วันพุธ, สิงหาคม 20, 2025
Google search engine
หน้าแรกสังคมผู้ว่าฯปูเสื่อคุยเร่งชดเชยฝายห้วยหลวง-กุมภวาปี

ผู้ว่าฯปูเสื่อคุยเร่งชดเชยฝายห้วยหลวง-กุมภวาปี

ชาวบ้านผลกระทบ “ฝายห้วยหลวง+ฝายกุมภวาปี” หรือส่วนหนึ่ง “โขง-ชี-มูล” รวมตัวเร่งรัดทวงถามเงินค่าอพยพ ผู้ว่าฯมาปูเสื่อนั่งคุยรับรู้ปัญหา ก่อนตั้งรองผู้ว่าฯ นำทีมคุยกับตัวแทน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี ได้จัดกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวก พี่น้องประชาชนจาก อ.สร้างคอม อ.บ้านดุง อ.กุมภวาปี และ อ.เมือง บางส่วน ที่เป็นสมาชิกกลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน และสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน กว่า 300 คน นำโดยนายสมศักดิ์ ดอนมายา อายุ 61 ปี ตัวแทนสมัชชาฯ มีการตั้งโต๊ะและเครื่องขยายเสียงปราศรัย เร่งรัดให้ตรวจสอบขอเท็จจริง การแก้ไขปัญหาประชาชนได้รับผลกระทบ จากโครงการฝายห้วยหลวง และฝายกุมภวาปี

เบื้องต้นนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี ได้นั่งเสื่อพูดคุยรับฟังปัญหาจากประชาชนอย่างเป็นกันเอง โดยมีนายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง จากนั้นมอบหมายให้นายพิสิษฐ์ชัยฯ รอง ผวจ.อุดรธานี และหัวหน้าส่วนฯ จาก สนง.ชลประทานที่ 5 อุดรธานี , สนง.ชลประทาน จ.อุดรธานี , โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี , หัวหน้าฝ่ายจัดหาที่ดิน สำนักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน และตัวแทนประชาชน 20 คน เข้าประชุมหารือข้อสรุปปัญหา ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.

การเรียกร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจากส่วนหนึ่งของโครงการ “โขง ชี มูล” เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มโครงการมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีกรมการพลังงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ในขณะนี้กำลังดูแล มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเวนคืนที่ดิน ซึ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง และพื้นที่หนองหานกุมภวาปี ก็เป็นอีก 2 จุดที่มีประชาชนได้รับผลกระทบ เบื้องต้นมีการจ่ายเงินชดเชยประชาชนไปแล้ว แต่ยังมีบางส่วนยังไม่ได้รับการชดเชย จนมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ แต่ผู้นำและสมาชิกมองว่าล่าช้า และยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นธรรม

นายสุนทร คำศรีเมือง ผอ.สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 เปิดเผยในที่ประชุมบางช่วงว่า โครงการฝายห้วยหลวงมีประชาชนยื่นคำร้อง 813 แปลง ได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว 488 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 325 แปลง ยังติดปัญหาเรื่องเสียชีวิตและเรื่องอื่นๆ และมีผู้ยื่นคำร้องมาเพิ่มอีก 39 แปลง ยังอยู่ในขั้นตอนไต่สวน ส่วนพื้นที่ฝายกุมภวาปี ยื่นคำร้องมา 147 แปลง เอกสารครบถ้วน 145 แปลง เหลืออยู่ 2 แปลง และมีมายื่นเพิ่ม 8 แปลง ก็ยังต้องไต่สวนอยู่เช่นกัน ซึ่งเป็นการทำงานของคณะทำงานย่อย ยังอยู่ในขั้นตอนการสรุปเอกสาร เราจริงใจในการทำงานและเร่งรัดในส่วนนี้ การที่กลุ่มสมัชชาฯเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้มีการประสานไว้ก่อน เราย้ำว่ายังทำงานกันอยู่อย่างต่อเนื่อง และจากข้อสรุปจะประชุมอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ตามข้อสรุปของที่ประชุมฯ

นายสมศักดิ์ ดอนมายา ตัวแทนสมัชชาฯ เปิดเผยว่า จากการประชุมครั้งที่ 1 ในวันที่ 10 เมษายน 2568 ล่วงเลยมานานกว่า 4 เดือน เรายังไม่รับคำตอบที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องแปลงอพยพ อยากให้มีการประเมินค่าเวนคืนให้ชัดเจน , การประเมินค่าที่ดินด้วยความเป็นธรรม เพราะแต่ละแปลงแต่ละพื้นที่มีมูลค่าที่แตกต่างกัน อาจจะมีเพียงพอต่อการจัดหาที่ดินใหม่ ส่วนที่สองคือหลักเขตที่มีการรังวัดไว้แล้ว แต่ก็ถูกยกเลิก แล้วให้กรมชลประทานดำเนินการต่อ เพื่อให้พี่น้องที่รับผลกระทบได้รับการเยียวยา

“ ส่วนที่สามอยากให้ขับเคลื่อนเรื่องแปลงอพยพ อันไหนที่สมบูรณ์แล้ว ให้เร่งพิจารณาขึ้นไปให้ส่วนกลาง อันไหนไม่สมบูรณ์ก็เร่งนำเสนอต่อไป และส่วนที่สี่เรื่องฝายกุมภวาปี ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ 2 – 3 หมื่นไร่ ที่ขยายเขตตั้งแต่ปี 2549 ให้เร่งดำเนินการ วันนี้รู้สึกดีที่ผู้ใหญ่ได้มาหารือกัน ซึ่งคิดว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยไม่มีข้อกังวลใจอะไร เพราะได้ดำเนินการร่วมกับฝ่ายเลขาอยู่แล้ว ถ้ามีปัญหาก็จะแก้ไขเป็นขั้นตอนต่อไป และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน จะได้รับการแก้ไขปัญหาทั้งหมด เพราะเราประสบปัญหาจริงๆ ”

นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้พี่น้องประชาชนมาหา เราก็เข้ามาพูดคุยและให้กำลังใจ เป็นแนวทางที่เราได้พูดคุยกันไว้แล้ว ทางชลประทานก็เร่งสำรวจอยู่ ตรงนี้เราก็จะมาช่วยกันเร่งรัดให้กับพี่น้องประชาชนให้เสร็จเร็วๆ จะได้แก้ปัญหาและเร่งดำเนินงานในส่วนอื่นต่อไปได้ เพราะก็มีพี่น้องที่รอประโยชน์ในส่วนของระบบน้ำเช่นกัน เราก็เร่งช่วยเหลือพี่น้องที่เสียสละพื้นที่ในโครงการ เท่าที่ติดตามก็เห็นว่าเหลือไม่เยอะแล้ว เราก็จะเร่งสำรวจให้เร็วที่สุด ส่วนตัวไม่มีจุดที่เป็นห่วง เพราะถ้าเราช่วยกันเร่งแก้ไข และมีเป้าหมายเดียวกัน หากมีการมาชุมนุมอีก หากปัญหาไม่จบ เราก็ต้องพูดคุยและเร่งทำงานต่อไป เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างฝายกุมภวาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และประตูน้ำห้วยหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่เริ่มโครงการ “โขง-ชี-มูล” ในการกำกับดูแลของกระทรวงวิทย์ฯ ในช่วงที่นายประจวบ ไชยสาส์น เป็นรัฐมนตรีฯ โดยมีการชดเชยที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง แต่ยังมีชาวบ้านเรียกร้องค่าชดเชยต่อเนื่อง ล่าสุดคือส่วนที่ตกค่าง และส่วนที่เรียกว่า “ค่าอพยพ” ต่อมามีการทบทวนศึกษาออกแบบทั้ง 2 โครงการอีกครั้ง กำหนดเป็นแผนแม่บทที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้ง “ฝายกุมภวาปี” และ “พัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง” มูลค่าการลงทุนมากกว่า 65,000 ล้านบาท…

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments