เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 17 เมษายน 2564 ร.ต.อ.อดุลย์ชัย ขาวขำ ร้อยเวร สภ.เพ็ญ รับแจ้งออกสอบสวนเหตุ รถไฟดีเซลราง ขบวนที่ 75 กรุงเทพ-หนองคาย ชนรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ป้ายแดง สีดำ ทะเบียน ล 6141 กทม. บริเวณทางพาดรถไฟลักผ่าน หน้าวัดป่าศรีจันทร์ บ.โพธิ์ตาก ต.นาพู่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หน่วยกู้ชีพ อบต.นาพู่ อาสาสมัครมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม ออกให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.อุดรธานี รถยนต์เก๋ง พังยับเยินทั้งคัน มีร่องรอยถูกชนด้านท้ายขวา ล้อรถหลุดกระเด็นออกมา ส่วนรถไฟคู่กรณีไม่ได้รับความเสียหาย เดินทางต่อไปยัง จ.หนองคาย โดยมีนายอำนวย อินทรธิราช นายก อบต.นาพู่ มาอำนวยการช่วยเหลือ
ร.ต.อ.อดุลย์ชัย ขาวขำ ร้อยเวร สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บรายแรกชื่อ น.ส.นงลักษณ์ ลาไป อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 94 ม.1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เป็นคนขับรถ อาการสาหัส และนายพิชามญชุ์ หงศ์แก้ว (สาวสอง) อายุ 24 ปี อยู่เลขที่ 327/25 ม.4 ต.โขงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร บาดเจ็บเล็กน้อย จุดตัดทางรถไฟดังกล่าวเป็น “ทางลักผ่าน” ไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟฯ ไม่มีแผงกั้นเหมือนทางข้ามที่ถูกต้อง เป็นเส้นทางลัดระหว่างบ้านเม่นไปบ้านนาพู่ เคยเกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้ง แม้จะมีป้ายเตือน และไฟวับวาบ โดยสงกรานต์ที่ผ่านมาได้ตั้งด่าน และหยุดด่านไปเมื่อวานนี้
นางนง สาระมโน อายุ 60 ปี ชาวบ้านขาว ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เป็นลูกศิษย์วัดมาช่วยงานวัดป่าศรีจันทร์เป็นประจำ มีหน้าที่ดูแลให้บริการผู้จิตศรัทธาบูชาดอกไม้ธูปเทียน ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บทั้ง 2 เดินทางมาที่วัด 16.00 น. นำน้ำดื่มมาถวายวัด และเข้าไปกับกราบหลวงพี่ต่อ จันทโสภโณ พระที่ดูแลวัดและมีลูกศิษย์มาหาอยู่ประจำ ซึ่งเคยเห็นทั้ง 2 มาที่วัดอยู่บ้างแต่ไม่บ่อย หลังจากกราบพระเสร็จทั้ง 2 ก็เดินมาร่ำลา และบอกว่าวันที่ 24 เมษายนจะกลับมาอีก ก่อนขึ้นรถกลับออกไป
“ รถเก๋งเลี้ยวขวาออกจากวัดไป มุ่งหน้าข้ามทางรถไฟจะออกไปยังถนนมิตรภาพ ไม่นานได้ยินเสียงโครมดังมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ ถูกรถไฟชนเหมือนครั้งก่อนๆ รีบวิ่งออกไปดูกันทั้งวัด และเข้าให้การช่วยเหลือ พบว่าผู้หญิงคนขับมีอาการสาหัสมากกว่าอีกคน โดย “สาวสอง” ยังคงสื่อสารตอบโต้กันได้อยู่ จนกระทั่งรถกู้ชีพมาถึง ตนและคนอื่น ๆจึงเดินกลับเข้าวัด แต่ก็ยังตกใจกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณนี้เป็น 1 ใน 3 ทางลักผ่านของ จ.อุดรธานี ที่ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ติดตั้งเครื่องปิดกั้นอัตโนมัติ แต่การรถไฟฯปฏิเสธไม่มีงบประมาณ ขณะเดียวกันได้มีแผนสร้างรถไฟทางคู่ ตามแผนจะแก้ไขปัญหาจุดนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีทางพาดรถไฟที่ถูกต้องอยู่ไม่ห่างจากจุดนี้ แต่พร้อมจะอนุญาตให้องค์กรปกครองท้องถิ่น หางบประมาณมาจัดสร้างได้ ตามแบบของการรถไฟฯวงเงินราว 5 ล้านบาท แต่ทาง อบต.นาพู่ ไม่มีงบประมาณ จึงทำได้เพียงการจัดทำป้าย และสัญญาไฟเตือน และมีข้อตกลงให้ตั้งด่านในช่วงเทศกาล โดยด่านถูกถอนออกไป 6 ทุ่มที่ผ่านมา ….