เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ที่ร้านขายปลานิลสด ริมถนนหมายเลข 22 อุดรธานี-สกลนคร หลัก กม.ที่ 18 ฝั่งขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี ม.14 บ.นิคมหนองตาล ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.พลังกร ศิรินิกร รอง สวป.สภ.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นำกำลังออกตรวจที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นเป็นเพิงขายพิชซ่าและปลานิลสด มีนางกรรณิกา โม้ทองศรี อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน ผู้เสียหาย ชาวบ้านดงคำ ม.14 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และญาติยืนรอให้การด้วยความตกใจ ส่วนคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวคล้ำ รูปร่างผอมสูง สวมโม่งปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว บริเวณหัวเข่าขาด และสวมรองเท้าแตะสีฟ้า ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเทน่า สีน้ำเงิน สภาพเก่าแต่งซิ่ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
นางกรรณิกาฯ ผู้เสียหาย เล่าว่า วันนี้ขณะตนกำลังจะปิดร้าน และนับเงินที่ขายได้มาประมาณ 3-4 วัน รัดหนังยางเอาไว้ในกระเปาผ้ากันเปื้อน มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าร้าน เดินเข้ามาพูดจาภาษาอีสานขอซื้อปลานิลสด จังหวะจะไปเอาสวิงไปตักปลานิลในอ่างปูน คนร้ายใช้มีดปลายแหลมไม่ทราบขนาดจี้ที่คอด้านซ้าย แล้วใช้มือล้วงเอาเงินจำนวน 13,000 บาท แล้วพลักตนจนล้มลงกับพื้น ก่อนหลบวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์หนี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี ตนคุ้นลักษณะท่าทางและน้ำเสียงของคนร้าย เหมือนกับเคยเป็นลูกค้ามาซื้อปลานิลสดที่ร้าน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพราะคนร้ายสวมโม่งปิดบังใบหน้า
“ตนเปิดร้านขายพิชซ่าและปลานิลสดมาประมาณ 1 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย โดยมาเปิดร้านตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. ทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงพ่อแม่และลูกสาวคนเล็กวัย 9 ขวบ ตนเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากแยกทางกับสามีมาได้ 8-9 ปี ตนเดินขากระแผก เดินไม่สะดวก เพราะกระดูกบริเวณหัวเข่าด้านขวาหักจากอุบัติเหตุ แต่ก็ยังต้องค้าขายสู้ชีวิตหาเลี้ยงครอบครัว อยากฝากถึงคนร้ายให้นำเงินมาคืน เพราะเป็นเงินที่ตนต้องใช้ลงทุนหาเงินใช้หนี้ หากไม่มีคงต้องไปหาหยิบยืมญาติพี่น้องมาลงทุนก่อน และฝากตำรวจใช้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย”
เบื้องต้นตำรวจ สภ.หนองหาน ได้แจ้งวิทยุประสานตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี สกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี แต่ก็ไร้วี่แวว พบเพียงรอยล้อรถจักรยานยนต์ข้างร้าน ที่เป็นดินโคลน ส่วนกล้องวงจรปิดที่ร้านชำรุดไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้
