44หน่วยอีสานคุยจัดระเบียบบั้งไฟ ให้เศรษฐกิจควบคู่สืบสวนประเพณี หลังพบมีมากขึ้นทุกปี พุ่งสูง 5-7 กม. เท่าเพดานเครื่องบินโดยสาร นักบินฝนเทียมที่บินในระดับต่ำ เมื่อเห็นต้องใช้วิธีบินหลบ วอนตระหนักมีเครื่องอยู่บนท้องฟ้า จุดบั้งไฟต้องขออนุญาต และปฏิบัติตรงตามขออนุญาต สถานที่-วัน-เวลา-จำนวน-ขนาด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมทุ่งศรีเมือง โรงแรมเซ็นทาราอุดรธานี มีการประชุม “บินปลอดภัย ไร้ความเสี่ยง” ประจำปี 2568 จัดโดยศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี บ.วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จก. โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานฯ มีนายกันภัย สุภางคเสน ผอ.ฝ่ายมาตรฐานและความปลอดภัย , นายพงษ์ชัย มูลรินทร์ ผอ.ฝ่ายบริหารจราจรทางอากาศภูมิภาค , นายถิรพัธน์ บัวขาว ผอ.ฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศบริหาร เขตสนามบินประชิดภูมิภาค พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับกิจการบิน และการจุดบั้งไฟในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณา หารือถึงข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานร่วมกัน พร้อมย้ำขั้นตอนการแจ้งขออนุญาตก่อนจุดบั้งไฟ
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การประชุม “บินปลอดภัยไร้ความเสี่ยง” จัดเป็นประจำทุกปี ซึ่งศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี เป็นเจ้าภาพจัดประชุมหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องด้านการบิน และหน่วยงานปกครองท้องถิ่่นของอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง 44 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันหารือ ทบทวน และปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการบิน โดยยังคงคำนึงถึงวิถีชุมชนของคนอีสาน ซึ่่งช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ ซึ่่งเป็นประเพณีอันดีงามส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่่น และการท่องเที่ยวของภาคอีสาน จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยน และขอความร่วมมือให้มีการแจ้งอนุญาตก่อนการจุดบั้งไฟ เพื่อความปลอดภัยด้านการบินในพื้นที่ภาคอีสาน
นายยงค์ สมอดี ผอ.ศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี กล่าวว่า การประชุม “บินปลอดภัยไร้ความเสี่ยง” เป็นเวทีแลกเปลี่ยนและรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน ของหน่วยงานการบิน และยังเป็นเวทีที่ใช้สื่อสารกับหน่วยงานปกครองท้องถิ่่น ถึงปัจจัยที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการบิน สำหรับศูนย์ควบคุมการบินอุดรธานี มีพื้นที่รับผิดชอบควบคุมจราจรทางอากาศ 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินอุดรธานี สนามบินขอนแก่น สนามบินเลย สนามบินสกลนคร และ สนามบินนครพนม ซึ่งมีจังหวัดที่รับผิดชอบแจ้งอนุญาตในการจุดบั้งไฟ 10 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย สกลนคร มุกดาหาร บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น และมหาสารคาม ปัจจุบันการจุดบั้งไฟมีจำนวนมากขึ้น – ขออนุญาตมากขึ้น – ขึ้นสูงมากกว่าเดิม และอยู่บนอากาศนานกว่าเดิม
นายยงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้จัดงานในการแจ้งขออนุญาตก่อนจุดบั้งไฟ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปจัดทำข่าวประกาศนักบิน สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ในทำแผนการบินและการบินของนักบิน รวมถึงเป็นข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักบิน ในทุกเที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ยังได้รับรายงานพบเห็นบั้งไฟ จากนักบินในความสูงที่ 16,000 – 23,000 ฟุต หรือ ประมาณ 5 – 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นความสูงที่ใช้ในการทำการบินของเครื่่องบินโดยสาร ดังนั้น จึงขอความร่วมมือ ผู้จัดงาน แจ้งขออนุญาตก่อนการจุดบั้งไฟทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยทางการบิน ตลอดจนยังคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามให้ยั่งยืนสืบไป
ในการเสวนาหัวข้อ “จุดบั้งไฟอย่างไร ให้ปลอดภัยจากการบิน” จากผู้แทนวิทยุการบิน , นักบินกรมฝนหลวง , กรมการบินพลเรือน , ตัวแทนระบบการบิน และฝ่ายปกครอง เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ ประเพณีมีมายาวนานมีต่อไป มีข้อที่น่าสนใจ อาทิ 1. ปี 2559 คณะรักษาความสงบฯออกประกาศควบคุมจุดบั้งไฟ จ.อุดรธานี นำประกาศมา “ล้อ” ลงประกาศราชกิจจา มีการกำหนดพื้นที่-วันเวลา-สถานที่-ขนาด-จำนวน-ขออนุญาตนายอำเภอ , 2.มีปัญหาการจุดไม่ตรงกับที่แจ้งทั้งเวลา-ขนาด , 3.ไม่มีการแจ้งขออนุญาต , 4.มีการปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติมาต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีการติดชื่อ-ที่อยู่เจ้าของบั้งไฟ กำลังพิจารณาการแจ้งพิกัดการจุด , 5.นักบินฝนหลวงต้องบินต่ำ มีปัญหากับบั้นไฟทั้งขออนุญาต และไม่ขออนุญาต ต้องเลือกใช้วิธีสังเกตด้วยสาตาและบินหลบ
และ 6.ขอให้สร้างความตระหนักกับประชาชน ว่าบนฟ้ายังมีเครื่องบินบินอยู่ ให้ขออนุญาตจุดบั้งไฟล่วงหน้า และจุดให้ตรงกับการขออนุญาต…
