วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมสลด 2 นร.หญิง ขับ จยย.ฝ่าฝนไปเรียนถูกพ่วง 18 ล้อเหยียบดับคู่

สลด 2 นร.หญิง ขับ จยย.ฝ่าฝนไปเรียนถูกพ่วง 18 ล้อเหยียบดับคู่

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2566 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เหยียบเด็กนักเรียนหญิงเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณุหน้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุดรธานี หลักกิโลเมตรที่ 14 ถนนอุดร-หนองบัวลำภู ฝั่งขาเข้าเมืองอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีญาติผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าว เดินทางไปที่เกิดเหตุ นั่งร้องไห้ด้วยเศร้าโศกเสียใจ ดังระงมในพื้นที่ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่พบเห็น

ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ศุภิสรา รัตนะโค้น หรือเบล อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/9 รร.สตรีราชินูทิศ คนขับรถจักรยานยนต์ สภาพศพถูกล้อรถขนาดใหญ่เหยียบร่างกายแหลกเหลว และ ด.ญ.เกศสุดา เนตณีย์ หรือเนย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/8 รร.อุดรพิชัยรักษ์พิทยา สภาพศพท่องล่างถูกเหยียบกระดูกแตกละเอียด สอบถามญาติทราบว่าทั้งคู่เป็นญาติกัน เป็นราษฎร ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีเทาดำ ทะเบียน 2กฒ 3270 อุดรธานี ล้มตะแครงอยู่ริมถนน พังเสียหายเล็กน้อย

ห่างไปประมาณ 800 เมตร รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 81-5523 หนองบัวลำภู ลูกพ่วง ทะเบียน 81-5524หนองบัวลำภู จอดอยู่ริมถนน ไม่มีร่องการเชี่ยวชน มีนายอนันต์ ประธรรมเต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.4 ต.นาคำไฮ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู แสดงตัวเป็นผู้ขับรถพ่วง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวพร้อมรถพ่วง ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ห้วยหลวง ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้อาสากู้ภัยฯ ไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติไปติดต่อรับศพ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

นายอนันต์ฯ คนขับรถพ่วง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกหินจาก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จะไปส่งให้นายจ้างที่ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ออกมาตั้งแต่ 05.00 น. ตนขับมาด้วยความเร็วปกติ ก่อนถึงจุดเกิดเหตุตนเบี่ยงเข้าเลนขวาเล็กน้อย เพื่อแซงรถจักรยานที่ปั่นอยู่ข้างหน้า เมื่อแซงไปได้สักพักก็มีคนขับรถจักรยานยนต์ตามมาบอกให้จอด ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุ เมื่อจอดรถแล้วก็ลงมายืนรออยู่หน้ารถ ไม่ได้หลบหนี แล้วจึงโทรบอกนายจ้าง ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่มาสอบถาม

“ตนขับรถพ่วงมาตามปกติ ไม่ได้ชนรถจักรยานยนต์ ไม่ได้ชนอะไรทั้งสิ้น และไม่รู้ว่าเหยียบคนตาย ไม่เห็นเด็กขับรถจักรยานยนต์มาด้วยซ้ำ พอรู้ว่าเป็นเด็กนักเรียน ตนก็ตกใจมาก เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตนก็มีลูกเรียนอยู่ชั้น ม.2 เช่นกัน พูดถึงก็ยังสลดใจ ขนลุกไปหมด ขอโทษญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตด้วย ตนก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และจะช่วยทำบุญกับญาติผู้ตายด้วย” หลังจากนั้นญาติผู้ตาย ได้เดินทางมาที่ สภ.ห้วยหลวง เพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจ และได้พูดคุยสอบถาม นายอนันต์ฯ ว่าเหตุเกิดขึ้นอย่างไร นายอนันต์ฯ ยกมือไหว้ขอโทษ ส่วนญาติพี่น้องก็รับฟังด้วยความเข้าใจ แต่ก็ร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา

ด้านนางสุบิน รักษาบุญ อายุ 63 ปี ยายน้องเบล เล่าทั้งน้ำตาว่า น้องเบลกับน้องเนย เป็นญาติกัน พอแม่ทั้งสองไปทำงานที่ กทม. ทั้งคู่มานอนที่บ้านตนที่บ้านโนนปอแดง ปกติน้องเบลจะนั่งรถตู้ไปโรงเรียน ส่วนน้องเนยจะนั่งรถโดยสาร เมื่อเช้านี้ทั้งสองอาบแต่งตัวเสร็จแล้ว ตนบอกให้น้องเบลว่ารถตู้มาแล้ว แต่น้องเนยไม่ไป จะขี่รถจักรยานยนต์ไปกับน้องเนย ตนจะห่อข้าวให้ก็ไม่เอา ตนบอกให้เอาหมวกกันน๊อค ตาบอกให้เอาเสื้อกันฝน อย่าขับรถเร็วฝนมันตก น้องเบลขอเงินเติมน้ำมัน แต่ตนไม่มี เย็นนี้จะขายมันสำปะหลังค่อยมาเอา

“ก่อนเกิดสลดเมื่อ 2 – 3 วันก่อน ช่วงกลางคืน รถกระบะของพ่อน้องเบลที่จอดไว้บ้านพัก อยู่ดีดีสัญญาณกันขโมยก็ดังสนั่นไปรอบบ้าน คล้ายกับว่ามีคนมางัดรถ หรือมาขโมยรถ เมื่อออกมาดูก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนตนเองเมื่อวานนี้ตอนเย็นยังเห็นหลานพูดคุยกับหลานตามปกติ แต่ตาข้างขวาของตนกระตุกอยู่เป็นระยะ น่าจะเป็นรางสังหรณ์ก่อนที่จะสูญเสียหลานทั้ง 2 ไป เมื่อทั้งสองได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันไปโรงเรียน ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่ารถชนน้องเบลและน้องเนย เสียชีวิต ซึ่งจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดอัมพวัน หมู่ 6 บ้านนิคมสงเคราะห์ 2 ส่วนน้องเนย นำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน”

พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการเชี่ยวชน รถจักรยานยนต์มีร่องรอยการล้มที่ด้านหน้าเล็กน้อย พื้นถนนมีรอยลากเป็นทางยาวประมาณ 3 เมตร คาดว่าเกิดจากรถพ่วงเกี่ยวรถจักรยานยนต์บดไปกับพื้นถนน ส่วนรถพ่วงก็ไม่มีร่องรอยการชน คาดว่าเด็กขับรถจักรยานยนต์เพื่อรีบไปโรงเรียน แต่เนื่องจากฝนตกตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ทำให้มีน้ำขังบนพื้นถนน อาจจะทำให้ลื่นและล้มลง เมื่อรถพ่วงขับตามมา พ่วงตัวลูกจึงเหยียบเข้าอย่างจัง โดยยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะได้สอบสวนคนขับรถพ่วงอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต”

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments