เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 มกราคม 2567 ที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงจับผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ประกอบด้วยนายปาล์ม นามสมมติ อายุ 14 ปี และนายอาร์ม นามสมมติ อายุ 15 ปี ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กฐ 9211 อุดรธานี เสื้อยืดแขนยาวสีดำ สกรีนอักษรสีขาว “ดอนผีบิน” หมวกกันน๊อคยี่ห้อ index สีขาว ป้องกัญชาทำด้วยไม้ไผ่ 1 บ้อง ปืนปลอมด้ามจับสีแดง 1 กระบอก เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ โดยกล่าวหา “ ร่วมกันชิงทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลาง
สอบสวนนายปาล์ม รับสารภาพว่า ทั้งสองชวนกันขี่รถ จยย.ไปสูบกัญชาบ้านเพื่อน โดยนายอาร์มฯใช้เสื้อพันบ้องกัญชาไว้ และพกปืนปลอมไปด้วย ขณะขับรถมาพบ ด.ช.อาชิ ขี่ จยย.ซ้อน ด.ช.พัตเตอร์ อายุ 13 ปี นร.ชั้น ม.1 รร.บ้านม่วง ทน.อุดรธานี และเห็น ด.ช.อาชิ ใส่เสื้อ “ดอนผีบิน” จึงถามนายอาร์มว่า “เอาเสื้อดอนเปล่า” นายอาร์มบอกว่าเอา จึงขี่รถตามไปแล้วปาดหน้า นายอาร์มเอาปืนจี้บังคับชิงเสื้อ แล้วขี่รถหลบหนีไปสูบกัญชาบ้านเพื่อน จนมาถูกตำรวจตามมาจับกุม
ส่วน ด.ช.อาชิ เล่าว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายที่ชิงเอาเสื้อ “ดอนผีบิน” ตนกลับมาได้ ในใจตนคิดว่าตำรวจต้องจับกุมคนร้ายได้และได้เสื้อคืน แต่จะไม่ใส่เสื้อตัวนี้อีกจะเก็บไว้ ตนซื้อต่อจากเพื่อนในราคา 1,500 บาท แต่ถ้ามีคนมาขอซื้อต่อจะขายต่อในราคา 1,400 บาท เพราะว่า ตนจะไปซื้อเสื้อตัวใหม่แทน
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งได้สั่งการให้ พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยเกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขับรถติดตามผู้เสียหาย ก่อนจะลงมือจี้ชิงเอาเสื้อ จนทราบว่าเป็นนายปาล์ม และนายอาร์ม ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงเข้าไปแจ้งผู้ปกครองเด็กทั้งสองให้ทราบ และตรวจยึดของกลาง นำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ถึงแรงจูงใจที่ก่อเหตุ ทั้งสองรับสารภาพว่า เพราะความคึกคะนองอยากได้เสื้อเท่านั้น ส่วนปืนก็ของปลอม ช่วงนี้มีเด็กเยาวชนทำผิดกฎหมายมากขึ้น แต่ตำรวจก็ได้บูรณาการทั้งชุดป้องกันปราบปราม ชุดสืบสวน ออกติดตามผู้ก่อเหตุ จึงอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ช่วยดูแลตักเตือนบุตรหลานให้ไปก่อเหตุ เพราะจะถูกดำเนินคดีเสียอนาคต