ขุนแผนวัย 60 แห่งบ้านโคกกลาง อ.โนนสะอาด อุดรธานี ความแตกเมียรู้ได้แอบมีกิ๊ก หลักฐานชัดแชคนัดทางไลน์ ไม่ทันไรถูกดักยิงเช้าตรู่ตอยไปขุดมัน เมียสงสัยกิ๊กม่ายลูกติดวัย 54 เหตุสามีเลือกครอบครัว ด้านกิ๊กม่ายลูกติดยืนยัน รักบริสุทธิ์สานสัมพันธ์นาน 7 ปี เชื่อผู้ตายรักสองเมียคนละครึ่ง
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 เมษายน 2567 ร.ต.อ. ชินาธิป บัวเข็มรอง สว. (สอบสวน) สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี รับแจ้งออกสอบสวน เหตุคนถูกยิงเสียชีวิตในไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศตะวันออกบ้านโคกกลาง ม.13 ต.โคกกลาง พร้อม พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.โนนสะอาด พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง สส.สภ.โนนสะอาด ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลโนนสะอาด อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดบริการโนนสะอาด
ที่เกิดเหตุเป็นทางเข้าไร่มันสำปะหลัง ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร พบศพนายพิจิตร์ ว่องไว อายุ 60 ปี อยู่เลขที่ 51 ม.2 ต.โคกกลาง อ. โนนสะอาด นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดงน้ำเงิน กางเกงขายาวลายพลาง สวมรองเท้าบูท มือขวากำมีดพร้า พบขวานตกอยู่ใกล้ศพ และรถไถผู้ตายจอดอยู่ห่างไป 4 เมตร จากการชันสูตรพบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกปลายเข้าหน้าอก 5 ลูก กระสุนฝังใน มีเลือดออกปาก เสียชีวิตมากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนนำศพไปผ่าลูกกระสุน ที่แผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี
สอบสวนนายสมาน หีบแก้ว อายุ 60 ปี คู่เขยผู้ตาย เล่าว่า นัดผู้ตายมาขุดมันสำประหลัง ที่ไร่ของผู้ตายปลูกไว้ 10 ไร่ ติอนตี 4 ผู้ตายขับรถไถออกจากบ้านมาก่อน ส่วนตนขับรถอีแต๊กออกมาตี 5 เมื่อมาถึงก็พบผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ ครั้งแรกนึกว่าวูบเป็นลม จึงเดินไปพลิกผู้ตายขึ้น จึงรู้ว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งผู้ตายไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ไม่เคยมีศัตรู เป็นคนขยันทำงานทำไร่ทำนา ไม่เคยมีเรื่องยาเสพติด แต่เรื่องชู้สาวก็มีบ้าง เพราะผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ จะมีผู้หญิงรุ่นน้องในหมู่บ้านมาชอบพอผู้ตาย แต่ยังไม่ถึงขั้นมีเรื่องราว
นายบัวลี ว่องไว อายุ 88 ปี พ่อผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเป็นคนขยัน มีลูกสาว 2 คน คนโตเรียนจบพยาบาล ส่วนลูกสาวคนเล็กทำธุรกิจส่วนตัว ลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร แต่รู้ว่าลูกจะมีนิสัยเจ้าชู้ คนไปบอลว่าลูกถูกยิง ก็รีบออกมาดู อยากจะรู้ว่าใครเป็นคนยิง อยากเห็นหน้า ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ อยากรู้สาเหตุยิงลูกตนทำไม อยากให้ตำรวจจับตัวได้โดยเร็ว หรือให้คนร้ายมามอบตัวกับตำรวจ
ขณะที่ นางสุดตา ว่องไว อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า กินอยู่กันมา 37 ปี สามีเป็นคนขยัน รักครอบครัว ไม่เคยมีทะเลาะกับใคร แต่เจ้าชู้ พอตนรู้เรื่องสามีก็บอกเลิกกันแล้ว แต่ผู้หญิงก็ส่งข้อความมาแชดทางไลน์มาตลอด โดยเมื่อ 3 วันก่อน หญิงม่ายที่สามีไปคบหา ส่งข้อความทางไลน์มาหาสามีว่า
“ ทำไมไม่ตอบไลน์ จะให้ตามไปถึงบ้านไหม เมื่อเห็นจึงตอบไปว่าอย่าส่งมาอีก เพราะผู้ชายมีลูกเมียแล้ว ส่วนสาเหตุปมสังหาร คาดว่าผู้หญิงที่สามีไปคบหา แต่ถูกบอกเลิกจะโกรธ ที่สามีเลือกจะอยู่กับครอบครัว จึงไปดักยิงสามี หรือจ้างคนไปยิงสามีขณะขับรถไถไปขุดมันสำปะหลังที่ไร่ ”
เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง ผกก. สส.สภ.โนนสะอาด พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน สภ.โนนสะอาด ตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และตำรวจสืบสวน ภ.4 เชิญตัวนางหนูเพียร (กิ๊กผู้ตาย) อายุ 54 ปี ราษฎร ม.10 บ.โคกกลาง อ.โนนสะอาด และนายชั้น โซ่เงิน อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 163 ม.13 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เขยใหญ่มาสอบปากคำ และตรวจสอบเขม่าดินปืน และนำเสื้อผ้าของนายสมาน หีบแก้ว อายุ 60 ปี เขยคนกลาง ตรวจหาเขม่าดินปืน คาด 1 สัปดาห์ จะรู้ผลตรวจ
โดยตำรวจตั้งปมไว้ 2 ประเด็น คือ แค้นส่วนตัวและชู้สาว หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนได้ลงพื้นที่ หาหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ลานรับซื้อมันสำปะหลัง ที่อยู่ทางออกหมู่บ้านโคกกลาง แต่มุมกล้องส่องไปไม่ถึง พร้อมกับหาพยานหลักฐานจุดเชื่อมโยงในคดี ซึ่งตำรวจทีมไล่ล่าคาดว่าจะจับตัวคนร้ายได้เร็ววันนี้ แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน เพราะผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้มีผู้หญิงสาวแก่แม่ม่ายมาติดพันธุ์กันมาก เนื่องจากผู้ตายมีหน้าตาดี ถึงแม้จะอายุมากก็ตาม
นางหนูเพียรฯ กิ๊กผู้ตาย เปิดเผยว่า เป็นม่ายมีลูกชาย 3 คน แอบคบหากันกับผู้ตายมา 6-7 ปี กระทั่งภรรยาผู้ตายจับได้เมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกจับได้ก็ยังแอบโทรติดต่อกัน และนัดหมายไปมาหาสู่กัน 2-3 ครั้ง แต่หลังจากวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของผู้ตาย ผู้ตายบอกภรรยาโทรศัพท์ไว้ ไม่ต้องโทรมาหา แต่ตนก็ส่งข้อความผ่านไลน์ไปหา เพราะความคิดถึงจึงได้ไลน์หากัน ถ้าผู้ตายออกมาให้ข้าวสุนัขที่กระท่อมนา ก็จะโทรหานัดหมายกัน
“ เมื่อถูกสงสัยเกี่ยวข้องกับการตาย ยืนยันไม่ทำแบบนี้แน่นอน เพราะคบหากันมาหลายปี มีความรักให้กันและกัน เวลาเขาไม่มีเงินใช้ก็ให้เงินใช้ ผู้ตายไม่เคยเอาเงินให้ เพราะถ้าทางบ้านรู้จะมีเรื่องกัน และจะคบหากันไม่ได้ เมื่อเรื่องแดงขึ้นมา ผู้ตายก็ยังคุยอยู่ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก คุยเล่นกันธรรมดา ยืนยันว่ารักผู้ตายมาก ตลอดเวลาคบกับเรียกพ่อตลอด ก็อยากบอกทางภรรยาผู้ตายว่า ไม่ได้เป็นคนทำ เพราะไม่ได้หวังเอาอะไร ส่วนมือที่ 3 นั้นก็ไม่มี ขอยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าไม่ได้ทำแน่นอน”
นางหนูเพียรฯ กิ๊กผู้ตาย เปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมาภรรยาผู้ตายยังไม่รู้เรื่อง ตนกับผู้ตายจะโทรคุยกันช่วงตี 2 ทุกวันที่ผู้ตายออกมาสวน และทุกวันนี้ก็ยังแอบคบหากัน แล้วตนจะไปทำร้ายเขาทำไม เสียใจที่ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต คิดไม่ออกและไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพิ่งโทรคุยกันตอนตี 4 ครึ่ง เขาบอกว่า “ รักแม่เด้อ พ่อไปทำงานก่อนเด้อ เดี่ยวพรุ่งนี้ค่อยออกมาหากัน” ซึ่งผู้ตายเคยบอกว่ารักตนและภรรยาทั้ง 2 คนเท่ากัน
ด้านนายชั้น โซ่เงิน เขยใหญ่ เปิดเผยว่า มาพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในการสอบปากคำ และตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน ตนกับผู้ตายรวมทั้งเขยคนกลาง ก็รักใคร่ปรองดองกันกับผู้ตายมาตลอด มีอะไรก็แบ่งกันกิน เพราะผู้ตายเป็นเขยเล็ก และมีไร่มันสำปะหลังติดกับสวนยางพาราของตน และติดกับไร่มันสำปะหลังของเขยคนกลาง หลังจากแม่ยายและพ่อตาแบ่งให้ลูกๆ 6 คน และขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