วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคมลั่นฟื้นฟูห้วยรถแร่ลาวคว่ำกุมภา 64 ต้องจบ

ลั่นฟื้นฟูห้วยรถแร่ลาวคว่ำกุมภา 64 ต้องจบ

รถแร่ทองแดงลาวตกห้วย 3 ปี 4 เดือน ผ่านผู้ว่าอุดรธานีมา 4 ท่าน เก็บกู้ฟื้นฟูมาแล้ว 2 รอบ ยังพบทองแดง-โลหะหนัก-สารหนูเกินมาตรฐาน ยกเป็นกรณีศึกษาเกิดครั้งแรกในไทย ป้องกัน-เผชิญเหตุ-ฟื้นฟู-กฎหมาย ต้องเสร็จกุมภาปีหน้า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร ชั้น 3 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เหตุรถบรรทุกแร่ทองแดงจาก สปป.ลาว พลิกค่ำบนถนนมิตรภาพอุดรธานี-ขอนแก่น ลงลำห้วยบ้านนาดี ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี โดยมีนายอมฤต วะสมบัติ อัยการจังหวัด ประจำอัยการสูงสุด สนง.อัยการ จ.อุดรธานี เข้าร่วมประชุมกับคณะทำงาน และตัวแทน บ.เอสเคที. ทราน จก. ผู้ขนส่งแร่

นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นมา 5 ส.ค.60 หรือกว่า 3 ปี 4 เดือนแล้ว ผ่านผู้ว่าฯมาถึง 4 ท่าน การฟื้นฟูลำห้วยก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มีปัญหาอุปสรรคโดยเฉพาะ ฝนตกลงในช่วงเปลี่ยนฤดู การฟื้นฟูครั้งนี้จะต้องเสร็จก่อนสิ้น ก.พ.64 กรณีอุบัติเหตุรถขนส่งแร่ลักษณะนี้ และปนเปื้อนแหล่งน้ำสาธารณะ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศ น่าจะเป็นกรณีศึกษาทั้งในเรื่องการป้องกัน , การเผชิญเหตุ , การเก็บกู้ฟื้นฟู และระเบียบกฎหมาย เหมือนกรณีเรือขนน้ำตาลล่มในแม่น้ำ

ที่ประชุมรายงานว่า หลังเกิดอุบัติเหตุ บ.เอสเคที.ทราน จก. เข้ามาเก็บกู้แร่ที่จุดเกิดเหตุ อุดรธานีมีคำสั่งห้ามใช้น้ำ ห้ามจับสัตว์น้ำ-พืชน้ำมาบริโภค หลังตรวจพบการปนเปื้อนของทองแดง-โลหะหนัก-สารหู ปนเปื้อนในน้ำ-ตะกอนดิน-สัตว์น้ำ บริษัทฯเข้ามาเก็บกู้และฟื้นฟู ตามคำสั่งของ จ.อุดรธานี ระยะทาง 1 กม. รวม 2 ครั้ง แต่ก็ยังตรวจพบการปนเปื้อนลดลง แต่ยังเกินค่ามาตรฐาน มีคำสั่งให้เก็บกู้ฟื้นฟูใหม่ ช่วงแรกบริษัทฯปฏิเสธแต่มายอมรับภายหลัง ให้ภาครัฐเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทฯจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย

คณะทำงานฯร่วมกับ อบต.ผาสุก ได้ประมาณการค่าใช้จ่าย ตามข้อมูลจุดตรวจพบโลหะหนัก และบริษัทฯได้เปิดบัญชีธนาคาร โอนเงินเข้ามาเป็นค่าใช้จ่าย 550,000 บาท พร้อมมอบอำนาจให้ใช้ดำเนินการ ตามระเบียบที่ราชการกำหนด เริ่มต้นจากการสูบน้ำออกจากลำห้วย ให้เสร็จภายใน 15 ม.ค.64 ซึ่งคณะทำงานจะลงพื้นที่บ่ายวันที่ 21 ม.ค.64 เมื่อสภาพลำห้วยแห้งจะเข้าเก็บกู้ นำเอาตะกอนดินบรรจุกระสอบ รวบรวมไว้ส่งไปให้บริษัทฯที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับเก็บตัวอย่างตะกอนดิน ส่งตรวจหาการปนเปื้อนเพื่อยืนยันอีกครั้ง ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือน ก.พ.64

ที่ประชุมยังกล่าวถึงข้อกฎหมาย ที่บริษัทฯจะต้องเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายแก้ไขปัญหา อาทิ มีความเสียหายสัตว์น้ำ 1 ปี 289,800 บาท , มีค่าใช้จ่ายเกิดจากการเก็บตัวอย่าง และส่งตรวจสารปนเปื้อน 261,636 บาท (ยังเหลือตรวจอีก) และ มีค่าใช้จ่ายในการตรวจติดตามสุขภาพประชาชน 114,740 บาท รวม 666,176 บาท และการเสียโอกาสของชาวบ้าน(ยังไม่รวบรวม) จะต้องรวบรวมส่งให้บริษัทฯออกค่าใช้จ่าย หากปฏิเสธจะนำเรื่องฟ้องต่อศาลมีอายุความ 10 ปี นอกจากนี้ สนง.สิ่งแวดล้อม ภาค 9 จะตรวจสอบการปนเปื้อนจากลำห้วยบ้านนาดี ลงไปในลำห้วยสามพาดด้วย

ที่ประชุมนัดหมายประชุมคณะทำงานครั้งต่อไป ในบ่าย 21 ม.ค.64 โดยลงดูพื้นที่จริงบริเวณลำห้วยบ้านนาดี ที่น้ำในลำห้วยถูกสูบออกไปแล้ว ขอให้ตัวแทนบริษัทฯ เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมกันนี้ให้บริษัทฯ แสดงหลักฐานการทิ้งลำลาย “ตะกอนดิน” ที่เอาออกากลำห้วย 2 ครั้งราว 40 ตัน เพราะหากไม่ทำลายอย่างถูกต้อง จะไปกระทบกับพื้นที่อื่น และขอคำตอบการจ่ายค่าใช้จ่าย ดำเนินการแก้ไขปัญหา ที่ทางราชการได้ใช้จ่ายไปแล้ว….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments