ชาวบ้าน บ.หนองแซงสร้อย ม.5-7-9 ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี คัดค้านสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยยางล่าง ความจุ 8.75 ล้าน ลบม. ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน และชาวบ้านเหล่านี้คือ ผู้ที่เคยอาศัยอยู่พื้นที่น้ำท่วม ของอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงในปัจจุบัน ต้องอพยพมาอยู่ที่นี่กว่า 48 ปีแล้ว ยังถูกตามมาไล่เป็นรอบที่สอง และยังขอให้ตรวจสอบบริษัทที่ปรึกษา นำเสนอข้อมูลเท็จว่าชาวบ้านไม่คัดค้าน
สัปดาห์ที่ผ่านมา (18 ม.ค.65) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)น้ำพ่น นายไพโรจน์ เตชะเจริญสุขจีระ ผอ.ส่วนวางโครงการที่ 2 สนง.บริหารโครงการ กรมชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการประชุมหารือชี้แจง รายละเอียดโครงการ “อ่างห้วยยางล่าง” เพิ่มเติม ตามร่างแผนการศึกษาพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนบน-ตอนกลาง โดยมี อบต.น้ำพ่น , กำนัน-ผญบ.-สมาชิก อบต.ในพื้นที่ ต.น้ำพ่น และใกล้เคียง , ตัวแทนชาวบ้านที่คัดค้าน โดยมีชาวบ้านอีกกว่า 100 คน รอผลการประชุมบริเวณหน้าอาคาร
ที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูล “อ่างฯห้วยยางล่าง” และร่างแผนการศึกษาฯ ว่าเป็นการศึกษาทั้งระบบ มีแผนงานโครงการหลายส่วน ที่ชาวบ้านจะได้รับประโยชน์ จากน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และป้องกันน้ำท่วม พร้อมชี้แจงข้อเสนอชาวบ้าน เพื่อสร้างอ่างฯในพื้นที่ใกล้เคียง 2 จุด จุดแรก พื้นที่ระหว่างช่องเ-า 2 ลูก มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมราว 20,000 ไร่ ห่างจาก บ.หนองแซงสร้อย 5 กม. จุดที่สอง บริเวณห้วยลี่ผี อยู่ทางทิศใต้ บ.หนองแซงสร้อย เป็นพื้นที่ติดต่อ จ.อุดรธานี กับ จ.หนองบัวลำภู
นายประยูร นารี อายุ 66 ปี อดีตกำนัน ต.น้ำพ่น กล่าวว่า ชาวบ้าน ม.5-7-9 ร้องเรียนไปที่ผู้ว่าฯ , สภาผู้แทนราษฎร , และนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการอ่างฯห้วยยางล่าง ที่ผ่านมาไม่เคยมาถามชาวบ้าน บริษัทฯที่ปรึกษาฯที่จ้างมา ไม่ทำตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี รายงานผลการศึกษาเป็นเท็จ โดยเฉพาะจำนวนแปลงที่ดินถูกน้ำท่วม และบอกว่าชาวบ้านไม่คัดค้าน ไปตรวจสอบได้ถ้ามีชาวบ้านในพื้นที่เพียงคนเดียว เห็นด้วยกันโครงการจะขอยอมตาย ข้อร้องเรียนระบุด้วยว่า ให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ด้วย
นายบรรจง วิเศษศักดิ์ อายุ 59 ปี ผญบ.ม.5 และนายพาส ทองทัน อายุ 61 ปี ส.อบต.น้ำพ่น กล่าวว่า ชาวบ้านเจ็บช้ำน้ำใจยังไม่ลืม ที่ต้องอพยพจากบ้านน้ำพ่น ที่อยู่ใต้น้ำของอ่างฯห้วยหลวงขณะนี้ ขึ้นมาอยู่ที่บ้านหนองแซงสร้อย ไม่อยากได้ยืนคำว่าสร้างอ่างฯ-สร้างประตูน้ำ-สร้างฝาย พอได้ยินว่ามีโครงการติดตัวหมู่บ้าน เรากินไม่ได้นอนไม่หลับ ชาวบ้านหวาดระแวงไปหมด แม้แต่ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นก็ถูกกล่าวหา ขอให้เอาโครงการนี้ออกไปให้ด้วย
ขณะตัวแทนคนรุ่นใหม่ เรียกร้องให้กรมชลประทาน เปิดเผยร่างแผนการศึกษา(ฉบับเต็ม) ไม่เอาฉบับผู้บริหาร(ฉบับย่อ) กับประชาชนตลอดแผนการศึกษา รวมทั้งแผนการศึกษาพื้นที่ใหม่ หากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในพื้นที่อื่น และหากพบว่าบริษัทฯที่ปรึกษา นำข้อมูลเท็จมาประกอบในรายงาน ขอให้มีการสอบสวนเพื่อลงโทษ ด้วยการยึดใบอนุญาตของที่ปรึกษารายนี้
นายไพโรจน์ เตชะเจริญสุขจีระ ผู้อำนวยการส่วนวางโครงการที่ 2 สนง.บริหารโครงการ กรมชลประทาน ยืนยันในที่ประชุมว่า จะยกเลิกแผนโครงการอ่างห้วยยางล่าง ตามที่ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย โดยลงมาชี้แจงกับชาวบ้านที่รออยู่ เมื่อบอกกับชาวบ้านว่า “ไม่มีโครงการอ่างฯห้วยยางล่าง” ชาวบ้านต่างดีใจปรบมือ ส่งเสียงไชโยโห่งร้องด้วยความพอใจ แล้วแยกย้ายกับเดินทางกลับ
นายไพโรจน์ เตชะเจริญสุขจีระ เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้เข้ามาศึกษา ลุ่มน้ำห้วยหลวงตนบน-ตอนกลาง จะสมารถพัฒนาอะไรได้บ้าง อ่างฯห้วยยางตอนล่าง ก็เป็นหนึ่งที่สามารถพัฒนาได้ ที่ผ่านมาเราก็ลงมารับฟังความคิดเห็นอยู่ ตอนนั้นก็มีข้อจำกัดเรื่องผู้เข้าร่วมประชุม สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ประชุมได้ไม่มากนัก ทำให้เกิดข้อผิดพลาดไป ต่อมาเราพบว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย เป็นชาวบ้านที่เคยรับผลกระทบมาแล้ว เราก็เข้าใจความรู้สึกชาวบ้าน เมื่อรับทราบข้อเท็จจริง เราก็จะไม่พิจารณาโครงการนี้ จะไปพิจารณาโครงการอื่นต่อไป
การศึกษาแผนแม่บทพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนบน (พื้นที่ต้นน้ำ-อ่างฯห้วยหลวง) และตอนกลาง (อ่างฯห้วยหลวง-ประตูน้ำสามพร้าว) มีเป้าหมายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง ด้วยการหาพื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำ พื้นที่ต้นน้ำที่ไม่ไหลลงอ่างฯห้วยหลวง 100 ล้าน ลบม. และสร้างสถานีเพื่อบริหารจัดการน้ำ แผนงานสร้างอ่างฯห้วยยางล่าง ที่ถูกพับไปถือเป็นบทเรียนของที่ปรึกษา ที่ไปปักหมุดโครงการโดยไม่คิดถึงภูมิหลังพื้นที่ ระวังโรคห้วยยางล่างจะลามไปแผนงาน….
