พรุ่งนี้จับตาอุดรธานีตัดสินใจ จัดสรรวัคซีนแอสตรา 3,600 โดส ให้ครูกลุ่มไหนจากยอด 15,000 คน ขณะจังหวัดวางมาตรการเข้ม ครู-นักเรียนกักตัวที่บ้าน 14 วัน ครูปฏิเสธวัคซีนรัฐจัดให้ ต้องตรวจหาเชื้อก่อนเปิด-เว้นระยะห่างลูกศิษย์ ทำครูพร้อมฉีดแต่วัคซีนไม่พอ อาจจะต้องใช้กติกาเดียวกัน
เวลา 13.30 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร ชั้น 3 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายประโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อม เปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีนายสุคิด พันธุ์พรม รองศึกษาธิการ จ.อุดรธานี นำผู้แทน สนง.การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพป.) อุดรธานี เขต 1-2-3-4 , สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 20 , อาชีวะศึกษา , การศึกษาเอกชน และผู้แทนสาธารณสุข จ.อุดรธานี เข้าร่วมประชุม
นายประโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี แจ้งว่า อุดรธานีได้เลื่อนการเปิดเรียนมา 14 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยมีสถานศึกษา 10 แห่ง เปิดการเรียนการสอนทางออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้กับครู-อาจารย์-บุคคลากรเกี่ยวข้องก่อน แต่จากวัคซีนที่คาดว่าจะได้รับเบื้องต้น 3,600 โคส น่าจะไม่เพียงพอกับกลุ่มเป้าหมาย ที่มีการสำรวจเอาไว้ราว 15,000 คน ในวันพรุ่งนี้คณะทํางานจัดทําข้อมูลการฉีดวัคซีน จ.อุดรธานี จะประชุมพิจารณาจัดสรร วันนี้มาดูการเตรียมความพร้อมไว้ก่อน
นายสุคิด พันธุ์พรม รองศึกษาธิการ จ.อุดรธานี กล่าวว่า การจัดการเรียนการสอน จะมีรูปแบบเหมือนกับปีที่แล้ว คือ ออนไลน์ , ผสมผสาน , สลับวันเรียน และอื่น ๆ แต่เพิ่มการคัดกรองครู-นักเรียน กักตัว 14 วันก่อนเปิดเรียน ขณะกลุ่มของครูและบุคลากรอื่น ต้องการให้ฉีดวัคซีนทั้งหมด แต่ก็ด้วยความสมัครใจ ถ้าครูที่ไม่ประสงค์ฉีดวัคซีน จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ และจะพิจารณาให้อยู่ห่างนักเรียน หรือสอนออนไลน์ จากสภาพปัญหาวัคซีนไม่พอ ก็จะมีครูที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็จะต้องรับการตรวจหาเชื้อ และต้องพิจารณาการสอนอีก ส่วนนักเรียนจะต้องคัดกรองล่วงหน้า ว่าเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อาจจะเป็นการคัดกรองออนไลน์
ตัวแทนหน่วยดูแลสถานศึกษา แจ้งผลการสำรวจฐานข้อมูล ครู-อาจารย์-บุคลากรอื่น มีความประสงค์ฉีดวัคซีน แยกเป็น สพม.20 ประสงค์ฉีด 89.9 % (ไม่ฉีด 302 คน) , สพป.อุดรธานี เขต 1 ประสงค์ฉีด 87.5 % (ไม่ฉีด 423 คน) , สพป.อุดรธานี เขต 2 ประสงค์ฉีด 72 % (ไม่ฉีด 372) , สพป.อุดรธานี เขต 3 ประสงค์ฉีด 100 % และ สพป.อุดรธานี เขต 4 ประสงค์ฉีด 100 % โดยผู้ไม่ประสงค์ฉีดมีเหตุผลสุขภาพและไม่มีเหตุผลเท่า ๆกัน ส่วนใหญ่ต้องการเปิดเรียน 14 มิ.ย.นี้ โดยผ่านการประเมิน และความต้องการผู้ปกครองแล้ว ขณะมี 2 โรง มีครูติดโควิด-19 รักษาตัวอยู่ 2 ราย
ขณะสถานศึกษาขนาดใหญ่ และตั้งอยู่ในชุมชนเมือง จะมีปัญหาเรื่องความมั่นใจผู้ปกครอง หากครูไม่ได้ฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย อาทิ วิทยาลัยอาชีวะศึกษาอุดรธานี ที่เปิดเรียนออนไลน์มาตั้งแต่ 1 มิ.ย.64 เดิมมีเป้าหมายจะเรียนออนไลน์ถึง 25 มิ.ย. แต่พบนักเรียนบางส่วนมีปัญหาอุปกรณ์ จึงจะเปลี่ยนตั้งสอนแบบผสมผสาน แต่คิดว่าคงดำเนินการไม่ได้ , รร.อุดรพิทยานุกูล เปิดเรียนออนไลน์มาตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ เป้าหมายจะเปิดเรียน 14 มิ.ย.นี้ อาจจะต้องเรียนออนไลน์ต่อ , รร.ประถมขนาดใหญ่ จะเปิดแบบสลับวันเรียนอาจจะต้องปรับใหม่ และศูนย์เลี้ยงเด็ก 14 แห่ง ครูจำเป็นต้องฉีดวัคซีนทั้งหมดจึงจะเปิดได้
ขณะสถานศึกษาที่มี “นักกีฬา” และ “นักเรียนห่างไกล” เข้ามาพักอยู่ในสถานศึกษา หรือใกล้ๆสถานศึกษา ส่วนใหญ่เดินทางจากพื้นที่อื่น บางคนมาจากพื้นที่เสี่ยง และอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยง นักเรียนและครูผุ้ดุแลช จะต้องได้รับการกักตัวก่อน 14 วัน แม้ว่ามีข้อตกลงให้ครู และนักเรียน กักตัวอยู่ที่บ้านก่อนข้าโรงเรียน แต่ก็ยังต้องมากักตัวที่โรงเรียนอีกครั้ง เมื่อครูไม่ได้รับวัคซีนตามแผน ก็ประสบปัญหาในทำหน้าที่พอสมควร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เสาร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ อุดรธานีจะมีการฉีดวัคซีน (ซิโนแวค) “เข็มสอง” ในส่วนบุคลากรทางการแพทย์ , เจ้าหน้าที่-บุคลากรกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมากำ ทั้งจังหวัด 7,000 คน และในวันที่ 7-8-9 และต่อไป มีแผนฉีดวัคซีนแอสตราเซนิกา ผู้สูงอายุ-ผู้ช่วยเรื้อรัง 7 โรค วันละ 11,000-12,000 คน แต่ได้รับแจ้งเบื้องต้นได้รับวัคซีนมาเพียง 3,600 โดส คณะกรรมการวัคซีน จ.อุดรธานี จึงมีเป้าหมายปรับแผน อาจจะเลื่อนผู้สูงอายุ-ผู้ช่วยเรื้อรัง 7 โรค ออกไปก่อน และนำวัคซีนมาฉีดในครูและบุคคากรอื่นแทน โดยยังมีความหวังรับจัดสรรควัคซีนเพิ่ม ก่อนจะเปิดเรียน 14 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ….
