ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเย็นวันที่ 24 ตุลาคม 2561 วันออกพรรษาของปีนี้ แม้จะมีการรณรงค์ห้ามขาย “ประทัดลูกบอล” เพราะมีความรุนแรงทำให้มีเด็ก บาดเจ็บ-พิการ-ตาย แต่ก็ยังมีเด็กบาดเจ็บจากประทัดลูกบอล เข้ารับการรักษาต่อเนื่อง จากเมื่อวานมีจำนวน 15 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 19 ราย โดยมีเหตุรุนแรงถึงขั้นพิการ 1 ราย ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี ซึ่งพื้นที่นี้มีผู้บาดเจ็บมากถึง 3 ราย
โดยรายที่ต้องพิการถาวรเป็นรายที่ 3 เกิดเมื่อเวลา 14.45 น. ด.ช.ธนวัฒน์ ยาพงษ์ อายุ 13 ปี อยู่เลขที่ 50 หมู่ 9 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ไปซื้อประทัด “ลูกบอล” มาจากร้านใกล้กับศาลเจ้าริมลำปาว ทต.กุมภวาปี จำนวน 1 ถุง 100 ลูก ราคา 80 บาท แล้วนำกลับมาจุดที่บ้านกับเพื่อน ขณะจุดชนวนหลุด ประทัดลูกบอลระเบิด ก่อนที่จะโยนประทัดออกไป จึงทำให้ระเบิดใส่มือขวา ฝ่ามือฉีก นิ้วชี้ขาด 1 ข้อ นิ้วกลางเป็นแผลฉีก ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่ รพ.กุมภวาปี แพทย์พยาบาลได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเทศกาลออกพรรษา ปี 2561 จ.อุดรธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด พลุไฟ ดอกไม้เพลิง จนถึงเวลา 24.00 น. วันที่ออกพรรษา เข้าการรักษารวม 29 ราย เป็นวันออกพรรษา 12 ราย สูงสุดเกิดที่ อ.เมือง 8 ราย รองลงมาคือ อ.กุมภวาปี , บ้านผือ , สร้างคอม อำเภอละ 3 ราย , อ.หนองวัวซอ , ไชยวาน , ประจักษ์ฯ , พิบูลย์รักษ์ อำเภอละ 2 ราย และ อ.หนองหาน , บ้านดุง , เพ็ญ , หนองแสง อำเภอละ 1 ราย มากกว่าปีก่อน 6 ราย
โดยได้รับบาดเจ็บ แขนและมือ 16 ราย (ข้อนิ้วขาด 3 ราย) , ตา 4 ราย , ใบหน้า 3 ราย , คอ-หลัง-ลำตัว-หน้าท้อง 2 ราย และแขน-ขา-ส่วนอื่นๆ 4 ราย ผู้บาดเจ็บอายุระหว่าง 3-9 ขวบ 8 ราย , อายุ 10-14 ปี 14 ราย , อายุ 15-20 ปี 3 ราย และอายุสูงกว่า 20 ปี 4 ราย ซึ่งเป็นการบาดเจ็บจากประทัดลูกบอลแบบ 1 ลูก หรือเอามารวมกันที่เด็กเรียกว่า ซีโฟว์ 20 ราย ที่เหลือบาดเจ็บจาก สามเหลี่ยม , ไข่มังกร , พลุ , ดอกไม้ไฟ และไม่ทราบชนิด