ศึก อบจ.อุดร ลุ้นผล“ขี้กะบองแลกช้าง”

เลือกตั้ง นายก และ ส.อบจ. อุดรธานี อาทิตย์ 20 ธันวาคมนี้ ว่างเว้นเลือกตั้งมา 8 ปีแล้ว …แต่กลับเงียบจัง ตอนนี้กำลังหาคนถูกใจ ถ้าไม่เห็นก็จะไปใช้สิทธินะ จะไปกาช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด (อยู่ด้านล่างขวา)

อุดรธานีเมืองศูนย์กลางอีสานตอนบน และจะก้าวสู่ศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ถูกตีตราว่าเป็น “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” ที่บางคนก็ไม่ค่อยชอบ ประชากร 1.59 ล้านคน ส่วนหัวใจของศูนย์กลางคือ เทศบาลนครอุดรธานี มีประชากร 1.3 แสนคน ไม่รวมประชากรแฝงที่ตัวเลขไม่ชัดเจน แต่จะการเอาขยะวันละ 250 ตัน มาใช้เทียบเคียงเชื่อว่ามีอีกเท่าตัว หรือ 2.6 แสนคน อบจ.อุดรธานี จะเข้ามาช่วงเติมหรือช่วย….เติม

เลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครนายก อบจ. 7 คน ผู้สมัคร ส.อบจ. 216 คน เหมือนจะคึกคักแต่กลับเงียบ ป้ายหาเสียงบางตา-ปราศรัยย่อยน้อยมาก-ปราศรัยใหญ่ไม่ต้องพูดถึง ผู้สมัครเลือกจะเดินแจกแผ่นพับ แวะพักพูดคุยกลุ่มย่อยๆ ขณะที่บางกลุ่มยังใช้กลยุทธเดิมๆ เรียกแกนนำไปรับฟังนโยบาย ตามจุดที่นัดหมาย ขณะที่ “การหาคะแนนผ่านโซเซียล” ก็คึกคักมาแทนแนวทางเดิม ซึ่งจะควักกระเป๋าน้อยกว่า

คนข้างเวทีเลือกตั้งครั้งนี้…กระซิบว่า “มวยเวทีนี้กระดูกคนละเบอร์” แต่ก็มีโอกาสพลิกผันด้วยหมัดเด็ด หากผู้สมัครเต็งหนึ่งประมาท มองข้ามการหาคะแนนในอดีต แล้วใครจะมีโอกาสพลิกมาเป็นผู้ชนะ คนอีสานอาจจะใช้ประโยคว่า “ขี้กะบองแลกช้าง”

หมายเลข 1 ชวนนท์ ศิริบาล 64 ปี อิสระ อดีต ผช.เกษตร จ.หนองคาย เสนอตัวทำให้ “อยู่ดีมีสุข ท้องถิ่นอุดรต้องมาก่อน” โดยทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุดรธานีใหม่ ให้เกิดจากความต้องการประชาชน ด้วย 3 พันธะกิจ สังคม-วัฒนธรรม เสมอภาคทุกด้าน , การศึกษาเตรียมความพร้อมตั้งแต่เยาว์วัย และพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร

หมายเลข 2 ฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ 61 ปี อดีตเกษตร จ.อุดรธานี กลุ่มก้าวหน้าอุดรธานี ลงสนามเลือกตั้งครั้งแรก เน้นนโยบายปากท้อง “ตลาดเกษตรกร” ที่ทำสำเร็จมาแล้ว (ถั่วคั่วทราย-กลุ่มปลูกผักนาดี-ต้นแบบตลาดจริงใจ-ท่องเที่ยวสวนดอกไม้ห้วยสำราญ) , เพิ่มหลักสูตรผสมผสานจบ ม.ปลาย มีวิชาชีพติดตัว ด้วย “เปลี่ยนประเทศไทย เริ่มได้ที่อุดรธานี ด้วยอุดรโมเดล” และเปิดข้อมูล อบจ.ทุกช่องทางให้ประชาชนตรวจสอบได้ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ส.อบจ. ขณะการเลือกตั้ง ส.ส. พรรคอนาคตใหม่เคยได้ 1.5 แสนคะแนน

