อุดรฯติดโควิด-19เพิ่ม แรงงานหนีแคมป์หลักสี่ปิดโผล่ 5 งานสู่ขวัญในครอบครัวไม่รู้ที่มาเชื้ออีก 9 ขณะ อสม.อุดรฯแห่งฉีดวัคซีนเข็มแรก ชวนกันมาจองคิวฉีดตั้งแต่เช้า ทำคิวฉีดที่ มรภ.อุดรฯวุ่น ผู้ว่าฯต้องลงไปสังการเอง พร้อมขออภัยคนไปเจอร้อนนาน 2 ชม. พร้อมยืนยันเรือนอุดรฯไว้โควิด-19 สั่งระงับบรรยากาศชิล ๆ สันเขื่อนห้วยหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้ใช้เป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี , พญ.ฤทัย วรรธณวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี นพ.ทวีรัชต์ ศรีกุลวงษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี ร่วมอำนวยการแพทย์ พยาบาล นักการสาธารณสุข และอาสาสมัคร อำนวยความสะดวกกับผู้มารับฉีดวัคซีน 2 กลุ่ม กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์-เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่ 2 และ อสม.เข็มที่ 1 รวม 5,400 คน โดยนัดเวลาเป็นกลุ่มย่อย เหลื่อมเวลากันราว 1 ชม.
ปรากฏว่ามีผู้เดินทางมาตั้งแต่เช้า ไม่เป็นไปตามที่กำหนดแผนไว้ อาทิ ไม่ได้มาตามที่แจ้งนัดหมาย แต่เดินทางมาตั้งแต่เช้าพร้อมกัน , เดินทางมาก่อนวันนัดหมายตนเอง และยังไม่มีรายชื่อในทะเบียน ทำให้บริเวณจุดลงทะเบียนด้านหน้า มีคนไปรอเข้าคิวอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เพื่อรอการจัดระเบียบ ให้กลุ่มผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 มีอยู่ราว 1,700 คน สลับกับกลุ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 (ที่เหลือ) และให้ผู้ที่ไม่มีชื่อในทะเบียน ไปลงทะเบียนใหม่บนชั้น 2 ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นระดับหนึ่ง
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ชี้แจงในการแถลงข่าวว่า ขออภัยพี่น้องชาวอุดรธานี ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนในวันนี้ ที่ มรภ.อุดรธานี ที่การฉีดได้นัดหมายเรื่องวันและเวลา แต่คงเกิดจากความสับสน หรือการสื่อสารผิดพลาด ทำให้คนตั้งใจมาฉีดวัคซีน เดินทางกันมาตั้งแต่เช้าพร้อมกัน แต่เพื่อไม่ให้ผู้ที่ตั้งใจเดินทางมา ต้องเดินทางกลับไปแล้วผิดหวัง ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่รับไว้มากที่สุด ต้องพบกับอากาศร้อน และใช้เวลาในขั้นตอนการฉีดกว่า 2 ชม.
“ การรอคิวเกิดขึ้นเฉพาะช่วงแรก คือการเข้าคิวลงทะเบียน ต่อเนื่องกับการวัดความดัน มีการเคลื่อนตัวช้าพอสมควร ท้ายแถวจึงออกไปนอกพื้นที่ เจอกับแดดและอากาศร้อน ขั้นตอนต่อไปการเคลื่อนตัวทำได้ปกติ สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ไม่สะดุด ในครั้งต่อไปจะนำข้อมูลมาปรับปรุง กระบวนการการนัดหมาย จะต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะให้นายอำเภอ และฝ่ายปกครอง เข้ามาประสานความร่วมมือในครั้งต่อไป เพราะต่อไปจะต้องฉีดวัคซีนกันอีกนาน ”
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า ตามที่สื่อออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพ ประชาชนไปรวมตัวกัน บนสันเขื่อนอ่างฯห้วยหลวง ไปจัดกิจกรรมกินข้าว สังสรรค์ นำสินค้าไปขายกัน ได้เห็นภาพนั้นแล้ว พบส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากาก และยังเป็นกิจกรรมที่ขัดกับประกาศ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปดำเนินการไม่ให้จัดกิจกรรมแบบนี้อีก ก็เป็นเรื่องกิจกรรมที่ผู้คนมีความนิยม ก็เดินทางไปรวมตัวทำกิจกรรมกัน ราชการก็ทำงานตามหลังทุกที
ส่วนคำถามเรื่องเรือนจำกลางอุดรธานี มีปัญหาเหมือนเรือนจำหลายแห่งที่เป็นข่าวหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า เรือนจำกลางอุดรธานีมีผู้ต้องขัง 5,000 คนเศษ ถือว่าอยู่ในสภาพหนาแน่น เรือนจำฯเคยมาชี้แจงต่อ คกก.โรคติดต่อจังหวัดทุกครั้ง ล่าสุดยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำ โดยกำหนดมาตรการ ผู้ต้องขังใหม่เมื่อเข้าไปในเรือนจำ จะถูกแยกห้องควบคุมห้องละ 30 คน และต้องควบคุมตัวอยู่ 21 วัน ไม่ให้ไปปะปนส่วนอื่น วันแรกจะต้องรับการตรวจหาเชื้อ วันที่ห้าก็ตรวจหาชื่ออีกที และก่อนแยกออกจากห้องตรวจอีกครั้ง และมีมาตรการของเจ้าหน้าที่ด้วย (ฉีดวัคซีน 145 คน)
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวว่า ปฏิบัติการณ์อุดรธานี 14 วันแห่งความปลอดภัย เฟสแรกแม้จะผ่านไปแล้ว แต่เราก็ยังจัดการโควิด-19ไม่หมด จึงต้องทำต่อในเฟสสอง มาตรการ ว-ก-ป (วัคซีน-เก็บกวาด-กักตัว-กฎหมาย-ประกาศ-ประชาสัมพันธ์) ภายในแนวทาง “ฉีดวัคซีน เปิดเมือง ปลดแมส” เพราะในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เราพบผู้ติดเชื้อ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 5 คน เป็นคนงานคัสเตอร์แคมป์หลักสี่ กทม. เมื่อแคมป์ถูกปิดแรงงานกลับบ้าน แรงงานเหล่านี้ทำตามมาตรการ กักตัวเองที่กระท่อมนา และมาพบแพทย์ เรายังต้องเฝ้าระวังเรื่องนี้
“ กลุ่มที่สอง 9 คน อยู่นอกกลุ่มเสี่ยงที่เราตั้งไว้ เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน อาศัยอยู่ในบ้านจัดสรร ย่านบงคำ ถนนอุดร-หนองคาย การสอบสวนยังหาจุดเริ่มต้นไม่ชัด ที่เกิดจากหัวหน้าครอบครัว มีอาชีพขับรถสาธารณะ มีอาการป่วยไม่ได้ไปขับรถ 12 พ.ค.ที่บ้านจัดพิธีสู่ขวัญ ส่งบุตรสาวไปรับราชการ 16 พ.ค.หัวหน้าครอบครัวมาพบแพทย์ ในอาการปอดอักเสพ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวนำผู้สัมผัสเสียงสูงมาตรวจ 18 คน ผลออกแล้ว 9 คนพบเชื้อ ที่เหลือยังต้องรอผลคืนนี้ ทีมสอบสวนควบคุมโรคยังทำงานต่อเนื่อง ”
