เกิดเหตุหนุ่มใหญ่ดมกาวจนเพี้ยน ควงมีดพร้าฟันญาติที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เจ็บเล็กน้อย 1 ราย หลังก่อเหตุวิ่งหนีเข้าป่าหลังบ้าน ตำรวจและชาวบ้านล้อมจับเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้เคยทำร้ายร่างกายแม่เกือบเสียชีวิต โชคดีญาติเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ชาวบ้านสุดผวาอยากให้ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพราะเกรงว่าจะกลับออกมาก่อเหตุที่ร้ายแรงจนถึงแก่ความตาย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่หน้าบ้านเลขที่ 29 บ้านปากเจียง ม.6 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี นายพัทยา สาครเจริญ หรือโจ อายุ 45 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน มีอาการคุ้มคลั่งใช้มีดพร้าวิ่งไล่ฟันชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ประกอบด้วย นางทองดี เขื่อนแก้ว อายุ 55 ปี โดนฟันที่ศีรษะหลายครั้ง บาดเจ็บสาหัส เย็บ 40 เข็ม ,นายสังเวียน เขื่อนแก้ว อายุ 65 ปี โดนฟันใบหูซ้าย คมมีดลึกเข้าท้ายทอยด้านซ้าย เย็บ 22 เข็ม ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ,นายเทวี อุ่นเที่ยว อายุ 46 ปี โดนไม้หน้าสามฟาดแขนซ้ายหัก และนายบัวมี อุ่นเที่ยว อายุ 48 ปี โดนสันมีดพร้าฟันกลางหลังเป็นแผลเล็กน้อย หลังเกิดเหตุ นายยศ โพธิเสน ผญบ.ม.6 ได้ออกมาตรวจสอบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลนายูง
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.สกล เฟื่องกระเเสร์ ผกก สภ นายูง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อุดม รัตนสุทธิ รอง ผกก.สอบสวน สภ.นายูง ร.ต.อ.สุรพล มูลโต รอง สว.สวป.สภ.นายูง ร.ต.อ.ประสิทธิ์ เคหาบาล รอง สว.สอบสวน สภ.นายูง นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ โดยได้เข้าปิดล้อมบริเวณป่ารกทึบหลังบ้าน เนื่องจากนายพัทยาฯ ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธ ก่อนไปพบตัวนั่งหลบอยู่หลังต้นไม้ในป่าติดกับลำห้วย ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร โดยนายพัทยาฯ ให้จับกุมแต่โดยดี ใช้เวลาปิดล้อมนานเกือบ 2 ชม. จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ สภ.นายูง พนักงานสอบสวนได้เชิญ นายยศ โพธิเสน ผญบ.ม.6 และญาติผู้บาดเจ็บ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวนายพัทยา สาครเจริญ ผู้ต้องหา ออกมามาสอบสวน พร้อมของกลางมีดพร้ายาวประมาณ 1 ฟุต โดยนายพัทยาฯ ให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุฟันคนอื่นจริง อ้างว่านางทองดีฯ ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกันเข้ามาด่าทอถึงในบ้าน ด่าบุพการีตน จนโมโหใช้มีดพร้าไล่ฟันนางทองดีฯ คนที่มาช่วยเหลือก็บาดเจ็บตามไปด้วย ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่น
นางสาวจารุณี อุ่นเพียว อายุ 41 ปี น้องสาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดและผู้ก่อเหตุ เป็นญาติกันทั้งหมด มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ตนเองไปทำงานที่ต่างจังหวัด เพิ่งจะกลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน แต่ก็ทราบดีว่านายโจผู้ต้องหา มีอาการทางประสาท เนื่องจากติดดมกาวมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น นายโจไม่ได้ทำงาน จะอาศัยข้าวจากญาติพี่น้องเอามาให้ วันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่มารู้ทีหลังว่านางทองดีฯ ที่เป็นพี่สาว เดินมาที่บ้านนายโจ เพื่อจะตักเตือนว่าให้ดูแลสุนัขที่เลี้ยงไว้ เพราะมันเข้าไปกัดไก่ในบ้านพี่สาว
“ ขณะเข้าไปในบ้านนายโจพี่สาวก็เหลือบไปเห็นว่าในบ้านมีเสื่อของตัวเองอยู่ จึงต่อว่านายโจ ว่าเอามาแล้วทำไมไม่บอก นายโจจึงโมโหคว้ามีดมาไล่ฟัน นางทองดีฯ วิ่งหนีมาหน้าบ้าน นายสังเวียนฯ สามีจึงเข้ามาช่วย ก็ถูกฟันเจ็บไปด้วย นายเทวี นายบัวมี ได้ยินเสียงต่อสู้ จึงออกมาช่วยอีกแรง ก็ถูกมีดและไม้ได้รับบาดเจ็บ อยากให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะไม่รู้ว่าเกิดเหตุร้ายแรงมากกว่านี้หรือไม่ กลัวว่าจะมีคนตายสักวัน ถ้าไม่จับขังหรือเอาตัวนายโจไปรักษา “
นายยศ โพธิเสน ผญบ.ม.6 เล่าว่า ลูกบ้านมาแจ้งว่านายโจอาละวาดใช้มีดพร้าฟันญาติชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 4 ราย พอมาถึงก็เห็นทั้งหมดนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น จึงรับโทรแจ้งตำรวจ และนำตัวทั้งหมดส่งโรงพยาบาล หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านเล็ก เกือบทั้งหมดถือว่าเป็นพี่น้องกัน นายโจอาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว เพราะเพี้ยนหนักจนไม่มีใครอยู่ด้วยได้ แม่แท้ๆ ก็จำไม่ได้ เมื่อ 2 เดือนก่อน เคยคลั่งทำร้ายแม่ ใช้เท้าเหยียบคอแม่ ใช้มีดพร้าจะฟันคอแม่ แต่นางทองดีฯ ได้เข้ามาตะโกนห้ามไว้ และช่วยเหลือได้ทัน แต่แม่นายโจไม่แจ้งความเพราะสงสารลูกตัวเองว่าจะติดคุก จนมาเกิดเหตุขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ ในหมู่บ้านมีกลุ่มเสี่ยงประเภทนี้อยู่อีกประมาณ 4-5 คน จะได้ปรึกษาผู้บังคับชาว่าจะแก้ไขอย่างให้เด็ดขาด ตอนนี้ได้แต่เฝ้าระวังไว้ก่อน และจะกำชับให้ลูกบ้านระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น