ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 อุดรธานีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกที่สามมาตั้งแต่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อสะสม 345 ราย เสียชีวิต 1 ราย หายกลับบ้าน 112 ราย โดยผู้กลับบ้านจะต้องกักตัว เฝ้าติดตามอาการอีก 14 วัน และมีบางรายถูกเพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้านตั้งแง่ ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก และหวาดระแวง ทำให้นายพนม บาลี อายุ 37 ปี รองนายก อบต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี โพสต์วีดิโอ.ความยาว 4.21 นาที ให้กำลังใจผ่านเฟซบุ๊ค เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 28 เมษายน 2564
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ อบต.หนองนาคำ พบกับนายพนม บาลี อายุ 37 ปี รองนายก อบต.หนองนาคำ พร้อมเปิดเผยว่า เปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า มีพนักงานชาย 1 คน อายุ 24 ปี เป็นราษฎร ต.หนองนาคำ ได้มาปรึกษาและขอความช่วย ว่าแฟนสาว อายุ 23 ปี ราษฎรบ้านหนองหว้า ม.4 ต.หนองนาคำ ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากไปเที่ยวเกาะล้าน จ.ชลบุรี ไปหาเพื่อนที่ จ.นนทบุรี กลับมาอุดรธานีด้วยเครื่องบินเมื่อ 8 เม.ย. แฟนหนุ่มเป็นคนไปรับ 11 เม.ย. ป่วยไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด เข้ารับการรักษาตามขั้นตอน จนหายดีและกลับบ้าน 26 เม.ย. และกักตัวเองที่บ้านสังเกตุอาการตามคำแนะนำแพทย์ ซึ่งครอบครัวของทั้งสอง ถูกเพื่อนบ้านรังเกียจและประณาม จนใช้ชีวิตปกติไม่ได้
“ น้องทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน แยกกันอยู่กันคนละครอบครัว ชาวบ้านข้างเคียงก็มองว่า ครอบครัวทั้งสองมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ แม้แต่ตัวผมเองก็ถูกมองว่าเสี่ยงสูง เพราะใกล้ชิดและคลุกคลีกับน้องผู้ชาย หลังจากน้องผู้หญิงเข้ารับการรักษา ครอบครัวน้องผู้ชายน้องผู้หญิงและครอบครัวผม ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ไปตรวจหาเชื้อแล้ว ผลการตรวจก็คือไม่พบเชื้อ และก็เฝ้าระวังตัวเองจนครบ 14 วัน แต่ก็มาถูกสายตาชาวบ้านดูถูกดูแคลน ถูกประนาม ถูกล้อเลียน ว่าติดโควิด-19 จนน้องผู้ชายและผู้หญิงเสียกำลังใจ น้อยใจสังคม ผมจึงให้กำลังใจน้องไปตามที่เห็นในคลิปวิดิโอ ”
นายพนม บาลี รองนายก อบต.หนองนาคำ เปิดเผยอีกว่า การจะรังเกียจผู้อื่นล้อเลียนผู้อื่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่อยากให้คิดก่อน มีสติก่อน ในเมื่อเขาหายแล้วไม่ติดแล้ว ไม่อยากให้พูดหรือนำเสนอเรื่องนี้อีก มันเป็นผลกระทบสำหรับครอบครัวเขา มันมีแต่ผลเสีย ขอให้ทุกคนมีสติ ดูข่าวเสพข่าวตามสื่อหลัก เชื่อคำแนะนำจากแพทย์ อย่าไปเชื่อเฟ็กนิวส์ในโซเชียล ไม่มีใครอยากติดเชื้อนี้หรอกครับ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ดูแลรักษากันไป ร่างกายรักษาให้หายได้ แต่จิตใจของคนเราก็ต้องการกำลังใจด้วย อยากให้ทุกท่านให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า ในทางการแพทย์ยืนยันว่า ผู้ที่ป่วยหรือตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อได้รับการรักษาตามขั้นตอน มีการตรวจสอบก่อนให้กลับบ้านไป ไม่เคยพบว่าจะไปแพร่เชื้อต่อผู้อื่น แต่แพทย์แนะนำให้กักตัวดูอาการอีก 14 วัน เพราะผั้ที่หายจากการป่วย 3 เดือนแรกจะมีภูมิคุ้มกันโดยธรรชาติ 3-6 เดือนภูมิคุ้มกันจะลดลงแต่ก็ยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ แต่เมื่อพ้น 6 เดือนไปแล้วจะต้องฉีดวัคซีนให้มีภูมิคุ้มกัน
“ อุดรธานีเรามีตัวอย่างผู้ป่วยรายที่ 1 ระบาดระลอกสาม ที่เป็นหญิงไทยมีสามีเป็นชาวอเมริกัน ติดเชื้อมาแล้วในสหรัฐอเมริกา รักษาหายเดินทางกลับมาไทย มาดูแลแม่ที่ปวดติดเตียงที่อุดรธานี พอจะกลับไปสหรัฐอเมริกา ไปตรวจอีกครั้งพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้นำเชื้อไปติดใคร โดยเฉพาะคนใกล้ชิดก็คือแม่ ที่นอนป่วยติดเตียง เธอทำหน้าที่อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนอาหาร อยู่เป็นแรมเดือนแม่ก็ไม่ติด ซึ่งต่อมามีการเพาะเชื้อดู ผลออกมาว่าเป็นซากเชื้อ ”
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวตอนท้ายว่า ปกติจะมีทีมลงติดตามผู้ป่วยที่หาย กลับไปกักตัวที่บ้านอยู่แล้ว รวมทั้งไปทำความเข้าใจกับเพื่อนบ้านและชุมชน จะได้กำชับให้ทีมให้ความสำคัญมากขึ้น และกรณีนี้จะส่งทีมลงไปเพิ่มเติม ฝากสื่อมวลชนชี้แจงในภาพรวม โดยการนำตัวอย่างของผู้ป่วยรายแรกชี้แจง……
