อดีต กก.ฌาปนกิจลูกเสืออุดร ตัดพ้อไม่ให้โอกาสได้ชี้แจง เปิดที่มาที่ไปความขัดแย้ง เหตุลงซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ใหม่พบข้อมูล 16 ปี เงินล่องหน 41 ล้าน-ไม่รายงานงบเงิน สฌก.10 ปี-พบนายกสมาคมฯค้างจ่ายสะสม-ซื้อรถยนต์ขัดระเบียบ จนถูกใส่ความดำเนินคดี ลั่นเจอกันในศาลหลายเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ถึงความคืบหน้าความขัดแย้งภายใน สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกเสือ จ.อุดรธานี นายธีระวัฒน์ ศรีสัมฤทธิ์ อดีตกรรมการและรองนายกฯ น.ส.ภัสราวรรณ ศรีสัมฤทธิ์ อดีตกรรมการฯ และอดีตกรรมการฯรวม 5 คน ร่วมชี้แจงหลังจากวานก่อน (17 ธ.ค.64) นายธนดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี ในฐานะนายทะเบียนฯ ใช้อำนาจตาม ม.44(4) พรบ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ 2545 ให้นายกฯและกรรมการ พ้นจากตำแหน่ง ทั้งที่กลับมาทำหน้าที่ได้เพียง 15 วัน
นายธีระวัฒน์ ศรีสัมฤทธิ์ และน.ส.ภัสราวรรณ ศรีสัมฤทธิ์ อดีตกรรมการฯ ร่วมชี้แจงประกอบเอกสาร(ปึกใหญ่)ว่า ความขัดแย้งมีที่มาที่ไป มีเหตุและผลอธิบายได้ แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีโอกาสชี้แจง แม้แต่ประชุมล่าสุดที่จังหวัด ก็ไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ต้องถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว เราถูกกล่าวหา ตั้งข้อหา แล้วพิพากษาเราเลย โดยเฉพาะคำสั่งนายทะเบียน ปลดพ้นตำแหน่งใช้มาตรา 44(4) เหมือนเป็น “คำสั่งต้องตกนรก” ทุกคนถูกตีตราไว้แล้ว จะไปทำอะไรที่ไหนก็ลำบาก จึงออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมถึงที่สุด
“ เราทุกคนสังคมยอมรับ ตั้งใจมาแก้ไขปัญหาสมาชิกลดลง ไม่ได้มาจับผิดใคร หรือหาผลประโยชน์ แต่จากการซื้อ(ซอฟแวร์)ระบบบัญชีใหม่ เมื่อนำข้อมูลตั้งแต่ปี 47-63 เข้าไปในระบบพบปัญหา อาทิ เงินเหลือจากการบริหาร หรือเงินกำไร ไม่ได้นำเข้าบัญชีรายได้รวม 41 ล้าน , สมาคมฯไม่เคยส่งรายงานงบเงินสงเคราะห์ล่วงหน้า หรือ สฌก.12 ให้ ทน.อุดรธานี และ ทน.อุดรธานีก็ไม่เคยทวงมา 10 กว่าปี สอบถามพบตัวเลขติดลบ 47 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ถือว่าผิดปกติ เมื่อปรึกษานายกสมาคมฯบอกเป็นเรื่องเก่า ”
สองอดีตกรรมการฯ ระบุอีกว่า ระบบใหม่ทำให้เราเห็นข้อมูล ทำให้ความขัดแย้งก็เพิ่มขึ้น อาทิ สมาชิกค้างชำระเงินย้อนหลัง ซึ่งรวมทั้งชื่อนายกสมาคมฯ จนต้องนำเงินค้างมาชำระ และกรรมการฯไม่เห็นด้วยการซื้อรถยนต์ เพราะไม่อยู่ในค่าใช้จ่าย 14 หมวด ซึ่งเคยมีปัญหามาแล้ว แต่นายกสมาคมฯยังจัดซื้อ โดยจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว กรรมการฯเกรงว่าจะต้องถูกชดใช้ จึงให้สมาคมฯฟ้องนายกสมาคมฯ
“ เรื่องเก็บเงินทายาทสมาชิก 2,000 บาท ล่วงหน้าเพื่อสมัครเป็นสมาชิก เป็นนโยบายนายกสมาคมฯ ตาย 1 เกิด 2 เงินได้มาก็เอาเข้าเซฟๆสมาคมฯ ก็อยู่ในห้องนายกสมาคมฯ กรรมการฯไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อเงินมากขึ้นก็เอาไปเข้าธนาคาร ในชื่อนายกสมาคมฯและกรรมการ 1 ท่าน เมื่อเงินเก็บมาผิดกฎหมายก็ต้องส่งคืน กรรมการฯได้แจ้งให้ทุกคนมารับเงินคืน นายกสมาคมฯไม่เบิกเงินให้ เมื่อสมาชิกมาตามนัด 1 ในกรรมการฯต้องนำเงินส่วนตัว 500,000 บาท มาสำรองจ่ายไปก่อน ตอนนี้เงินก็ยังไม่ได้คืน ”
น.ส.ภัสราวรรณ ศรีสัมฤทธิ์ ชี้แจงเพิ่มว่า ฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกเสืออุดรธานี ตั้งขึ้นปี 2532 ก่อน พรบ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ 2545 จึงมีสมาชิก 3 หมวด รวมเป็นหมวดเดียวไม่ได้ ยังคงมี 3 หมวดมาจนถึงปัจจุบัน สมาชิกคนเดียวสมัครทุกหมวดก็ได้ คุณสมบัติก็เหมือนเดิม เรื่อง“ค้าศพ”มีในฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกเสืออุดรธานี ลักษณะมาสมัครเป็นสมาชิกฯ แล้วส่งไปไม่กี่เดือน หรือไม่ส่งเลย พอเสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์ ก็จะได้รับส่วนต่างเงินฌาปนกิจ ลบกับเงินคงค้าง ไม่ใช่กรรมการชุดนี้แน่นอน เพราะไม่มีชื่อรับผลประโยชน์
นายธีระวัฒน์ ศรีสัมฤทธิ์ อดีตกรรมการฯ กล่าวว่า กรรมการฯชุดนี้ถูกแจ้งความ “คดีฉ้อโกงประชาชน” กรณีหักเงิน 2,000 บาท เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง มั่นใจมีหลักฐานสู้คดี ก่อนหน้านี้นายทะเบียนก็สรุปว่า เป็นความพกพร่องไม่เจตนา แต่ต่อมาก็สั่งพักงานกรรมการชุดนี้ และตั้งกรรมการ(ชั่วคราว) 8 คน ขึ้นมาเพื่อแก้ไขคืนเงิน 2,000 บาท แต่คำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะกรรมการฯขาดคุณสมบัติ ไม่เป็นสมาชิกมากถึง 5 คน เป็นคำสั่งแต่งตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
“ อาจเป็นเหตุให้มีคำสั่ง 2 ธ.ค.64 ให้กรรมการชั่วคราวพ้นจากหน้าที่ โดยไม่สามารถทำตามเป้าหมาย การคืนเงินให้ทายาทสมาชิก 2,000 บาท แต่มีผลงานถอนฟ้องนายกสมาคมฯ เรื่องการจัดซื้อรถยนต์ และเมื่อนายทะเบียนก็มีคำสั่ง 17 ธ.ค.64 ให้กรรมการชุดนี้พ้นจากตำแหน่ง ด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกไม่มีความผิด จึงต้องออกมาขอความเป็นธรรม ในกระบวนการยุติธรรมถึงที่สุด รวมทั้งการออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ”……
