เมื่อเวลา 10.30น. วันที่ 20 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุเด็กชายอายุ 10 ขวบ จมน้ำสูญหายที่ฝายน้ำล้น บริเวณสะพานข้ามลำห้วยเชียงลวง ม.10 บ.ดอนภู่ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี หลังชวนเพื่อนมาเล่นน้ำ และพลัดตกลงไปในน้ำ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี ชุดประดาน้ำอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ปภ.เขต 14 จนท.เทศบาลตำบลหนองบัว อบต.หนองนาคำ อุดรธานี และประสานรถแบ็คโฮ อบจ.อุดรธานี มาขุดลอกวัชพืชจุดที่เด็กจมน้ำ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมายืนมุงดูประมาณ 100 คน จากการสอบถามทราบชื่อเด็กจมน้ำสูญหายคือ ด.ช.โอม (ธนวัฒน์ พลสมัคร) อายุ 10 ปี บ้านเลขที่ 74 ม.10 บ.ดอนภู่ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ชุดประดาน้ำใช้เวลาค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนประสานรถแบ็คโฮมาตักวัชพืชออกจากหน้าฝายน้ำล้น ซึ่งเป็นจุดสูญหาย คาดว่าร่างของเด็กจะจมอยู่ด้านล่าง น้ำลึกประมาณ 3.5 เมตร ใช้เวลาค้นหากว่า 3 ชั่วโมง จึงพบศพน้องโอม ในสภาพเปลือยกาย
จากการสอบถาม ด.ช. ดิว (ปกรณ์ ศรีอุดม) อายุ 10 ปี เพื่อนที่มาด้วยกัน เล่าว่า วันนี้เป็นวันหยุดตนและ ด.ช.โอม ชวนกันมาเล่นน้ำกันที่ฝายน้ำล้นแห่งนี้ พอมาถึงตนยังไม่ได้ลงไปในน้ำเพราะน้ำไหลเชี่ยว แต่ ด.ช.โอม ไม่รอช้าถอดเสื้อผ้ากระโดดขึ้นไปบนกองวัชพืช และพลัดตกลงน้ำที่ไหลเชี่ยว จนเพื่อนจมหายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนตนไม่กล้าลงไปช่วย เพราะน้ำไหลแรงมาก ได้แต่ยืนร้องเรียกหาเพื่อน ก่อนวิ่งขึ้นไปที่คอสะพาน ร้องเรียกบอกชาวบ้านที่เป็นผู้ใหญ่มาช่วย แต่ไม่มีใครกล้าลงไป ผู้ใหญ่จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
ขณะที่ น.ส.ขนิษฐา พลสมัคร อายุ 41ปี แม่น้องโอม เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ และร้องให้แทบจะขาดใจ ญาติและชาวบ้านได้เข้าช่วยประครอง และพูดปลอบใจ เพราะยังไม่พบศพ น้องโอมอาจจะยังไม่เสียชีวิตก็เป็นไปได้ แต่ผู้เป็นแม่เชื่อว่าลูกไม่อยู่กับตัวเองแล้ว เพราะจมน้ำนานนับชั่วโมงแล้ว ก่อนไปจุดธูป 1 ดอก ข้างรองเท้าและเสื้อของลูกชาย เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยให้พบร่างลูกชายโดยเร็ว ส่วนนางสัก นามวิชัย อายุ 63ปี ยายน้องโอม ได้จุดธูป 9 ดอก บอกกล่าวศาลปู่ตาจ่า ที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุราว 50 เมตร เพื่อขอให้ช่วยพบร่างหลานชายโดยเร็วเช่นกัน
น.ส.ขนิษฐา พลสมัคร แม่น้องโอม เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีลูกชาย 2 คน น้องโอมเป็นคนเล็ก เช้าวันนี้ตนออกไปทำงานที่โรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ส่วนน้องโอมยังไม่ตื่น กระทั่งมีญาติโทรศัพท์ไปบอกว่าน้องโอมจมน้ำที่ฝายน้ำล้น ทันทีที่ได้รับข่าวร้ายแทบจะเป็นลม เพราะลูกชายเป็นคนอารมณ์ดีและน่ารักตามประสาเด็ก จึงลางานและรีบมาจุดเกิดเหตุ ที่ผ่านมาไม่มีลางบอกเหตุร้ายมาก่อนเลย และได้คุยกับลูกครั้งสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากลูกเดินทางกลับจากทัศนศึกษา ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เห็นลูกบ่นว่าปวดขา และลูกก็ว่ายน้ำไม่ค่อยเก่ง อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ลูกชายจมน้ำ
นางสัก นามวิชัย ยายของน้องโอม เปิดเผยว่า ที่ตนมาจุดธูปบอกกล่าวศาลปู่ตาจ่า เพราะท่านจะคอยดูแลปกปักรักษาชาวบ้านดอนภู่ คู่กับหมู่บ้านมากว่า 40 ปีแล้ว เพื่อให้ท่านช่วยเจ้าหน้าที่ค้นหาร่างของหลานชายโดยเร็ว เนื่องจากหลานชายจมอยู่ใต้น้ำนานนับชั่วโมง กลัวหลานชายจะหนาว และอยากเห็นหน้าหลาน เพื่อจะนำร่างไร้วิญญาณของน้องไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านมาหาปลาในลำห้วยนี้ และจมน้ำเสียชีวิตมาแล้ว 2 ราย ทำให้ชาวบ้านลือถึงอาถรรพ์ของลำห้วยเชียงลวง ที่กลืนกินวิญญาณของชาวบ้าน กระทั่งหลานชายของตนเป็นรายที่ 3
ด.ช.ธนากร พลสมัคร อายุ 13 ปี พี่ชายน้องโอมเปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงค่ำตนขี่รถจักรยานยนต์มารอรับน้องชายกลับจากทัศนศึกษา ที่ จ.เลย ขณะยืนรอที่หัวสะพานข้ามลำห้วย ได้เห็นคนนั่งอยู่บนฝายน้ำล้น ก่อนที่ตนเองจะหันไปมองทางอื่น และหันกลับมามองไปที่ผายน้ำล้น กลับไม่เห็นคนนั่งอยู่ คิดว่าสิ่งที่ตนเห็นอยู่บนฝายไม่ใช่คน และเป็นวิญญาณของคนที่จมน้ำเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่น้องชายจมน้ำ ตนจึงคิดขึ้นได้กับเหตุการณ์ในสิ่งที่ตนเองเห็น และน้องชายก็มาจมน้ำเสียชีวิต
นางแหม่ม แก่นวงศ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านดอนภู่ เล่าเรื่องราวความอาถรรพ์ลำห้วยเชียง ว่า เมื่อหลายปีที่แล้วมีชาวบ้านสูงวัยอายุประมาณ 70 ปี จมน้ำเสียชีวิต และเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีชายวัยกลางคนพลัดจมน้ำเสียชีวิต ก่อนที่จะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตอีก เชื่อว่าในแต่ละพื้นที่จะมีวิญญาณเจ้าที่เจ้าทาง และหลังจากแม่และยายของผู้สูญหายได้ทำพิธีบอกกล่าวศาลปู่ตาจ่า ตนคิดว่าอีกไม่นานคงพบศพน้องโอม และก็พบร่างไร้วิญญาณของน้องโอม ก่อนที่รถแบ็คโฮยังไม่ทันดำเนินการตักวัชพืชออก เรื่องนี้หากใครไม่เชื่อก็อย่าได้ลบหลู่
ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตที่ไม่สวมเสื้อผ้า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและต่อสู้ เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจด้วยการจมน้ำมาประมาณ 3 ชั่วโมง ญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี เพราะช่วงนี้ระดับน้ำในหนอง บึง อ่างเก็บน้ำ ลำห้วยและลำคลองไหลเชี่ยว และมีน้ำในระดับสูง เพราะเป็นช่วงหน้าฝน อาจเกิดการสูญเสียขึ้นเหมือนกับเหตุการณ์นี้