เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.สภ.ดงเย็น พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายไพรวัลย์ จันทร์แดง หรืออ้อน อายุ 37 ปี ชาวบ้านสมวิไล ม.5 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่ก่อเหตุใช้ท่อนไม้ตีศีรษะพระวัชกร ภฺททโก กองจันทร์ อายุ 53 ปี พระลูกวัด วัดป่าภูพานทอง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เสียชีวิตอยู่ศาลาที่พักริมทาง หน้าโรงเรียนบ้านสมวิไล ม.5 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง มาสอบปากคำ และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมามุงดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และพบนางบัวแก้ว จันทร์แดง อายุ 56 ปี แม่ผู้ต้องหา มายืนดูอยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวมาจุดที่ก่อเหตุ และเส้นทางหลังก่อเหตุ พร้อมทั้งไปชี้จุดที่เอาไม้มาแล้วก่อเหตุ ซึ่งใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นก็นำตัวไปส่งฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี ต่อไป โดยกล้องวงจรปิดบ้านฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุสามารถบันทึกภาพพบนายอ้อนเดินมาที่ศาลาริมทางสองครั้ง ซึ่งครั้งแรกเวลา 21.20 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา แล้วเดินกลับออกไปเวลา 21.21 น. จากนั้นเวลา 21.23 น.ได้เดินกลับมาที่ศาลาอีกครั้ง แล้วเดินกลับออกไปเวลา 21.24 น.คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่นายอ้อนก่อเหตุฆ่าพระวัชกรเสียชีวิต โดยแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
นายไพรวัลย์ จันทร์แดง หรืออ้อน ให้การว่า ตนไม่เคยรู้จักกับพระ แต่พระเป็นโจรแหกคุกหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านตน และก็มีคนมากระซิบข้างหูบอกตนให้รู้ทุกอย่าง ซึ่งเมื่อคืนตนไม่ได้ฝันเห็นพระมีเพียงแต่เห็นแมวดำมาในฝัน ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นพระเห็นเพียงห่มผ้าเหลือง โดยตนมองไม่เห็นผู้ตาย มีเพียงเพื่อนที่มองเห็น แล้วหลอกพระออกมา ตนจึงเห็นและก่อเหตุไล่จากบ้านก็ไม่หนี แต่มาไล่ฆ่าตน ตนเลยให้เพื่อนที่บ้านหลอกพระออกมาฆ่า
นางบัวแก้ว จันทร์แดง อายุ 56 ปี แม่ผู้ต้องหา เล่าว่า ตนไม่รู้ว่าลูกชายจะมาคิดทำเรื่องชั่วแบบนี้ ทั้งที่ตนก็ไม่ได้ดุด่าอะไรเลย ตนเลี้ยงลูกมาจนป่านนี้แล้ว ซึ่งตนและสามีย้ายออกมาจากบ้านที่ลูกชายอยู่ได้ 4-5 ปีแล้ว เพราะลูกชายมีพฤติกรรมแบบนี้ ตนก็ไม่มีเงินที่จะไปประกันตัวลูก ตนก็อยากบอกลูกว่า แล้วแต่ชีวิตของลูก เพราะแม่ก็สร้างมาให้ได้เท่านี้ อยากให้ลูกเป็นคนดี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ทั้งที่สอน อยากกินอะไรก็ซื้อให้ ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นขนาดนี้
“ ลูกชายเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไม่เคยทำร้ายตนมีแต่ขู่เท่านั้น ตนก็เงียบและระวังตัว ลูกชายก็จะมาขอเงินประจำ วันละ 30 -40 บาท เพื่อมาซื้อของกิน ซึ่งบางวันก็มาขอข้าว ตนก็ตามดูนึกว่าไปซื้อยาบ้า แต่ก็เห็นไปซื้อของกิน ลูกชายคุ้มดีคุ้มร้ายนานแล้ว เห็นคนก็ถามพูดจาดีปกติ ช่วงหนึ่งก็กลัวคนแล้ววิ่งไปหลบ เพื่อนมาหาก็วิ่งหนีไปบนบ้าน ตนก็ไม่คิดว่าลูกจะมาทำแบบนี้ เสียใจมาก ตนอยากบอกให้ลูกเป็นคนดีให้ไปชดใช้กรรมชดใช้เวรที่ก่อเหตุไว้ “
นางสุพรรณี บุญกระจ่าง อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า คืนเกิดเหตุตนได้ยินแต่เสียงสุนัขเห่า แต่ปกติจะเห่านาน แต่คืนนั้นเห่าไม่นาน ตนก็ไม่ได้ขึ้นมาดู เพราะนึกว่าเห่าคนเดินไปมาข้างบ้านหน้าบ้าน ซึ่งตนเคยเห็นพระมานอนที่ศาลานี้นานๆครั้ง ซึ่งพระองค์นี้มาจุดนี้เป็นประจำ คืนเกิดเหตุช่วง 19.00 น.ตนก็เห็นพระเดินไปมาอยู่ เพราะเป็นพระธุดงค์ แล้วก็จะมา 1-2 สัปดาห์ ก็จะไปๆมาๆ บางครั้งก็ไปพบนอนอยู่วัดป่าแถวนี้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็คิดว่าเป็นเพราะติดยาเสพติดแล้วคุ้มคลั่ง เป็นทาสยา คนที่ก่อเหตุก็จะอาละวาดกับชาวบ้านและพ่อแม่จนต้องหนีไป……
