เหมืองแร่โพแทชอุดรธานีเดินเครื่อง กพร.สั่งอุตสาหกรรมจังหวัดทำ 17 ข้อ กลุ่มต้านลุกฮือโวยแอบนัดประชุม บุกศาลากลางขอพบพ่อเมือง ถามความชัดเจน 5 ข้อ แต่ต้องนั่งที่พื้นทางขึ้นรอ 3 ชม. ย้ำผ่านมา 20 ปี ผู้ว่า 10 คน ชาวบ้านก็ยังไม่เอาเหมือง
เวลา 09.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี หรือกลุ่มต่อต้านเหมืองแร่โพแทช ราว 100 คน นำโดยนางมณี บุญรอด แกนนำ เดินทางมาขอพบนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน และสอบถามข้อเท็จจริง การประชุมที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่างรอง ผวจ. , อุตสาหกรรมจังหวัด และคณะกรรมการแต่งตั้งจาก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) เกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โพแทชอุดรธานี
กลุ่มอนุรักษ์ฯได้แจ้งขอเข้าพบ ผวจ.อุดรธานี ล่วงหน้าผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เมื่อเดินทางมาถึง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ นำกำลังมาดูแลความเรียบร้อย จัดให้รถของชาวบ้านไปจอดหน้าศาลากลาง ให้สมาชิกกลุ่มฯรอที่มุกหน้า อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัด ก่อนนำมารวมตัวที่มุกเชื่อมอาคารศาลากลาง ชั้น 1 ด้านทิศเหนือแทน โดยมีนายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี รักษาการปลัด จ.อุดรธานี มารอรับหนังสือแทน แจ้งว่า ผวจ.ติดประชุมหัวหน้าส่วนประจำเดือน
กลุ่มอนุรักษ์ฯปฏิเสธที่จะยื่นหนังสือ ผ่านรักษาการปลัดจังหวัด โดยจะขอยืนโดยตรงกับ ผวจ.อุดรธานี เพื่อจะสอบถามด้วย พร้อมแสดงออกไม่พอใจว่า ไม่มีความจริงใจกับชาวบ้าน ให้ความสำคัญกับนายทุน จึงลักไก่ประชุมเพื่อปลุกผี “เหมืองโพแทชอุดรธานี” ที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี แต่เมื่อชาวบ้านมาสอบถามกลับไม่มาชี้แจง ก่อนจะชักชวนกันเดินกลับไปที่หน้ามุกทางขึ้นศาลากลาง อาคาร 1 ประกาศปักหลักรอ ผวจ.อุดรธานี
ฝ่ายปกครองเข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ โดยยืนยันว่า ผวจ.อุดรธานี ติดภารกิจสำคัญจะส่ง รอง.ผวจ.มารับมอบหนังสือแทน กลุ่มอนุรักษ์ฯยอมรับข้อตกลง แต่ขอเพิ่มให้มีนายประชา มีธรรม อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี มาร่วมชี้แจงด้วย และขอจัดห้องประชุมให้สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ เข้าไปรอและเพื่อยื่นหนังสือ ตลอดจนซักถามความจริง แต่การเจรจาก็ไม่ลงตัว เมื่อฝ่ายปกครองแจ้งว่า ขอให้ทำเอกสารใช้ห้องประชุมก่อน
ต่อมาเวลา 12.30 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี มาพบกลุ่มอนุรักษ์ฯ รับมอบหนังสือคัดค้านการทำกรอบ ว่าด้วยเรื่องการประชุมคณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น และขอคัดสำเนาเอกสาร ที่ระบุว่า ชาวบ้านคัดค้านเหมืองโพแทชมากว่า 20 ปี ศาลปกครอง จ.อุดรธานี มีคำพิพากษา เมื่อ 30 มีนาคม 2561 ให้เพิกถอนรายงานการไต่สวนคำขอประทานบัตรของ บ.เอเชีย แปซิกฟิคโปแตซ คอร์เปอร์เรชั่น (เอพีพีซี.)จก.ไปแล้ว
