เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน 2564 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุข (สสจ.)อุดรธานี พญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ จ.อุดรธานี หลังประกาศปิดโรงเรียนทั้งจังหวัด , เปิดศูนย์กักกันผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูง , จัดกิจกรรม 50-200 คนต้องขออนุญาต และเลื่อนการเปิดคำชะโนด โดยวันหยุดที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรวม 52 ราย (ผู้สัมผัสเสียงสูง 382 ราย) ยอดสะสม 627 ราย หายกลับบ้าน 497 ราย รักษาตัวอยู่ 103 ราย (ไอซียู.7 ราย) เสียชีวิตสะสม 9 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยสูงขึ้น จากผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แยกเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด 9 จว. และพื้นที่เสี่ยงสูง 13 จว. และทำให้เกิดการระบาดไปยังครอบครัว-ผู้ใกล้ชิด โดยรายที่ 576-627 หรือ 52 ราย ติดเชื้อมาจากพื้นที่เสี่ยง 15 ราย ที่เหลือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ติดเชื้อ แล้วแพร่เชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ อาทิ คลัสเตอร์แรก เดินทางมาจากนครปฐม ไม่ได้ตรวจเชื้อและกักตัว ร่วมงานแต่งงาน เพียงวันเดียวแล้วกลับ ผู้สัมผัสเชื้อเอาไปติดครอบครัว จากกิจกรรมดำนา-เก็บเห็ด มีผู้ติดเชื้อรวม 12 ราย
“ คลัสเตอร์ที่สอง วิศวกร-ภรรยา-ลูก โรงงานปิดกลับจากสมุทรปราการ มากักตัวเองอยู่ที่บ้านตัวเอง แต่การกักตัวไม่ถูกต้อง และหละหลวม ทำให้เชื้อไปติดพ่อตา-น้องสาว-น้องเขย-หลาน และหลานนำเชื้อไปติดเพื่อนที่โรงเรียน มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 11 ราย และคลัสเตอร์ที่สาม พบครั้งแรกเป็นพนักงานฟู๊ดปาร์ค เซ็นทรัลอุดรธานี หลังสอบสวนพบเชื้อเกิดจากรายที่ 559 สามีของพนักงาน ที่ทำงานใกล้ชิดกับรายแรก มีการติดเชื้อกับในพนักงานขาย แพร่ไปสู่ครอบครัวแต่ละคน มีทั้งคนหนุ่มสาววัยทำงาน-ผู้สูงอายุรวม 22 ราย นำไปสู่การออกมาตรการใหม่ ”
นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุข (สสจ.)อุดรธานี วันแรกมีผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 233 ราย พบติดเชื้อ 9 ราย หลายคนยอมรับตั้งใจกลับมา เพื่อมารักษาตัวที่บ้าน เพราะที่ กทม.ยังไม่มี รพ.จะไปรักษา ขณะที่มานักศึกษาฝึกงานในพื้นที่เสี่ยง ก็ติดต่อขอมากักตัวที่บ้านอุดรธานี สถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง ที่ยังไม่ใช่ผู้ติดเชื้อเราเรียกว่า “ศูนย์โฮมฮักอุดรธานี” ที่ มรภ.อุดรธานี 120 ห้อง พักได้ห้องละ 1-4 คน ขณะอีก 19 อำเภอ ก็จะมีศูนย์ระดับอำเภอ ทุกศูนย์เปิดตลอด 24 ชม. ติดต่อได้ทางโทรศัพท์
พญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า รพ.ศูนย์อุดรธานี ดูแลผู้ป่วย 54 ราย อยู่ในห้อง ไอซียู.7 ราย แกยเป็น ต่อท่อช่วยหายใจ 2 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันสูง 5 ราย นอกจากนี้มี 10 รายต้องให้ออกซิเจน เปรียบเทียบกับผู้ป่วยช่วงแรก ช่วงนี้มีคามต้องการออกซิเจนมา รพ.ได้ขยายเตียงออกซิเจนไปอีก 15 เตียง ขณะที่ห้อง ไอซียู.ยังมีเหลืออยู่ รวมทั้งเตียงรักษาผู้ป่วยรอดูอาการยังเหลืออีก 66 เตียง
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีได้ออกมาตรการ ตามคำแนะนำและเห็นชอบจาก คกก.โรคติดต่อ ขอให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็น ต้องเดินทางเข้ามาในพื้นที่อุดรธานี ชะลอออกไปก่อนในช่วงนี้ เพราะหากเดินทางมาจะไม่สะดวก โดยเฉพาะผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงสุด และเสี่ยงสูง 22 จังหวัด จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ และต้องกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ 14 วัน ระดับจังหวัดคือ หอพัก มรภ.อุดรธานี ส่วนต่างอำเภอ จะเป็นอาคารสถานที่ชั่วคราว บางพื้นที่มีรีสอร์ท หรือที่พักแรม เสนอตัวมาให้พิจารณาด้วย
“ ผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัด จะได้รับการคัดกรอง รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อ จะส่งรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แพทย์จะพิจารณารักษาต่อ หรือส่งไปรักษาที่ รพ.ในภูลำเนาตัวเอง ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อ จะถูกส่งเข้ากักตัวที่ศูนย์โฮมฮักอุดรธานี เมื่อผ่านไป 5-7 วันจะตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง แพทย์จะพิจารณาให้ไปกักตัวที่ศูนย์อำเภอ หรืออนุญาตไปกักตัวที่บ้าน จะต้องไปตรวจความพร้อมสถานที่ก่อน ส่วนผู้ที่กักตัวที่บ้านก่อนประกาศ จะมีคณะทำงานไปตรวจสอบ หากมีความเสี่ยงสูง หรือไม่มีวินัย จะรับมากักตัวที่ศูนย์อำเภอ ”
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวด้วยว่า เดิมอุดรธานีมีระบบการตรวจสอบ ลงทะเบียนผู้เดินทางเข้ามา ที่สนามบินอุดรธานี , สถานีขนส่งอุดรธานี และสถานีรถไฟ ซึ่งสถานีรถไฟมีปัญหาอยู่บ้าง ก็จะให้เพิ่มความเข้ม ครั้งนี้อุดรธานีเพิ่มด่านที่ หน้า รพ.โนนสะอาด ถ.มิตรภาพ อ.โนนสะอาด และด่านหน้า รพ.หนองวัวซอ ถนนอุดร-หนองบัวลำภู โดยที่ 2 จุดนี้จะมีการตรวจหาเชื้อ และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ เพื่อสามารถตรวจสอบได้…
