กมธ.แก้ไขปัญหายากจนและลดความเลื่อมล้ำ สว.ให้ถอยคนละก้าว พระ-ศิษย์ขอออกโฉนด 2.3 พันไร่ ทับพื้นที่เสนอเป็นมรดกโลกภูพระบาท แต่ศิษย์ไม่ยอมอ้างกฎหมาย รศ.สังสิต ตบโต๊ะชี้หน้าคุณไม่ถอยผมหยุด เอากฎหมายไปว่ากันเอง ทำให้เจ้าอาวาสยอม (จะเอาไปทำอะไร ที่วัด-ที่ป่า)
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยะราชวรานุวัตต์ ชั้น 3 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เป็นประธานประชุมกับผู้เกี่ยวข้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ กรณีปัญหาการออกโฉนดที่ดิน ขอวัดพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มีนายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นำส่วนราชการในพื้นที่ร่วมประชุม
ส่วนราชการจากส่วนกลางประกอบด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน , นายวิเชต ลิ้มภักดี ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น ก็เข้าร่วมประชุม ขณะที่ทางด้านวัดพระพุทธบาทบัวบก ประกอบด้วย พระครูพุทธบทบริรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทบำบก นายสุขอนันต์ วังสุนทร ผู้รับมอบอำนาจจากวัดฯ และคณะศิษย์
กมธ.การแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา รับเรื่องร้องเรียนจากวัดพระพุทธบาทบัวบก ว่าได้ยื่นขอออกโฉนดที่ดินวัดพระพุทธบาทบัวบก ที่ขึ้นทะเบียนเป็นวัดมาตั้งแต่ปี 2460 สนง.ที่ดิน เข้ารังวัดทำแผนที่แนวเขตรวม 2,390 ไร่ แต่กรมป่าไม้ และกรมอุทยาน ได้คัดค้านว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินจอมธาตุ-ภูพระบาท (เตรียมการ) ซึ่งให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทใช้พื้นที่ และอยู่ในขั้นตอนการเสนอขึ้นทะเบียน “มรดกโลก”
รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า เมื่อวานลงพื้นที่วันนี้ได้มาคุยกัน เป็นความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างวัด กับหน่วยงานของรัฐ เบื้องต้นทุกฝ่ายมีความเห็นว่าจะยุติความเห็นที่แตกต่างกับ มาทำเพื่อส่วนร่วมเพื่อประเทศชาติ โดยมีทางจังหวัดมาประสานทำบันทึกร่วมกัน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทุกฝ่าย ถ้าทุกคนยอมถอยเพื่อได้ประโยชน์ส่วนรวมเพิ่มขึ้น โดยมรดกโลกถือเป็นเกียรติภูมิของทั้งประเทศ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเร็วๆนี้ อาจจะมีการพิจารณาเรื่องนี่ด้วย
“ การคุยวันนี้น่าจะมีทางออก กรมป่าไม้ก็ยอมถอย กรมอุทยานฯจะถอยด้วย แต่ขอให้คงพื้นที่ราว 430 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งหน่วยงาน มีทรัพย์สินทางราชการอยู่ 2 หน่วยงานนี้ก็จะถอนเรื่องคัดค้าน ที่ดินที่เป็นของวัดหรือขอกรมการศาสนา ก็จะเหลืออยู่ราว 1,900 ไร่ ทางวัดก็น่าจะถอนเรื่องคดีความ ทำกันไปพร้อม ๆกัน ส่วนกรมศิลปากรจะต้องใช้พื้นที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก 7,300 ไร่ ซึ่งก็จะเป็นการขอใช้พื้นที่จากป่าไม่และวัด ”
ขณะที่พระเลขาฯ และนายสุขอนันต์ วังสุนทร ผู้รับมอบอำนาจจากวัดฯ ได้ยืนยันจะขอออกโฉนดเท่าที่รังวัดทั้งหมด 2,390 ไร่ แล้วให้กรมอุทยานมาขอใช้พื้นที่ภายหลัง โดยอ้างว่าวัดเข้ามาอยู่ก่อน แม้ว่า รศ.สังศิตฯ ขอให้ไม่ยึดติดกับข้อกฎหมาย แล้วมายึดเอาประโยชน์ส่วนร่วม แต่นายสุขอนันต์ฯ ก็ยังคงยืนยันเจตนาเดิม ทำให้ รศ.สังศิตฯ ถึงกับตบโต๊ะ แล้วชี้นิ้วไปที่นายสุขอนันต์ฯ แล้วตอบว่าถ้าทางวัดยังคงยืนยันอย่างนั้น ตนเองก็จะขอปิดประชุม ให้ไปดำเนินการตามกฎหมาย ทำให้พระครูพุทธบทบริรักษ์ เจ้าอาวาสฯ ยืนยันจะทำตามที่ กมธ.แนะนำ
รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธาน กมธ.ฯ ขอให้นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี สรุปแนวทางการปฏิบัติว่า จะต้องดำเนินการในเชิงพื้นที่ก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย กับวัดฯ จะต้องลงไปในพื้นที่จริง เพื่อพิจารณาเรื่องที่ดินกรมอุทยาน 430 ไร่ ซึ่งอาจจะน้อยกว่านี้ก็ได้ ซึ่งจะติ้องหาข้อยุติร่วมกัน เพราะกรมอุทยานเองก็มีข้อจำกัด เรื่องทรัพย์สินของทางราชการ โดยหน่วยงานราชการพร้อมที่จะขับเคลื่อนให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรมศิลปากรได้เสนอขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” เป็นมรดกโลก ด้วยการนำเสนอเอกสารที่เป็นสากล ให้กับคณะกรรมาการพิจารณาไปแล้ว และคณะกรรมกานได้ส่งนักวิชการมาประเมิน พร้อมให้ข้อเสนอแนะรวม 3 รอบ โดยไม่มีข้อทักท้วงในเรื่องพื้นที่ และการมีส่วนร่วมของประชาชน การประชุมคณะกรรมการฯ จะมีขึ้นราวเดือนกรกฎาคม 2567 คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้….