รองผู้ว่าฯควงอธิการบดี มรภ.อุดรฯ จับเข่าคุยแก้รถแร่ลาวตกห้วย ทำแร่ทองแดงปนเปื้อนนาน 2 ปี ชง 2 ทางเลือกให้เจ้าของรถ เจ้าของแร่ แก้ปัญหาเองในแล้งหน้า และออกค่าใช้จ่ายให้ภาครัฐจัดการ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 ว่าความคืบหน้าการเก็บกู้ “สินแร่ทองแดง สปป.ลาว” จากรถบรรทุกพ่วงจาก สปป.ลาว ขนแร่น้ำหนัก 28 ตัน ผ่าน จ.หนองคาย มุ่งหน้าไปยังท่าเรือมาบตาพุด ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำบนถนนมิตรภาพ ตกลงไปในลำห้วยสาขา ห้วยสามพาด บ.นาดี ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ตั้งแต่คืนวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทางราชการมีประกาศห้ามบริโภคพืชและสัตว์น้ำ และใช้น้ำระยะทาง 1 กม. ติดต่อกันมาเกือบจะ 2 ปีแล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการขุดลอกเสร็จสมบูรณ์
โดยเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ที่ศาลาวัดสุวรรณประดิษฐ์ ต.นาดี นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี พร้อมคณะทำงานแก้ไขปัญหา มี ผศ.จรูญ ถาวรจักร อธการบดี มรภ.อุดรธานี , นายอำเภอกุมภวาปี , ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด , สิ่งแวดล้อมภาคที่ 9 , ประมงจังหวัด , สาธารณสุขจังหวัด , หน่วยงานเกี่ยวข้อง , ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น , ผู้นำท้องที่ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 20 คน ขณะที่มีตัวแทนบริษัทผู้รับจ้างขนส่งแร่ จาก บ.เอสเค ทรีทราน จก. จ.ขอนแก่น ผู้รับจ้างขนส่งช่วงต่อเดินทางมาร่วม แต่ไม่มีตัวแทนของ บ.ลินฟอกซ์ ทรานสปอร์ต ประเทศไทย จก. ผู้รับจ้างขนส่งตรงจากเอกชนใน สปป.ลาว
ที่ประชุมรายงานว่า หลังจากบริษัทฯเข้ามาเก็บกู้ตะกอนดินในลำห้วย 1 กม.มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ 2 เหลืออีก 200 เมตร โดยยังคงตรวจพบแร่ทองแดงตกค้าง อยู่ในตะกอนดินก้นลำห้วยเกินมาตรฐาน และยังพบทองแดงตกค้างในหอย และสัตว์น้ำกินอาหารผิวดิน และขณะนี้มีน้ำเข้ามาในลำห้วย ทำให้ต้องหยุดดำเนินการขุดลอก ต้องการให้ทางบริษัทฯ กำหนดเวลาในการขุดลอก ที่จะต้องขุดลอกใหม่ จากการที่ยังคงตรวจพบทองแดงในตะกอนดิน รวมทั้งต้องเยียวยากับชาวบ้านที่รับผลกระทบ ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำห้วยแห่งนี้มาเกือบ 2 ปี
หากบริษัทฯยังติดขัดในการลอกตะกอนดิน ทางราชการจะหาหน่วยงานที่สามารถดำเนินการเข้ามาทำงานให้ โดยให้ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจจะประสานไปทาง สนง.พัฒนาภาค 2 กองบัญชาการทหารพัฒนา ที่อยู่ในพื้นที่ ที่มีบุคลากรและเครื่องจักร เข้ามาทำการขุดลอกตะกอนดิน โดยจะต้องให้ทองแดงหมดไปจากลำห้วย ซึ่งจะให้ทำการขุดลอกใหม่อีกครั้งในช่วงฤดูแล้งหน้า เพื่อจะได้ขุดลอกแบบมีประสิทธิภาพสูงสุด
ขณะตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษยังคงตรวจพบทองแดง ตกค้างในก้นลำห้วยและสัตว์น้ำ ซึ่งที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์จากลำห้วย ทั้งไม่ได้ใช้น้ำ ทั้งการเพาะปลูกและการนำน้ำมาใช้ รวมทั้งไม่ได้จับสัตว์น้ำมาเลี้ยงชีพ อยากให้บริษัทฯเร่งดำเนินการให้เสร็จ อีกครั้งเดียวในช่วงฤดูแล้งหน้า ให้ขุดลอกตะกอนดินออกให้หมด โดยขุดให้ลึกกว่ามาตรฐานที่ทางราชการกำหนด เพราะที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาทองแดงตกค้างอีก ชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตกับลำห้วยแห้งนี้ได้เหมือนเดิม
ตัวแทนของ บ.ลินฟอกซ์ ทรานสปอร์ต ประเทศไทย จก.กล่าวว่า การเก็บกู้จะได้ผลลำห้วยต้องแห้ง บริษัทฯติดตามสภาพอากาศมาตลอด ดูว่าจะสามารถเข้ามาดำเนินการได้ตอนไหน หากมีแนวทางที่จะทำได้ เราก็จะรีบดำเนินการ แต่ขณะนี้เข้าสู่หน้าฝน ทำให้ลำห้วยมีน้ำเข้า จึงต้องหยุดการขุดลอก ซึ่งเรื่องของทองแดงที่ทางราชการตรวจพบว่า ยังมีตกค้างในส่วนที่ขุดลอกไปแล้ว ซึ่งเราก็มีนักวิชาการตรวจเช่นกัน ซึ่งอยากให้ร่วมกันตรวจสอบเปรียบเทียบ โดยยืนยันว่าเราจริงใจในการแก้ปัญหามาโดยตลอด
นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า บริษัทฯ จะต้องเก็บกู้ให้เสร็จในช่วงแล้งหน้า โดยจะสรุปแจ้งให้บริษัทฯ เป็นทางการอีกครั้ง ระหว่างที่ดำเนินการไม่ได้ ยังคงห้ามชาวบ้านใช้น้ำในลำห้วยนี้ต่อไป และทางหน่วยงานราชการ ร่วมกับนักวิชาการของทางบริษัทฯ ศึกษาการปนเปื้อนของทองแดง มีมากน้อยแค่ไหน กระทบเรื่องของสัตว์น้ำที่หากินหน้าดิน ข้าวหรือพืชอื่น เพื่อดูค่าชดเชย และพิจารณาเรื่องค่าเสียโอกาสของชาวบ้านตั้งแต่เกิดเหตุ ซึ่งจะทำในรูปแบบคณะกรรมการฯ และจะแจ้งให้บริษัทฯ ทราบทุกครั้งหลังมีการประชุม จนกว่าจะถึงช่วงแล้งที่บริษัทฯ จะเข้ามาดำเนินการต่อไปได้……