เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นายพัฒนะ ศรีใหญ่ อายุ 31 ปี ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำผู้ถูกกล่าวหา 7 ราย เข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน หลังถูกข้าราชการรายหนึ่งกล่าวหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการแชร์ข้อมูลเพจเฟซบุ๊ค “ข้าราชการปลดแอก – Free Thai Civil Servant” จากโพสต์ที่มีการอ้างข้อมูลอาจมีการทุจริตเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยงและงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่น วัสดุครุภัณฑ์ที่ใช้ในสำนักงาน การจัดซื้อจัดจ้างในการป้องกันและยับยั้งโรคระบาด ที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริงของ สนง.จ.อุดรธานี
ซึ่งก่อนการเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา มีกลุ่มประชาชนในนาม “อุดรพอกันที” ได้รวมตัวกันมาให้กำลังใจผู้ถูกกล่าวหา ระหว่างการสอบปากคำให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ได้จัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อัญเชิญเทพเทวดามาอำนวยอวยชัย มีชายหญิง 5 คน แต่งกายด้วยชุดขาว จุดธูปนั่งสวดมนต์ผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กด้านหน้าห้องสืบสวน และมีการแต่งชุดแสดงละครล้อเลียน ลักษณะเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการรุนแรงต่อประชาชน มีการเทสีใส่ร่างกายของผู้หญิงรายหนึ่ง หลังจากนั้นเปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียง ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงฃ
นายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความ เปิดเผยว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ส่งทนายมาช่วยเหลือ 3 คน ผู้ถูกกล่าวหามีทั้งหมด 8 คน มารายงานตัววันนี้ 7 คน อีก 1 คนแจ้งว่ามีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื้อหาในโพสต์นั้นเป็นการตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในพื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นการเฝ้าระวังสอดส่องดูแล ในขั้นตอนนี้ผู้ถูกกล่าวหามาตามหมายนัด ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัวไว้ เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนก็กลับบ้านได้
ผู้ถูกกล่าวหามาจากหลายพื้นที่ อย่างเช่น กรุงเทพ ภูเก็ต ลพบุรี ทั้งหมดให้การปฏิเสธ เพราะมองว่าเป็นหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่งที่สอดส่องดูแลว่าอาจจะมีการทุจริตของหน่วยงานรัฐ มองว่าเป็นการเมืองก็เป็นการเมืองอยู่แล้ว การบริหารงานของราชการถือว่าเป็นการเมือง เป็นประโยชน์สาธารณะอยู่แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมการให้การ เราจะต่อสู้ในประเด็นไหนบ้าง ถ้าพนักงานสอบสวนเห็นด้วยก็มีสิทธิ์สั่งไม่ฟ้องได้
น.ส.ปาริชาติ พลเพิ่ม อายุ 48 ปี ชาว จ.ลพบุรี 1 ในผู้ถูกกล่าวหาเปิดเผยว่า ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือเสียใจอะไร แค่รู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงต้องโดนคดี เพราะมองว่าเราช่วยภาครัฐด้วยซ้ำ ไม่ควรถูกดำเนินคดีด้วยประเด็นอะไรแบบนี้ ข้อมูลของภาครัฐประชาชนต้องเข้าถึงได้ ตอนแชร์เราก็คิดแค่นั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ ไม่ได้คิดร้ายต่อใคร มองว่ามันเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชนอยู่แล้วในการตรวจสอบภาครัฐ เห็นหมายเรียกทีแรกก็งงเหมือนกันว่าโดนเรื่องอะไร คงต้องกลับมาอีกหลายหน ยังไม่ถึงขั้นเป็นบทเรียน แค่สงสัยเท่านั้น เราก็แชร์ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการแชร์โพสต์เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 64 ระบุข้อความว่าอาจมีการทุจริตเกี่ยวกับเบี้ยเลี้ยง และงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 มีการแนบหนังสือราชการร้องเรียนกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 ขอให้ตรวจสอบ 4 หน่วยงานราชการ และหนังสือตอบกลับของปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 หนังสือตั้งกรรมการสอบสวน เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 64 โดยผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการให้ข้อมูลใดใดเกี่ยวกับคดีนี้ ส่วนทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่ายังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ผู้เสียหายมีทั้งหมด 4 ราย แจ้งความไว้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหลังจากถูกโพสต์ไม่นาน ขณะผลการสอบสวนมีคำสั่งยุติ ไม่พบการกระทำผิด…..