วันพุธ, สิงหาคม 20, 2025
Google search engine
หน้าแรกท่องเที่ยวมรภ.อุดรธานี เปิดสวน“ดอกปทุมมา”สร้างรายได้อีสานจริง

มรภ.อุดรธานี เปิดสวน“ดอกปทุมมา”สร้างรายได้อีสานจริง

มรภ.อุดรธานี จับมือ สวทช. ฟูมฟัก “สวนปทุมมา” คัดเลือกสายพันธุ์เด่น ตลาดต้องการ ขยายองค์ความรู้ไปยัง 31 เครือข่าย ปลูกตัดดอกขายทำรายได้ 1 งาน 2 หมื่นบาท อ.ลิขิจ กูรูปทุมมาไทย ชี้ 3 ข้อดีพื้นที่อีสาน ดอนปนทรายระบายน้ำดี-ตลาดวันพระต้องการสูง-ดอกสดลดค่าขนส่ง มรภ.อุดรฯเปิดหลักสูตร 120 ชม. ปลูก-ดูแลรักษา-ป้องกันศัตรูพืช-เก็บผลผลิต-ผสมพันธุ์ใหม่

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาท้องถิ่นบ้านตาด มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี บ้านผ่านศึก ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี สถานที่จัดงานเปิดสวน “ปทุมมา…มนต์เสน่ห์แห่งพืชสวนโลก” ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม 2568 ภายในงานจะได้เดินชม ชวนเรียนรู้ ถ่ายภาพ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในสวนปทุมมาครอบวงจรมากกว่า 40 สายพันธุ์ ตลอดห่วงโซ่การผลิต เส้นทางปทุมมา สู่พืชสวนโลก ชมศิลปะสีจากดอกปทุมมา ร่วมจัดช่อดอกปทุมมาแบบมินิมอล และมีการอบรมเชิงปฏิบัติการณ์ “การเก็บเกี่ยวผลผลิตปทุมมา” 31 เครือข่ายเกษตรกร ซึ่งเป็นการเปิดสวนครั้งแรก หลังจากเริ่มทำงานมากว่า 4 ปีแล้ว

โดยวิทยากรระดับ“กูรูปทุมมาไทย” อาจารย์ลิขิต มณีสินธุ์ นักวิชาการอิสระจาก จ.เชียงใหม่ พร้อมคณาจารย์ของ มรภ.อุดรธานี ได้ร่วมให้ความรู้กับเกษตรกร ทั้งความรู้ทางวิชาการ ในการเตรียมดิน การปลูก การดูแลบำรุงรักษา และการจัดการกับศัตรูพืชทั้งด้วยสารอินทรีย์ และเคมีที่ไม่อันตราย ตลอดจนการเรียนรู้ปฏิบัติการณ์จริง แนะนำวิธีการเก็บดอก การล้างทำความสะอาด การตั้งแต่งดอก การบรรจุเพื่อส่งขาย บริเวณแปลงปลูกของศูนย์ฯ ทั้งแปลงปลูกที่คัดเลือกสายพันธุ์ จนตั้งชื่อทางการค้าไว้แล้ว อาทิ แดงชาโด้ , ขาวลานนา , สโนไวท์ หรือห้วยพำราญ เพื่อผลิตหัวพันธุ์ที่ตลาดต้องการ นำไปส่งเสริมเกษตรกร ที่มีความพร้อมปลูกตัดดอดขาย และแปลงทดลองสายพันธุ์ใหม่ ให้เหมาะสมกับพื้นที่และตลาด ที่เป็นรหัสยังไม่ตั้งชื่อทางการค้า