หมายเลข 3 วิเชียร ขาวขำ 64 ปี อดีตนายก อบจ.อุดรธานี 1 สมัย 8 ปี อดีต ส.ส.อุดรธานี 6 สมัย กลุ่มเพื่อไทยอุดรธานี 8 ปีก่อนชนะเลือกตั้ง 3.5 แสนคะแนน ขณะที่เลือกตั้ง ส.ส.ล่าสุดพรรคเพื่อไทยชนะทุกเขตรวม 3.65 คะแนน จึงเป็นเป็นตัวเต็ง ที่แจกแจงต้องสังกัดพรรค เพราะอำนาจหน้าที่ อบจ.มีจำกัด งบพัฒนามีอยู่จำกัด จะต้องมีพรรคการเมืองหนุน และจับมือกับภาคส่วนอื่น ช่วยกันผลักดัน มหาวิทยาลัยอุดรธานี-ถนนวงแหวนรอบ2-ย้ายเรือนจำออกจากกลางเมือง-สร้างโครงการคมนาคม

หมายเลข 4 อิงค์ณภัจฉร์ ชิณวัตรนุวงค์ 50 กลุ่มเพื่ออุดรธานี ประสบการณ์ในต่างประเทศ 12 ปี และทำงานจิตอาสาที่อุดรธานีหลายปี จึงขออาสามาทำงาน ด้วยขอเป็นกลางทางการเมือง เป็นมิตรกับทุกพรรคทุกกลุ่ม โดยยึดแนวทาง “กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ กล้าเปลี่ยน” ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ สามารถขอรับการสนับสนุนจากกองทุน และการใช้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ด้วยการสำรวจความจำเป็นเร่งด่วน

หมายเลข 5 ศักดา เกตุแก้ว 44 ปี ผู้บริหาร ฮอบบิด ไทยแลนด์ (ตลาดทุน-เงินดิจิตอล) ผู้สมัครอิสระ ประกาศตัวเป็นคนรุ่นใหม่ที่ “ใจถึง พึ่งได้”

หมายเลข 6 เศรษฐภัทร์ นิตยสิทธิวรากุล 43 ปี อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย “รวมพลังอุดร เพื่อเปลี่ยนแปลง อุดรธานีต้องเป็นหนึ่ง” ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง งบประมาณตรวจสอบได้ เสนอให้ อบจ.จัดหา Wi-Fi ฟรี จะทำอุดรธานีก้าวสู่เมืองอัจฉริยะ เป็นศูนย์กลางดิจิตอล เป็นถนนสายใหญ่เศรษฐกิจ จะทำให้เกิดตลาดใหม่ กลายเป็นศูนย์กลางแห่งโอกาส

หมายเลข 7 นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ อายุ 67 ปี เศรษฐศาสตร์ ม.ลอนดอน อดีตแกนนำ พธม. เป็นหนี้บุญคุณเมืองอุดรธานีอยู่มา 24 ปี ติดตามเรื่องบ้านเมืองมาตลอด ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายลงสมัคร เพราะเป็นว่าถึงเวลาแล้วต้องเปลี่ยน ต้องปราศจากการโกง นโยบายไม่เพ้อฝัน ทันสมัยเสมอ จับต้องได้ นำหน้าด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง , ลดความเหลื่อล้ำสังคม , ปราบโกง และกำจัดยาเสพติด

ในภาพรวมสนามจังหวัดดูซบเซา แต่สนามในเขตนครอุดรธานี 4 เขตเลือกตั้ง กลับคึกคักถูกจับตามองมาก เพราะสนามนี้แม้จะมี ส.ส.เป็นพรรคเพื่อไทย และเพื่อไทยทั้งจังหวัด แต่นครอุดรธานีกลับเป็น “กลุ่มนครหมากแข้ง” ยึดพื้นที่นี้มานาน 8 ปีก่อน เพื่อไทยก็ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน แม้นายก อบจ.จะชนะเลือกตั้ง แต่ไข่แดง 4 เขตกลับพ่ายแพ้ จบเลือกตั้งก็ยังเหมือนไม่จบ ครั้งนี้เวทีเลือกตั้งกลับมาอีกครั้ง

ยุทธการปกป้องไข่แดง เป็นเวทีปะลองพลังของ “กลุ่มนครหมากแข้ง” กับยุทธการบุกเจาะไข่แดง กลับเป็นเวทีเดิมพันของ “เพื่อไทยอุดรธานี” แม้ใครจะได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้ ไม่ใช่ต่างฝ่ายหันกลับไปมุมตัวเอง เหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อน ต้องกลับมาจับมือร่วมขับเคลื่อน ให้อุดรธานีเป็นสู่ศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อย่างแท้จริง-ยั่งยืน …