เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเหตุพระนอนมรณะภาพอยู่ในศาลาที่พักริมทาง หน้าโรงเรียนบ้านสมวิไล ม.5 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.วิทยกรณ์ ษมากรวิทิต ผกก.สภ.ดงเย็น , พ.ต.ท.จำรอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดงเย็น ,ตำรวจชุดสืบสวน ,ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี และหน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านตาด รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าว มายืนมุงดู และวิพากษ์วิจารณ์ที่เรื่องที่เกิดขึ้น
ที่เกิดเหตุพบศพพระวัชกร ภฺททโก หรือนายวัชกร กองจันทร์ อายุ 53 ปี ชาว ต.ภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น พระลูกวัด วัดป่าภูพานทอง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนที่นั่งพักศาลาริมทาง ปลายเท้าพบ บาตรพระ ย่ามพระ และรองแตะสีเหลือง ถอดวางไว้ที่พื้น สภาพศพถูกของแข็งทุบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนหน้ายุบ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12.00 ชม. ใกล้กันพบท่อนไม้ใหญ่ประมาณท่อนแขน ยาวประมาณ 1 เมตร ทิ้งอยู่ข้างศาลาฯ หลังจากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบประวัติบุคคลน่าสงสัย ที่มีประวัติอาชญากรรมในพื้นที่ และเดินตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง
ไม่นานก็พบนายไพรวัลย์ จันทร์แดง หรืออ้อน อายุ 37 ปี ชาวบ้านสมวิไล ท่าทางมีพิรุธ วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านเลขที่ 145 ม.5 ต.บ้านตาด ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านสมวิไล ประมาณ 50 เมตร ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก จากการสอบสวนนายอ้อนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า ไม่เคยรู้จักกับพระ แต่พระเป็นโจรเพิ่งออกจากคุก แล้วมาหลบซ่อนอยู่ในบ้านตน ตนก็มองไม่เห็น นอกจากคนที่เป็นริดสีดวง หรือผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนเท่านั้นที่จะมองเห็นพระ แต่มีคนมากระซิบข้างหูบอกตนให้รู้ทุกอย่าง ตนเดินออกมาตามทาง และมาพบพระนอนอยู่ในศาลาริมทาง จึงใช้ท่อนไม้ฟาดไปที่ใบหน้า 3 ครั้ง แล้วก็เดินกลับบ้าน ยอบรับเสพยาบ้าจริง แต่นานมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์
นายวันชัย จันทร์แดง อายุ 56 ปี พ่อนายอ้อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนและภรรยามีลูก 2 คน คนก่อเหตุเป็นคนโต และมีลูกสาวคนเล็ก แต่ก่อนตนและครอบครัวอาศัยอยู่บ้านข้างโรงเรียน เมื่อ 6 ปีก่อนนายอ้อนเริ่มติดยาเสพติดอย่างหนัก ดมกาว เสพยาบ้า จนเริ่มมีอาการทางประสาท ตนและภรรยา ลูกสาว ถูกนายอ้อนหลอนยาจนถูกทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ตนจึงพาครอบครัวหนีนายอ้อนมาสร้างบ้านอยู่บริเวณตรงข้ามโรงเรียน ซึ่งเยื้องกับจุดเกิดเหตุ ปล่อยให้นายอ้อนอยู่บ้านหลังนั้นคนเดียว นายอ้อนไม่ได้ทำงาน ติดยาบ้าอย่างหนัก ตนบอกให้เจ้าหน้าที่จับไปรักษาแต่ก็ไม่ได้นำตัวไปสักที นายอ้อนยังคงมาขอเงินแม่ที่บ้านใหม่ประจำ และยังหาเรื่องทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ
