เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกัน ที่หน้าโรงงานซีมิกซ์คอนกรีต ถนนนาข่า-สุมเส้า บ้านถ่อนใหญ่ ต.นาข่า มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน พบศพนายกฤษดา นาหมื่น อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 หมู่ 17 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี กะโหลกแตกคอหักนอนหงายอยู่กลางถนน ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟไอ สีส้ม สภาพใหม่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย ล้มอยู่ข้างศพสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บสาหัสทราบชื่อภายหลัง น.ส.ปิยะพร ประจงสาร อายุ 27 ปี นายธวัชชัย นันทวัน อายุ 32 ปี สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 17 ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ขาซ้ายหักทั้งสองคน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟสีขาวดำ ทะเบียน 2 กณ 1501 อุดรธานี ล้มอยู่ข้างผู้บาดเจ็บ และพบกล่องผัดซีอิ๋วหล่นกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่รีบตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
นายวิษณุ อ่อนมะลัง อายุ 36 ปี ผจก.โรงงานซีมิกซ์คอนกรีต เล่าว่า ผู้บาดเจ็บทั้งสองเป็นซับคอนแท็คของโรงงาน (ผู้รับเหมารับช่วงต่อ) เป็นสามีภรรยากัน และพักอาศัยอยู่บ้านพักในโรงงาน ก่อนเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ไปกินข้าวที่บ้านนาข่าห่างจากโรงงานประมาณ 5 กม.ต่อมาได้ยินเสียงดังเหมือนมีอุบัติเหตุอยู่หน้าโรงงาน จึงออกไปดูก็พบรถจักรยานยนต์ชนกัน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุมืดมาก ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ตนเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จึงนำรถยนต์ของโรงงานมาจอดเปิดสัญญาณว่ามีอุบัติเหตุ และโทรแจ้งเหตุ 1669 รีบนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล
จากนั้นได้เปิดกล้องวงจรปิดหน้าโรงงาน พบว่าบริเวณหน้าโรงงานมืดมาก เวลา 18.46 น. พบผู้บาดเจ็บทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากกินข้าวที่บ้านนาข่า กลับมาโรงงานกำลังชะลอเลี้ยวขวาข้ามเข้าโรงงาน เป็นจังหวะเดียวกับผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนรถจักรยานยนต์สองผัวเมียดังสนั่น ทำให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ส่วนนายทินกร นาหมื่น อายุ 29 ปี พี่ชายผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุ ได้เดินไปจับมือน้องชายด้วยสีหน้าเศร้าโศก พร้อมกับเล่าว่า ผู้ตายทำงานที่โรงน้ำแข็งกิจวารี ก่อนเกิดเหตุ ตนใช้ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านไปซื้อครีมทาผิวที่เซเว่นบ้านนาข่าให้ตน ต่อมามีชาวบ้านที่ทำงานอยู่โรงงาน ไปบอกตนว่าน้องชายเกิดอุบัติเหตุที่หน้าโรงงานเสียชีวิต ตนจึงรีบออกมาดู ไม่คิดว่าน้องจะเสียชีวิต ซึ่งตนไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายขี่รถด้วยความเร็วสูง ประกอบกับบริเวณที่เกิดเหตุมืดไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้ชนกับผู้บาดเจ็บที่ชะลอเลี้ยวเข้าโรงงาน แรงชนทำให้คอหัก กะโหลกแตก เสียชีวิตคาที่ ซึ่งจะได้สอบสวนประจักษ์พยาน และตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนให้อาสากู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป