-ซ้อมกีฬา และปิดศูนย์พักพิงดูแลผู้สูงอายุ ขณะยังคงคัดกรองผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อไม่ใช้เชื้อเข้ามาในพื้นที่ และเห็นควรจะไปรับชาวอุดรธานี ที่ประสบปัญหาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลกลับบ้าน ที่เริ่มในสัปดาห์นี้ ผู้ต้องการกลับบ้านที่อุดรฯ ติดต่อประสานผู้รับผิดชอบ ทางโทรศัพท์ที่แจกจ่ายไปก่อนหน้านี้
“ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและป่วยโควิด ของอุดรธานีที่สูงขึ้น กว่า 80 % เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ก็รับไปรักษาไม่แพร่เชื้อต่อ การติดเชื้อภายในมีไม่รุนแรง ขณะผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น มีความจำเป็นต้องให้เครื่องออกซิเจนแรงดันสูงเพิ่ม จากเดิมที่อยู่แล้ว 40 เครื่องไม่เพียงพอ คณะแพทย์-พยาบาล รพ.ศูนย์อุดรฯ ได้ระดมทุนจัดหามาเพิ่มเติมเครื่องละ 250,000 บาท ต้องขอบคุณข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ที่เสนอตัวแบ่งเงินเดือน และรายได้ มาสมทบทุนกันต่อเนื่อง จึงมีเป้าหมายจัดซื้อเพิ่มอีก 45 เครื่อง 10 ล้านบาท บางส่วนจะส่งไปยัง รพ.ชุมชนด้วย ”