เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน 2562 นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี มีคำให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ บริเวณถนนศรีชมชื่น หลังเรือนจำกลางอุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นถนนด้านหลังสถานศึกษาหลายแห่ง หลังจากได้รับร้องเรียนจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ว่ามีลักษณะมอบเมาเยาวชน โดยพบว่าตู้คีบตุ๊กตาที่ติดป้ายว่า “ตู้ฝึกทักษะ” ตั้งอยู่หน้าร้านขายของชำ 3 ตู้
ตรวจสอบร้านขายของชำ ที่มีตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ เป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าอัตโนมัติ ผู้เล่นต้องหยอดเหรียญ 10 บาท แล้วกดปุ่มเพื่อเล่นด้วยการ จับคันโยกเลื่อนคีบตุ๊กตา หากคีบได้ตุ๊กตาจะมีมูลค่ามากกว่าเงินที่เสียไป หากคีบไม่ได้ตุ๊กตาจะไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน จึงเป็นเครื่องเล่นไม่ได้ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน เข้าลักษณะเป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2530) ใน พรบ.การพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นการเล่นพนันตามบัญชี ข. หมายเลข 28 (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8600/2547)
เจ้าของร้านอ้างว่า ได้รับการติดต่อมาขอวางตู้หน้าร้าน มีค่าใช้จ่ายให้เดือนละ 3,000 บาท และทุกวันจะมีตัวแทนมาเปิดตู้เก็บเงิน ต่อมาได้พบนายนาควัฒน์ รุ่งรังษี อายุ 31ปี 144/1 ม.10 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เดินทางมาที่ตู้เพื่อเปิดเอาเงินค่าบริการ จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว สอบสวนเบื้องต้นยอมรับว่า นายแบงค์ฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ว่าจ้างให้มาดูแลรับผิดชอบเครื่องเล่นฯ 10 เครื่อง วางกระจายทั่วไปอยู่ตามถนน และชุมชน มีหน้าที่เปิดเอาเงินในตู้แล้วโอนเงินไปให้ สนง.ในกรุงเทพฯ จึงแจ้งข้อหา นำตัวส่ง ร.ต.อ.จักรพงษ์ ต้องแต้ม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลาง
นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ว่ามีตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ มาตั้งอยู่ถนนศรีชมชื่น เป็นด้านหลังของสถานศึกษาหลายแห่ง ทำให้เด็กนักเรียนนำเงินค่าขนม และอื่นๆ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองให้มา ไปเล่นตู้คีบตุ๊กตามาตั้งแต่เปิดภาคเรียน จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่าตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญไม่ถูกกฎหมาย จึงเฝ้าจับกุมผู้ดูแลตู้ไป 1 คน และกำลังทยอยตรวจยึดตู้มาดำเนินคดี
“ ผู้ต้องหาระบุว่าเจ้าของเป็นนักธุรกิจในกรุงเทพ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ส่วนที่ผู้ต้องหายอมรับว่าดูแลตู้ 10 เครื่อง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าในเขตเมืองอุดรธานีมีมากกว่านั้น อีกทั้งเมื่อพ่อแม่ผู้ปกครอง รู้ว่าเจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจึงเรื่องนี้ ได้โทรมาแจ้งเบาะแสจุดตั้งตู้เพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นนโยบายของทางราชการ ที่จะไม่ให้มีสิ่งมอบเมาเยาวชน ”