แต่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม ผวจ.อุดรธานี นายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมตัวแทนจากส่วนราชการ และคณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น ที่แต่งตั้งโดย กพร. เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดเงื่อนไขในประทานบัตร กลุ่มอนุรักษ์ฯจึงขอคัดค้าน เพราะขบวนการการปักหมุดรังวัด ผิดขั้นตอนตามกฎหมาย คาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งมีคำพิพากษาไปแล้ว จึงน่าจะต้องมีการเริ่มต้นการใหม่
กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ขอให้ ผวจ.อุดรธานี ชี้แจง 5 ข้อ คือ 1.ขั้นตอนการขอประทานบัตรเหมือนใต้ดินตาม พรบ.แร่ ปี 2560 มีวิธี-เงื่อนไข-เวลาอย่างไร , 2.การดำเนินการเกี่ยวกับสัมปทานของ เอพีพีซี. อยู่ขั้นตอนใด , 3. ขอสำเนาคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น ของ กพร. , 4. ขอรายงานการประชุมคณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น และ 5. ขอให้ ผวจ.อุดรธานี ชี้แจงรายละเอียดกระบวนการขั้นตอน การขออนุญาตทำเหมือนแรงใต้ดิน และขอรับคำตอบภายใน 15 วัน
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี ได้มอบหมายให้นายประชา มีธรรม อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ชี้แจงว่า การประชุมในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการปฏิบัติตามข้อสั่งการของ กพร. ที่มีแนวทางการปฏิบัติราว 17 ข้อ จึงมีการประชุมกับ คณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น ของ กพร. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมรับปากมอบสำเนาหนังสือของ กพร.ให้กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี กล่าวด้วยว่า เรื่องที่กลุ่มอนุรักษ์ฯสอบถามมา 5 ข้อ ได้อ่านจากเอกสารไปแล้ว จึงเดินทางลงมาพบกับชาวบ้าน รับฟังจากปากชาวบ้านอีกครั้ง ซึ่งจะมอบให้อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบใน .อุดรธานี ตอบข้อซักถามทั้งหมด ให้ทันตามกำหนดที่ชาวบ้านเรียกร้อง จังหวัดอุดรธานียืนยันว่า จะดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ขอให้ชาวบ้านกลับบ้านได้ (ผู้ว่าฯรับหนังสือแล้ว ใช้แขนขวาโอบไหล่นางมณีฯแกนนำ)
นางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านยืนยันไม่เอาเหมือนโพแทช ต่อสู้กับมาต่อเนื่องผ่านผู้ว่ามาแล้ว 10 คน ยอมรับว่าทุกผู้ว่าฯถูกเราต่อว่าทั้งหมด ล่าสุดจากคำพิพากษาศาลปกครอง จ.อุดรธานี ให้เพิกถอนการไต่สวนประทานบัตร เพราะมันไมใช่ความจริง และศาลปกครองยังให้ดำเนินการตาม พรบ.แร่ ปี 2560 ซึ่งเราเชื่อว่าต้องเริ่มใหม่ทุกขั้นตอน ทั้งไต่สวน , ประชาคม , อีไอเอ. และประทานบัตร เมื่อมีการประชุมชาวบ้านก็สงสัย ว่าจะมีการปลุกผีเหมืองอีกจึงถาม
“ กลุ่มอนุรักษ์ฯมาพบเพื่อยื่นหนังสือครั้งนี้ ชาวบ้านไม่พอใจท่าทีของภาครัฐเท่าที่ควร เราแจ้งจะมาพบท่านผู้ว่าฯล่วงหน้า ขอให้จัดห้องประชุมพูดคุยกันไม่ได้มาประท้วง ห้องประชุมก็ไม่จัดไว้ให้ ห้องน้ำบางส่วนก็ปิดใช้ไม่ได้ พอมาขอห้องประชุมอีกก็บอกว่าต้องขออนุญาต เมื่อวันนี้ ผวจ.อุดรธานี มารับหนังสือ รับปากจะตอบข้อสอบถาม 5 ข้อของเรา หากถึงวันนัดเราไม่ได้คำตอบ ก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ”
