เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2565 พ.ต.ท.เปลวทอง สารีนันท์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ คนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 70/33 ซอยจินตคาม ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ไม้ครึ่งปูน พบศพกัณตภณ ทุนมาก อายุ 31 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอกับราวบันไดขึ้นชั้นสอง สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำตัวเดียว มีผ้าเช็ดตัวสีชมพูคล้องไว้ที่คอ เจ้าหน้าที่นำร่างลงมาชันสูตร ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจมาประมาณ 10 ชั่วโมง
จากการสอบสวนนางสมบัติ ราชาสุม อายุ 62 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ซึ่งตนมีลูกคนเดียว เป็นลูกตนกับสามีเก่า ตั้งแต่เรียนจบมาก็ไม่ทำงาน เสพติดยาบ้างอมแงม โดยขอเงินแม่ครั้งละ 200-300 บาท เพื่อไปซื้อยาบ้าเสพ และ 5 ปีก่อนโดนจับข้อหาลักทรัพย์ เพราะไปขโมยทีวีญาติไปขายซื้อยาบ้า ติดคุก 1 ปี หลังพ้นโทษออกมาก็ยังหวนกลับไปเสพยาบ้าเหมือนเดิม ซึ่งจะมาขอเงินแม่ไปซื้อยาบ้าเป็นประจำ
นางสมบัติ เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อ 2 วันก่อน ผู้ตายมาขอเงินแม่ 100 บาท ขอพ่อเลี้ยง 20 บาท อ้างว่าจะไปตัดผม ซึ่งทุกครั้งที่ลูกมาขอเงินก็จะบอกให้ลูกเลิกเสพยา แล้วมาเริ่มต้นใหม่ ซึ่งผู้ตายได้ตอบว่าถ้าเลิกเสพยาไม่ได้ก็จะผูกคอตายเอง ไม่ให้แม่ยุ่งยาก ซึ่งตนก็บอกว่าจะคอยดู เช้าวันนี้ตนได้ไปทำงานตามปกติ จนถึงเวลา 12.00 น. ตนได้กลับมาบ้าน ไม่เห็นลูกชายลงมาจากชั้นสอง จึงถามหา และจะขึ้นบันไดไปเรียกลูกลงมากินข้าว ก็พบว่าผูกคอตายตรงบันไดแล้ว
ส่วนนายสนาม สุขสบาย อายุ 61 ปี พ่อเลี้ยงผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายจะชอบอยู่บนห้องนอนชั้นสอง ชอบเปิดเพลงฟังตลอดทั้งวัน และชอบพูดว่าจะผูกคอตายหลายครั้ง แต่พ่อแม่เห็นเชือกก็จะนำไปทิ้ง วันนี้ตนถูบ้านตามปกติ และไม่เห็นผู้ตายลงมาจากห้องนอนชั้นสองตั้งแต่เช้า และไม่ได้ยินเสียงเปิดเพลงตั้งแต่เมื่อวาน ตนก็ไม่ได้ขึ้นไปเรียกผู้ตายลงมากินข้าว กระทั่งภรรยากลับมาจากทำงาน ถามหาผู้ตาย และกำลังจะเดินขึ้นไปเรียกผู้ตายลงมากินข้าว ก็พบผูกคอตายที่บันได
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายอยากเลิกเสพยาบ้า แต่เลิกไม่ได้ จึงผูกคอตายตามที่พูด จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป