จากการณีชายถูกจับลักลอบเข้าจีน อ้างชื่อนายประกอบ เชื้อแสง อายุ 45 ปี เป็นราษฎรตำบลนาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ลอบเข้าประเทศจีน เมื่อปี 2019 และถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับขณะเดินเร่ร่อนที่เมืองเทียนสุ่ย มณฑลกานซู ได้ 1 ปีกว่า จะส่งกลับภูมิลำเนา อ้างเป็นชาวไทย แต่ไม่มีพาสปอร์ต บัตรประชาชนยืนยัน ตำรวจติดต่อให้น้องฝ้าย น.ส.สุกัญญา พลรักษา อายุ 29 ปี ชาว จ.สกลนคร ที่มีมาแต่งงานอยู่ที่เมืองจีน มาเป็นล่ามสอบถาม ให้ร้องเพลงชาติไทยกลับร้องไม่ถูก และท่อง ก-ฮ ไม่ได้ เมื่อไปพบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลนาชุมแสง ต่างยืนยันว่าไม่มีลูกบ้านชื่อดังกล่าว ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบไม่พบชื่อในทะเบียนราษฎร์ คาดว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธ์ บนภูเขาสูง โดยมีญาติกลุ่มชาติพันธ์ที่สูญหายไป 20 ปี ได้ติดต่อเข้ามา แต่ก็ยังไม่ใช่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 น.ส.สุกัญญา พลรักษา หรือน้องฝ้าย อายุ 29 ปี ล่ามชาวไทย ที่อาศัยอยู่เมืองผิงเหลียง มณฑลกานซู ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าว เพื่อแจ้งข้อมูลว่ามีคนแจ้งตามญาติที่สูญหายไปนานกว่า 30 ปี และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกัน โดยน้องฝ้าย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนไปเป็นล่ามให้นายประกอบ และเป็นข่าววันนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อเอ เลน’น ทักแชทมาให้ข้อมูลมาว่า มีน้องชายแม่สูญหายไปเหมือนกัน ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี หายไปประมาณ 30 ปี ชื่อนายสมพร สุภา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 9 บ้านดง ต.ทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน มีหน้าตาคล้ายเคียงกับญาติที่หายไป ตนจึงประสานให้คุยกับตำรวจจีน แต่คุยไม่รู้เรื่องเพราะสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรืออะไร
น้องฝ้าย เปิดเผยต่อว่า ได้ติดต่อกลับไป และบอกให้รูปถ่ายญาติมาให้นายประกอบดู โดยรูปแรกส่งภาพเด็กมา ตำรวจเอาไปให้ดูก็บอกว่าไม่คุ้นเคย จากนั้นได้ส่งภาพผู้ชายสูงอายุมา พอตำรวจนำรูปไปให้ดูโดยยังไม่พูดอะไรนายประกอบได้ดูก็บอกว่าปะป๊า หรือพ่อ โดยไม่ต้องถาม ซึ่งตำรวจมั่นใจว่าน่าจะเป็นครอบครัวของนายประกอบ หรือนายสมพร สุภา หรือนายสีทอง ตนจึงติดต่อกลับไปที่ญาติและแจ้งข่าวว่านายประกอบจำรูปพ่อได้ ขอให้ส่งเอกสารทางราชการที่มีมาให้ จะได้ประสานงานกับตำรวจจีนเพื่อดำเนินการส่งตัวกลับ
น้องฝ้าย เปิดเผยต่อว่า ตนได้วีดีโอคอลกลับไปหานายประกอบ ขอการยืนยัน ซึ่งยืนยันว่ารูปถ่ายคือพ่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าจริงไม่โกหกจะได้กลับบ้าน นายประกอบก็ยิ้มเหมือนดีใจจะได้กลับบ้าน ตนเคยพูดคำนี้หลายรอบ แต่นายประกอบก็เฉยๆ แต่ครั้งนี้กลับยิ้มอย่างมีความสุข จากการพูดคุยกับญาติที่ติดต่อมา ก็มั่นใจ 80 เปอร์เซ็นต์ ว่าเป็นญาติที่หายไป เหมือนมาก อายุใกล้เคียง ระยะเวลาที่หายไปอยู่จีน ซึ่งยืนยันว่าเดินทางมาจีนทางเรือ ซึ่งตรงกับที่ญาติว่าถูกหลอกไปทำประมง จึงได้ให้ญาติ สำเนาบัตรประชาชน บัตรเหลืองชนเผ่า สำเนาทะเบียนบ้าน ตำรวจจีนได้เก็บลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอแล้ว รอทางการไทยยืนยันดีเอ็นเอและเช็คประวัติให้ตรงกัน ก่อนส่งตัวกลับไทย ”
“รู้สึกดีใจมาก เพราะมาอยู่ที่ประเทศจีน ก็ไม่ได้เก่งภาษามาก แต่ไม่คิดว่าจะได้ช่วยคนได้ขนาดนี้ พอรู้ว่าพบครอบครัวของพี่ประกอบแล้ว โคตรมีความสุขใจ ต่อให้เป็นข่าวไม่ดัง แต่พี่เขาได้กลับบ้าน ก็รู้สึกมีความสุข เพราะได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาญาติให้พี่เขา คิดว่าเป็นคนชาติพันธ์ทางภาคเหนือ ก็ติดต่อไป มีคนเข้ามาช่วยหลายคนทั้งกระเหรี่ยง มูเซอ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้สู้คนเดียว พอมีคนติดต่อเข้ามามันจะลุ้นระทึกทุกนาที อยากให้เขากลับบ้าน การที่อยู่แบบไม่มีญาติเลยจะรู้สึกอย่างไร เพราะตนเคยเป็นผีน้อยมาก่อน”
ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อเอ เลน’น หรือ น.ส. พิชญา สุต๋า หรือเรนไท อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 บ้านดง หมู่ 9 ตำบลทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน และญาติหลายคนร่วมกันเล่าทางโทรศัพท์ว่า ตนเป็นคนไทยชาติพันธ์กระเหรี่ยง ตนเห็นข่าวในทีวีตอนเย็นวันที่ 17 มีนาคม จึงนำข่าวไปน้าดูว่า นายประกอบคล้ายกับญาติที่หายไปหรือไม่ พอน้าดูรูปก็บอกว่าใช่ นายประกอบมีหน้าตาคล้ายกับ นายสมพร สุภา หรือสีทอง อายุ 45 ปี ซึ่งหายตัวไปเมื่อปี 2538 ขณะมีอายุ 15-16 ปี เพราะถูกหลอกไปลงเรือประมงที่ จ.ภูเก็ต กับชาวบ้านรุ่นเดียวกันประมาณ 10 กว่าคน
“ พอรู้ว่าถูกหลอกไปลงเรือ ทุกคนก็วางแผนหลบหนี โดยจะหลบหนีครั้งละ 1-2 คน เพราะจะหลบหนีพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ คนอื่นๆ หลบหนีกลับบ้านได้หมด ยกเว้นนายสมพร ไม่กล้าหลบหนีเพราะกลัวนายจ้าง จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย ญาติเคยตามหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งมาเห็นข่าวทีวี พี่สาว ญาติ และเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน เห็นหน้าก็จำหน้าได้ ระบุว่านายประกอบ คือ นายสมพร ที่หายตัวไปเพราะมีใบหน้าคล้ายกับพี่ชายคนโตที่เสียชีวิตไปแล้ว ญาติและเพื่อนบ้านที่รู้จักกันต่างก็ยันยันว่าเป็นนายสมพร หรือนายสีทอง 100 เปอร์เซ็นต์ ”
น้องเรนไท เล่าอีกว่า จากนั้นก็ได้ติดต่อคุณฝ้าย ล่ามภาษาไทยทางเฟซบุ๊ก พร้อมกับส่งทะเบียนบ้านระบุนายสมพร สุภา เกิดวันที่ 28 มิถุนายน 2522 มารดาชื่อแก้ว บิดาชื่อยังตอน อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 9 บ้านดง ต.ทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน พร้อมกับรูปถ่ายของพ่อ ขณะยังมีชีวิตอยู่ รูปนายสมพร ตอนเป็นเด็กไปให้คุณฝ้าย เพื่อส่งไปให้นายสมพรดู ซึ่งก็จำรูปพ่อได้ บอกว่าคือปะป๊า ญาติทุกคนรู้สึกดีใจที่พบนายสมพรแล้ว จากนี้ไปก็เพียงรอการพิสูจน์ทราบของทางราชการ พิสูจน์ทราบทางการแพทย์ในการตรวจ DNA และรอทางการจีนส่งตัวกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากได้ข้อมูลจากทางญาติของนายสมพรฯ ทั้งหมดแล้ว ได้ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เพื่อนำค้นหาบุคคลในระบบ กระทั่งได้พบข้อมูลของนายสมพรฯ อยู่ในระบบจริง และได้ส่งข้อมูลนี้ต่อไปยังน้องฝ้าย เพื่อส่งต่อให้กับตำรวจจีน เพื่อยืนยันข้อมูลให้ตรงกันตามขั้นตอน