ทส.อนุญาตวางท่อก๊าซธรรมชาติ ที่พบเพิ่ม 30 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ที่แหล่งสินภูฮ่อมอุดรธานี-ขอนแก่น อ้อมไปตามถนนขึ้นแหล่งท่องเที่ยวดัง “ภูฝอยลม” 6.9 กม. แทนการวางท่อผ่านป่าอนุรักษ์และป่าสงวน เริ่มวางท่อขนาด 10 นิ้ว ลึกลงไปใต้ถนน 2 เมตร ปลายปีนี้ เสร็จปลายปีหน้า ให้กระทบแหล่งท่องเที่ยวน้อยที่สุด เพิ่มความมั่นคงไฟฟ้าให้ภาคอีสาน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมยามดี โรงแรมเวลาดี เทศบาลนครอุดรธานี นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการติดตามตรวจสอบ โครงการแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี ครั้งที่ 37 (1/2568) มีนายกำพล กำเนิดศิริ ผอ.กองเทคโนโลยีการประกอบกิจการปิโตรเลี่ยม กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นำคณะกรรมการหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง , ผู้แทน อบจ.อุดรธานี , ผู้แทน 10 เทศบาล/อบต. ในเขตประทานบัตร , ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ และผู้แทนภาคประชาสังคม เข้าร่วมประชุม โดยมีนายธีรคม อายุรวัฒนา เจ้าหน้าที่อาวุโส นายจิรายุ กระจ่างบ้าน จนท.องค์กรประชาสัมพันธ์ บ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จก.(มหาชน) หรือ ปตท.สผ.รายงานและตอบข้อซักถามที่ประชุม
ผู้แทน ปตท.สผ. รายงานต่อที่ประชุมว่า “แหล่งก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม” อยู่พื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น เริ่มผลิตก๊าซ (NGV) มาตั้งแต่ปี 2548 ผลิตและส่งก๊าซครั้งแรกปี 2550 เกือบทั้งหมดส่งไปผลิตกระแสไฟฟ้า ที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้จ่ายค่าภาคหลวงให้ภารรัฐ บางส่วนจัดสรรให้ อบจ.อุดรธานี และ อบจ.ขอนแก่น และองค์กรปกครองท้องถิ่นใน 2 จังหวัด โดยที่ จ.อุดรธานี มี เทศบาล/อบต. รวม 10 แห่ง ตั้งแต่ปี 2550-2567 อบจ.อุดรธานี รับค่าภาคหลวงแล้ว 1,535.7 ล้านบาท และ 10 อปท.รวม 291.1 ล้านบาท โดยในปี 2566 , 67 อบจ.อุดรธานีได้รับค่าภาคหลวง 99.2 และ 96.3 ล้านบาท และ 10 อปท.ได้ค่าภาคหลวง 18.0 และ 17.5 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนปี 2568 อบจ.อุดรธานี รับมาแล้ว 3 ไตรมาศรวม 83.1 ล้านบาท โดยไตรมาศที่ 4 หากจัดสรรมาล่าช้าจะตกเป็นเงินสะสม
“ ปีที่ผ่านมา ปตท.สผ. เจาะสำรวจพบก๊าซธีรรมชาติเพิ่มเติมที่ ฐานผลิต D ริมถนนทางขึ้นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ “ภูฝอยลม” อ.หนองแสง จ.อุดรธานี มีปริมาณก๊าซ 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวของป่าอนุรักษ์ และป่าสงวน จึงได้ยื่นขออนุญาตไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางท่อส่งก๊าซไปยัง อ.น้ำพอง ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุญาตแล้ว โดยจะเป็นการวางท่อขนาด 10 นิ้ว ลึกลงไปใต้ถนนราดยางและลูกรัง 2 เมตร ระยะทาง 6.9 กม.ไปยังฐานผลิต C เพื่อส่งต่อไปยังฐานผลิต A ก่อนส่งไป อ.น้ำพอง ไม่ได้ผ่านพื้นที่ป่าสมบูรณ์จึงไม่ตัดต้นไม้ แบ่งเป็นถนนลาดยาง 4.1 กม. ถนนลูกรัง 2.8 กม. การก่อสร้างจะเริ่มปลายปี 68 และเสร็จสมบูรณ์ปลายปี 69 ได้กำหนดแผนการก่อสร้าง จะให้กระทบการท่องเที่ยวน้อยที่สุด ”
นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวว่า ปีนี้ได้ไปดูการซ้อมแผนเผชิญเหตุ ต้องขอบคุณที่ได้สร้างความเชื่อมั่น ได้เห็นมาตรการเตรียมความพร้อม เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เพราะอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น ได้ฝากในวันนั้นเรื่องอำนาจในการสั่งการ หากเกิดเหตุจริงขึ้น อาจจะไปเกี่ยวเนื่องกับ จ.ขอนแก่น ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่านายอำเภอหนองแสง จ.อุดรธานี เป็นเจ้าภาพหลักในการสั่งการตามแผน รวมทั้งรายงานตามขั้นตอน ซึ่งได้บูรนาการและซักซ้อมกันแล้ว ซึ่งนายณัฐพลฯ ได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมว่า นายอำเภอหนองแสง อาจจะมีการโยกย้ายไปตำแหน่งสูงขึ้น หากเกิดขึ้นก็ขอให้ซักซ้อมทำความเข้าใจอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งก๊าซสินภูฮ่อมมี 4 ฐานผลิต คือ A-B-C-D มีการต่อท่อก๊าซไปรวมที่ฐานผลิต A เพื่อส่งตามท่อไปยังโรงแยกก๊าซที่ อ.น้ำพอง ผลิตและส่งก๊าซต่อเนื่องมา 18 ปี หลุมก๊าซที่เจาะและผลิตก๊าซแรกๆ ปริมาณก๊าซได้ลดลงตามลำดับ ทำให้มีการเจาะสำรวจหาก๊าซหลุมใหม่ และพบหลุมก๊าซใหม่ต่อเนื่อง รวมทั้งหลุมล่าสุดที่ฐานผลิต D ทำให้แหล่งก๊าซสินภูฮ่อมมีความมั่นคงขึ้น เมื่อวางท่อส่งก๊าซแล้วเสร็จในปี 69 คาดว่าจะมีการเจาะสำรวจหาก๊าซเพิ่มเติมอีกใน 4 ฐานผลิตที่มีอยู่แล้ว…