“ คิดไว้แล้วว่าต้องเกิดเหตุร้ายขึ้นสักวัน คิดว่าอาจจะเป็นคนในครอบครัว แต่ก็โชคร้ายที่คนอื่นต้องมารับเคราะห์แทนแบบนี้ เมื่อวานตอนเย็นตนยังเห็นพระมานั่งพักที่ศาลา คิดว่าหากเป็นพระจริงคงจะเข้าไปหาปักกรดอยู่ในป่า ตนกำลังทำงานผลิตอิฐบล็อกอยู่จึงไม่ได้สนใจ เช้ามาก็ยังเห็นพระนอนอยู่ที่เดิม ก่อนออกไปทำงานนอกบ้าน กลับเข้ามาบ้านอีกทีก็เห็นเจ้าหน้าที่มามุงดูศาลากันจำนวนมาก ตอนแรกพอทราบว่านายอ้อนลูกชายเป็นคนก่อเหตุ ก็ตกใจและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากขอโทษครอบครัวของผู้สูญเสีย ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย จะไม่ไปยุ่งกับนายอ้อนอีก ให้เป็นไปตามกรรมที่ก่อไว้ ถ้าหากพระรูปนี้ไม่เสียชีวิต คิดว่าต้องเป็นตนเองที่ต้องตายแน่นอน ”
นายเกียรติชัย สิทธิพรหม อายุ 56 ปี ชาวบ้านสมวิไล เล่าว่า เมื่อวานนี้ตนเห็นพระรูปนี้ประมาณ 17.00 น. อยู่บริเวณแยกบ้านโนนหอมห่างไปประมาณ 500 เมตร ไม่นึกว่าพระท่านจะมานอนพักอยู่ที่ศาลาริมทางตรงนี้ และไม่นึกว่าจะพระท่านจะมาถูกฆ่าตายแบบนี้ ตอนแรกชาวบ้านหลายคนตั้งใจว่าจะมาทำบุญใส่บาตรกับพระท่านในตอนเช้า ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่พระท่านจะธุดงค์ผ่านมาหน้าบ้าน ชาวบ้านที่ผ่านไปมาก็นึกเอะใจจึงออกมาดู ก็พบว่าท่านยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม จึงแจ้งกำนันมาตรวจสอบ และพบว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
นายสลัด บุญกจะจ่าง อายุ 52 ปี ชาวบ้านสมวิไล เล่าว่า เมื่อเช้านี้ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ขับรถจักรยานยนต์มาซื้อนมให้หลาน ก็เห็นพระรูปนี้นอนอยู่ที่ศาลาอยู่ พอกลับถึงบ้านจึงบอกภรรยาให้หาของไปใส่บาตร แต่ภรรยาก็แย้งว่าทำไมพระตื่นสายขนาดนี้ ปกติถนนเส้นนี้จะมีพระธุดงค์อยู่ตลอด ชาวบ้านแถบนี้จะรู้กันดี และมักจะหาของมาทำบุญตักบาตรอยู่เสมอ พอทราบข่าวพระท่านถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ก็ตกใจและเสียใจมากที่มาเกิดเหตุไม่ดีแบบนี้ในหมู่บ้าน
พ.ต.อ.วิทยกรณ์ ษมากรวิทิต ผกก.สภ.ดงเย็น เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหามรอาการทางจิตเวช เนื่องจากใช้ยาเสพติดมาเป็นเวลานาน มีประวัติอยู่ในปฏิบัติการนาคาพิทักษ์ เคยต้องโทษยาเสพติดในพื้นที่ อ.ไชยวาน มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อ 2561 เมื่อวานนี้มีชาวบ้านเห็นผู้ต้องหาเดินถือท่อนไม้ออกมาเคาะเสาธงในโรงเรียนฯ ประมาณ 22.00 น. ซึ่งลักษณะท่อนไม้คาดว่าจะเป็นท่อนเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายพระ เมื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ คาดว่าจะลงมือก่อเหตุตั้งแต่เวลาประมาณ 24.00 น. และได้ทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ลายนิ้วมือแฝง พร้อมกับตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้หน่วยก็ชีพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง เพื่อรอญาติมาติดต่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
