เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2566 ร.ต.อ.สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์ชน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดที่ กม.ที่ 20 บนถนนมิตรภาพ (อุดรธานี – หนองคาย) ฝั่งขาเข้าอุดรธานี เยื้องกับศาลปกครองอุดรธานี ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพนายวัชระพงษ์ ชมภูนิมิต อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่183 หมู่ 11 บ้านสร้างหลวง ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ อุดรธานี นอนคว่ำหน้าร่างกายแหลกเละ กะโหลกศีรษะยุบ มันสมองกระจายเต็มพื้นถนน ภายในตัวไม่มีเอกสารราชการ แต่พบสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย โทรศัพท์มือถือพังเสียหาย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีเทาดำ ทะเบียน 2 กด 7581 อุดรธานี สภาพพังเสียหายทั้งคัน เศษตัวรถถูกชนและเหยียบ กระจายเต็มถนน ล้อหน้ากระเด็นหลุดไปอยู่เกาะกลางถนน และพบร่องรอยการถูกชน มีรองเท้าแตะของผู้เสียชีวิตตกอยู่จุดที่ชนตอนแรก มีร่องรอยการถูกชนและลากยาวกว่า 50 เมตร
นายกฤษฎา ศรีสุนาครัว อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม เล่าว่า หลังรับแจ้งเหตุทราบว่าจุดดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่าง ถนนทั้งสองฝั่งมืดมาก จึงได้นำไฟส่องสว่างเข้ามาสนับสนุนในที่เกิดเหตุ ซึ่งพบรถเกิดอุบัติเหตุจอดอยู่ริมถนนอยู่หลายคัน โดยมีพลเมืองดี เป็นผู้หญิงขับขี่รถยนต์ (มิตซูบิชิ เอ็กซ์เพนเดอร์) เล่าให้ฟังว่า เห็นเหตุการณ์ช่วงแรก คาดว่ารถจักรยานยนต์จะถูกเฉี่ยวชนจนล้มริมถนน ซึ่งคนขับยังไม่เสียชีวิต ยังขยับร่างกายอยู่ ตนกำลังจะลงจากรถไปช่วยเหลือ แต่ก็มีรถยนต์ที่ขับตามหลังมาเหยียบทั้งคนทั้งรถลากไปกับถนนประมาณ 4 – 5 คัน พอเจ้าหน้าที่มาถึง พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ก็ขับรถไปทางเมืองอุดรฯ แจ้งว่ามีธุระ
นายศุภศักดิ์ สุขรมย์ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เพ็ญ ผู้ขับรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กย 6626 อุดรธานี เล่าว่า ตนเองเพิ่งทำงานเสร็จ กำลังจะขับรถเดินทางกลับบ้านพักที่อยู่ตัวเมืองอุดรธานี ใช้เส้นทาง อ.เพ็ญ – บ้านด่าน เมื่อมาถึงปากทาง เลี้ยวซ้ายออกมาตามถนนมิตรภาพ ยังไม่ทันได้ทำความเร็ว ตนก็ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ที่จอดพังอยู่กลางถนน ลากไปไกลอยู่พอสมควร เมื่อตนหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าข้างทาง เมื่อลงมาดูก็พบว่า หน้ารถเก๋งพังเสียหาย ไม่มีร่องรอยของการชนร่างคนตาย มีเพียงรอยน้ำมันเครื่องลากเป็นทางยาว ตนไม่มีเจตนา ตนมองไม่เห็นจริงๆ เพราะถนนมืดมาก
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์จากบ้าน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี แต่เนื่องจากถนนอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีรถยนต์ขับตามหลังมาเฉี่ยวชนรถผู้ตายล้ม ได้รับบาดเจ็บ และมีรถยนต์ขับตามหลังมาเหยียบผู้ตายซ้ำหลายคัน ทำให้เสียชีวิตร่างเละ มีเพียงปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอ.เพ็ญ ประสบอุบัติเหตุชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย และรอให้ปากคำ ซึ่งตำรวจจะได้ประสานขอภาพจากล้องวงจรปิดตาม เพื่อติดตามตัวคู่กรณีทุกคันมาทำการสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมาย และมอบศพผู้เสียชีวิตไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี รอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี พบกับ น.ส.แบม นามสมมติ อายุ 20 ปี เพื่อนสาวคนสนิทผู้ตาย ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนกับผู้ตายเคยคบกัน แต่เลิกกันแล้วนานแล้ว แต่พวกตนก็ยังพูดคุยกันปกติ เวลาประมาณ 18.00 น.ผู้ตายได้ส่งไลน์ทักมาหาตน ทำนองขอคืนดี อยากคืนดี ถ้าตนกลับไปคืนดี จะบวชให้ 45 วัน และผู้ตายบอกว่าจะขี่รถจักรยานยนต์มาหาตน ซึ่งตนบอกว่าไม่ต้องมาเพราะอันตราย วันหลังถึงมาหาก็ได้ แต่ผู้ตายก็ดื้อดึงจะมาหา
นางเครือวัลย์ พิรักษา อายุ 61 ปี แม่ผู้ตายเดินทางมาพร้อมญาติเพื่อติดต่อขอรับศพนายวัชระพงษ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า วันนี้มีงานบุญอยู่ที่หมู่บ้าน มีหมอลำมาแสดง ลูกชายก็เล่นกับเพื่อนอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งเห็นลูกชายครั้งสุดท้ายเวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้นก็ได้รับแจ้งว่าลูกชายโดนรถชนเสียชีวิต อยากให้ตำรวจสอบสวนหาผู้ที่ขับรถชนลูกชายจนเสียชีวิต มาดำเนินคดีตามกฎหมาย