รถไฟให้สิทธิพิเศษนิคมอุตใช้รางเชื่อมโลก

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ที่ห้องรับรองชั้น 2 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้ลงนามในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดิน เพื่อก่อสร้างวางรางรถไฟ เชื่อมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ระหว่างสถานีหนองตะไก้ กับสถานีหนองขอนกว้าง โดยผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุมัติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 พิจารณาให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม

มีนายณัฐพงศ์ คําวงศ์ปิน หัวหน้าสํานักงานจังหวัดอุดรธานี นำนายสิทธิพงษ์ มากมูล ผช. รักษาการสารวัตรแขวงบำรุงทางอุดรธานี นายพิสิษฎ์ พิพัฒน์วิไลกุล กรรมการผู้จัดการ บ.เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จก. ผู้ดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ผู้แทนหอการค้า จ.อุดรธานี , สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี , อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี และขนส่ง จ.อุดรธานี ร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาอนุมัติให้ยกเว้นเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพื่อจัดทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดิน ในการก่อสร้างทางรถไฟ เชื่อมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ระหว่างสถานที่หนองตะไก้ กับสถานีหนองขอนกว้าง ระยะทาง 2.8 กม.เป็นกรณีพิเศษ ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานีหรือผู้แทน ลงนามในสัญญาอนุญาต กำหนดในสัญญาคราวละ 5 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุน

นายพิสิษฎ์ พิพัฒน์วิไลกุล กรรมการผู้จัดการ บ.เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จก. ผู้ดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมอุดรฯ ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ กม.441+179 ต.โนนสูง และ ต.หนองไผ่ อ.เมือง อุดรธานี พื้นที่ 2,170 ไร่ มีพื้นที่ติดทางรถไฟกรุงเทพ-หนองคาย ซึ่งกำลังพัฒนาเป็นรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ๆได้แบ่งพื้นที่ 600 ไร่ จัดตั้งเป็นศูนย์โลจิสติดพาร์ค เชื่อต่อระบบขนส่งทางราง ให้ลูกค้าของนิคมฯ และทั่วไป ขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV , จีนตอนใต้ , ท่าเรือแหลมฉบัง และเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC

“ ศูนย์โลจิสติดพาร์ค ประกอบด้วยพื้นที่ คอนเทเนอร์ยาร์ด , ICD และฟรีโซน โดยความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อทางรถไฟจากสถานีหนองตะไก้ เข้ามายังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรฯ ระยะทาง 2.8 กม. ใช้งบประมาณของการรถไฟ 76.37 ล้านบาท สำหรับรางภายในระยะทาง 1.1 กม. นิคมอุตสาหกรรมอุดรฯลงทุนเอง 36.24 ล้านบาท เดิมการเชื่อมทางรถจะอยู่ในเฟสแรก แต่ล่าช้าไปบ้างจึงขยับไปเฟสต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 67 ระหว่างนี้จะใช้สถานีหนองตะไก้ในระยะแรก ”