อาจารย์ลิขิต มณีสินธุ์ นักวิชาการอิสระ “กูรูปทุมมาไทย” เปิดเผยว่า เราพิสูจน์มาแล้วว่าอีสานมีโอกาสมาก 1.อีสานเป็นดินทราย ข้อดีของดินทราย ปลูกง่ายเก็บหัวพันธุ์ง่าย ข้อเสียมีอันเดียวคือดินไม่อุดมสมบูรณ์ ถ้าเราปรับปรุงดินแล้ว คุณภาพจะดีมาก 2.ปกติทางเหนือปลูกเยอะ ส่งมาขายอีสาน แต่ถ้าทำปลูกในอีสานต้นทุนจะถูกกว่า ราคาดอกก็จะต่ำกว่า เราอยู่ใกล้ตลาดความสดจะดีกว่า และ 3 คนเข้าวัดเยอะ อีสานก็วัดเยอะ ดอกปทุมมาวัน พระวันโกน จะขายดีมาก ในพื้นที่ชนบท แล้วเกษตรกรปลูกค่อนข้างจะง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก จะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยก็คือโรค แต่ถ้าเราเลือกสายพันธุ์ที่ดี จะเก็บพันธ์ไว้ใช้ได้อีก ซื้อครั้งแรกแล้วก็สามารถขยายพันธุ์ได้เอง

“น่าสนใจทดลองปลูก 1-2 แปลง ในช่วงเข้าฤดูฝนตั้งแต่พฤษภาคม แต่อย่าปลูกเกินมิถุนายน ถ้าปลูกในช่วงต้นฝนดอกจะมีคุณภาพ ถ้าปลูกหนึ่งหัวก็จะได้เพิ่ม 5-7 หัว ถ้าดอกละ 3 บาทจะได้เงิน 10 กว่าบาท ส่วนหัวก็ขายได้หัวละ 5 บาท  1 กอก็ได้อยู่ 30- 40 บาท ถ้าพื้นที่ 1 งาน ปลูก 1,000 กอ ก็จะได้ 2-3 หมื่นบาท และดีมากถ้าเอาดอกปทุมมาใส่กระถาง เพราะว่าช่วงฤดูฝนดอกไม้ไม่ค่อยมี ทำให้เราใช้ดอกไม้ที่เพาะเมล็ดมาจากต่างประเทศ ช่วงนั้นจะมีแต่ดอกดาวเรือง แต่ปทุมมาเป็นไม้บ้านเรามีสีเยอะ ถ้านำมาจัดงานอีเวนท์ต่างๆ จะให้คนรู้จักปทุมมามากขึ้น พอรู้จักมากขึ้นคนเห็นมากขึ้น ก็จะทำให้ใช้มากขึ้น แต่ตอนนี้คนไม่ค่อยเห็น เพราะหัวพันตอนนี้มีแค่แถวเชียงใหม่ ตอนการเปิดตัวในอีสานมีเป็น 100 สายพันธุ์ ”

นายกลมสิงห์ อ้นหนองกุง เกษตรกรจาก บ.ถ่อนนาลับ ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า ทำอาชีพเกษตรกรอยู่ อ.บ้านดุง ในปีก่อนเข้ารับการอบรมที่ มรภ.อุดรธานี ได้ความรู้และประสบการณ์ตรง ปีนี้ปลูกเป็นปีแรกเพียงครึ่งงาน ได้ผลดีมาก เชื่อว่าการเตรียมดินมาดี ปลูกรวม 3 พันธุ์ คือ แดงชาโด้ , ขาวลานนา และเชอล่าสโนว์ ตัดดอกชายได้ดอกละ 4-5 บาท และเป็นการขายในพื้นที่ ผ่านมาครึ่งฤดูได้ทุนคืนแล้ว ที่เหลือก็น่าจะเป็นกำไร ในปีหน้าจะส่งคืนหัวพันธุ์ให้ มรภ.อุดรธานี ที่เหลือจะขายพื้นที่ปลูกเพิ่ม

ผศ.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดี ม.ราชภัฏอุดรธานี เปิดเผยว่า ร่วมกับ สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ จ.อุดรธานี พื้นที่แรกคือ บ.ห้วยสำราญ ต.หนองไฮ อ.เมือง ตอนนั้นเป็นรองอธิการบดี ได้เกิดแนวคิดต่อยอด ด้วยเห็นว่าปทุมมาจะเป็นไม้ดอกที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เราน่าจะขยายองค์ความรู้ให้เกษตรกรรายอื่น เพื่อให้เกิดแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในการปลูก สร้างมูลค่าสร้างรายได้ สร้างอาชีพหลักให้กับทางเกษตรกร ปีแรกเราแค่สร้างองค์ความรู้ ยังสร้างรายได้ไม่มาก ปีที่สองสิ่งได้สร้างเครือข่าย จะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เข้าใจในบริบทของพื้นที่แต่ละแปลงแตกต่าง เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยน ทั้งในแง่เทคนิค การปลูก การเก็บเกี่ยว การจัดการรวม การตลาด จากนั้นเราก็เกิดแนวคิดในแง่ที่สองว่า กลไกที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน

“ เสน่ห์ของปทุมมานอกจากเป็นไม้ดอก ยังสามารถแปรรูปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างเช่น สีของปทุมมา นำมาใช้ในอาหาร , ย้อมสีทอผ้าต่างๆ นี่คือมนต์เสน่ห์ ในส่วนของจังหวัด จะเป็นพลังหลักที่สำคัญ ให้เราสามารถผลักดันปทุมมา เป็นพืชหรือไม้ดอกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี เป็นที่มาที่ไปที่ทำให้ สวทช. เห็นพลังของคนใน จ.อุดรธานี และภาคีเครือข่าย จึงได้เชิญทูตของประเทศต่างๆ ทางด้านการเกษตร เข้ามาเยี่ยมชม ที่จะเกิดเป็นฟิวเดย์ทริป เพื่อที่จะได้เห็นพลังขององค์ความรู้ มาขยายไปสู่ในมหกรรมพืชสวนโลก ”

อธิการบดี ม.ราชภัฏอุดรธานี  กล่าวต่อว่า เป้าหมายหลักให้นำไปเป็นอาชีพ ตอนแรกดูเหมือนไม่มั่นใจ แต่ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น เพราะเขาเรียนรู้แล้ว นำลงไปปฏิบัติจริง มีมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยง พอเกษตรกรรุ่นแรกอบรม ปีที่สองเราก็เชิญชวนเขา ให้มาเป็นเทรนออฟ เดอะเทรนเนอร์ เพื่อที่จะขยายความรู้ให้กับเกษตรกรรายอื่น ตอนนี้มีเครือข่ายอยู่ 31 ราย สามารถตัดดอกขายเพื่อเป็นรายได้จริง สิ่งที่เราตั้งใจไปกว่านั้น คือองค์ความรู้เรื่องในการผสมพันธุ์ใหม่ๆออกมา จะเป็นแนวทางยกระดับฐานราก เราจะขับเคลื่อนต่อแน่นอน

“ เรากำลังทำหลักสูตรระยะสั้น 120 ชม. หลักสูตรนี้ก็จะใช้เป็นหลักสูตรร่วมกับ สวทช. ผู้ที่เข้าอบรมจะได้องค์ความรู้ ทางวิชาการและปฏิบัติจริง พร้อมรับใบประกาศนียบัตร สิ่งเหล่านี้จะได้ฝังเป็นความรู้ ถ้าท่านใดสนใจที่จะเข้ามาอบรม ให้ติดต่อหรือประสานมาที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาลัยราชภัฎอุดรธานี ส่วนแปลงปลูกนี้ เหลือเวลาอีกประมาณเดือนเศษ เรายินดีให้เข้ามาถ่ายภาพและเยี่ยมชม เพราะทางเกษตรกรและทางภาคีเครือข่าย ได้สร้างไว้ให้กับชาว จ.อุดรธานี ศูนย์วิจัยบ้านตาดตรงนี้ก็เช่นกัน อยากจะฝากว่าศูนย์วิจัยตรงนี้สร้างให้กับชาว จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.หนองบัวลำภู และ จ.บึงกาฬ ที่เป็นพื้นที่บริการของเรา เพราะฉะนั้นเราเปิดรับ ไม่ว่าจะมาท่องเที่ยว เรียนรู้ หากสนใจก็สามารถมาเรียนรู้ในหลักสูตรต่างๆได้ ”

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments