เมื่อเวลา 13.10 น.วันที่ 24 กันยายน 2565 พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุชายเสพยาบ้าคุ้มคลั่งเผาบ้านเลขที่ 205 หมู่ 4 บ้านแหลมทองพัฒนา ต.หนองแวง และบ้านเลขที่ 32 ที่อยู่ใกล้กันอีก 1 หลัง จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.หนองแวง รุดออกไปตรวจสอบระงับเหตุ พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน และตำรวจป้องกันและปราบปราม
ที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียว เพลิงกำลังลุกไหม้เครื่องยนต์ไถนาคูโบต้า ซึ่งวางอยู่ภายในห้องโถง เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบเครื่องยนต์ไถนาคูโบต้าถูกไฟไหม้เสียหายทั้งเครื่อง และที่บ้านเลขที่ 32 ที่อยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีควันไฟพวยพุ่งออกมา และพบไฟกำลังลุกไหม้ทีวีขนาด 42 นิ้ว อยู่ภายในห้องโถง ข้าวของภายในบ้านถูกทำลายเกลื่อน เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำดับไฟ โชคดีที่ไฟยังไม่ลุกลาม
ส่วนคนก่อเหตุคือนายสำลี มะไลย์ อายุ 34ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 32 หลังก่อเหตุได้วิ่งหนีเข้าไปในป่าสวนยางหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมมาได้ จากการสอบสวนนายสำลี ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนเผาบ้านทั้งสองหลัง เพราะหลังจากเสพยาบ้า 3-4 เม็ด ตนจะทำงานปลูกต้นไม้ แต่ปลูกอะไรก็ไม่ออกผล และวันนี้มีคนมากระซิบสั่งให้ตนเผาบ้าน แล้วคนสั่งจะรับผิดชอบเอง จึงตัดสินใจเผาบ้านยายและบ้านอา ตำรวจจึงแจ้ข้อหา “ วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเสพยาบ้า ” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางคำพี มะไลย์ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 32 ซึ่งเป็นยายนายสำลี เล่าว่า ปกติตนจะอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับนายสำลี หลานชาย ส่วนบ้านเลขที่ 205 เป็นบ้านของลูกชาย คือนายบุญถิ่น มะไลย์ อาของนายสำลี ไปทำงานที่ จ.ชลบุรี นายสำลี หลานชาย เคยแต่งงานมีครอบครัว โดยตนขายที่ดินเป็นค่าสินสอด แต่ก็อยู่ด้วยกันไม่นานก็แยกทางกัน เพราะนายสำลีติดเสพยาบ้า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 ปี นายสำลีเสพยาบ้าหนักวันละหลายเม็ด จนมีอาการหลอน โดยจะข่มขู่เอาเงินจากยายและแม่ไปซื้อยามาเสพ ถ้าไม่ให้ก็จะอาละวาดขู่ฆ่า ทำให้ตนต้องหนีไปอยู่กับลูกสาวและลูกเขยที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เพราะต้องอยู่อย่างหวาดผวา
”เคยจะเอาไปรักษาแต่นายสำลีไม่ยอมไป ส่วนแม่นายสำลีก็หนีไปอยู่กับแม่สามีใหม่ ปล่อยให้นายสำลีอยู่คนเดียว เพราะกลัวถูกทำร้าย และวันนี้ก็มาเผาบ้านทั้งสองหลัง ตนจึงรีบกลับมาดู ซึ่งตนไม่รู้สึกสงสาร อยากให้ตำรวจจับติดคุกนานๆ เพราะถ้าออกมาพวกตนเกรงว่าจะถูกนายสำลีฆ่าตาย
นางสุภาพ ชมมอญ อายุ 49 ปี แม่นายสำลี เล่าว่า ลูกชายเสพยาบ้าจนหลอนและคลั่งมานานแล้ว ตนกลัวจนตนต้องหอบลูกหลานหนีไปขออาศัยอยู่บ้านของแม่สามีใหม่ แต่ก็นำข้าวปลาอาหารมาส่งให้ลูกทุกวัน ส่วนยายที่เลี้ยงเขามาก็หนีไปอยู่ที่อื่น เพราะเขาเป็นตัวอันตราย เวลาอาละวาดไปขอความช่วยเหลือใครก็ไม่กล้า เพราะทุกคนว่าลูกชายเป็นบ้า และไม่อยากยุ่งเพราะทุกคนกลัวจะถูกทำร้าย
