เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ขณะที่ ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่ามีเหตุคนร้ายขโมยเงินตู้บริจาคในศาลาการเปรียญ วัดศรีแก้วจอมทอง ม. 9 บ.ตูม ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย สายตรวจตำรวจชุมชนตำบลหนองนาคำ
นายไพบูลย์ พลโต ผญบ.ม.9 บ้านตูม นำตรวจสอบบริเวณหน้าองค์พระประธาน ซึ่งเป็นที่ตั้งตู้บริจาครูปปั้นเณรให้พรภายในศาลาการเปรียญหลังเก่า ประตูหน้าต่างไม่พบร่องรอยการงัดแงะ เนื่องจากไม่ได้ล็อกไว้เพราะไม่เคยมีโจรขโมยเข้ามาก่อเหตุร่วม 20 ปี ห่างไปทางด้านหลังวัดราว 50 เมตร บริเวณข้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ พบตู้บริจาคตั้งอยู่ ด้านหลังตู้ถูกคนร้ายงัดกุญแจเปิดเอาเงินที่ญาติโยมบริจาคทำบุญค่า น้ำ-ไฟ ไปประมาณ 3,000 บาท คาดว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุตามลำพัง อาจจะเป็นคนในชุมชนหรือหมู่บ้านใกล้เคียง อาศัยความมืดในช่วงกลางคืน ปีนกำแพงด้านหลังวัดที่ติดกับหนองน้ำเข้าก่อเหตุก่อนหลบหนีไป
นายไพบูลย์ พลโต ผญบ.บ้านตูม เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านและวัด จัดซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้ง เพื่อเป็นการป้องปรามโจรที่เข้ามาก่อเหตุ และจะได้รู้เห็นตำหนิรูปพรรณของคนร้ายที่ไม่กลัวบาปกรรม ที่กล้าลักขโมยได้กระทั่งทรัพย์สินภายในวัด และจะกำชับพระสงฆ์ภายในวัดให้ปิดล็อกหน้าต่างประตูให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เป็นยุคโควิด ที่หากินกันลำบากทำให้โจรขโมยก็มีมากขึ้นเช่นกัน
พระอธิการสถิต สุจิตโต อายุ 60 ปี เจ้าอาวาสวัดศรีแก้วจอมทอง เปิดเผยว่า อาตมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มา 20 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์โจรขโมยเข้ามาก่อเหตุ อยากฝากถึงโจรให้เลิกก่อกรรมทำชั่ว ลักขโมยของวัดมันเป็นบาปกรรมหนัก ญาติโยมเขามาทำบุญบริจาคช่วยค่าน้ำค่าไฟของวัด หากโจรได้ยินคำพูดของอาตมา ก็ขอให้เลิกเป็นโจรขโมย เพราะช่วงนี้โควิด 19 ระบาดหนัก ใครๆก็เดือดร้อน พระสงฆ์ตามวัดก็เดือดร้อนเช่นกัน…..