ผู้ตรวจสุขภาพ 8 ลงพื้นที่ รพ.สต.โนนสูง อ.เมือง อุดรธานี หลังผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย7กลุ่มโรค ลงทะเบียนครบ100% ขณะยอดจังหวัด 1.4 แสน และเร่งเคาะประตูบ้าน ล่าข้อมูลผู้อยากฉีดวัคซีน18ปีขึ้นไป ด้าน ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี เล่าฉีดวัคซีนวิโนแวค 1 เข็ม พิสูจน์เมื่อติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีอาการรุนแรง
เวลา 11.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์. ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 , นพ.ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี , พ.ญ.ฤทัย วรรธณวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี เดินทางตรวจติดตามดูการ จัดการลงทะเบียนจองวัคซีนโควิด-19 ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีนายอดิศักดิ์ ครสวรรค์ นายก ทม.โนนสูง-น้ำคำ นายสังวร เสนวรพันศรี สาธารณสุข อ.เมือง นำคณะดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ และ อสม.
นายสังวร เสนวรพันศรี สาธารณสุข อ.เมือง ชี้แจงว่า รพ.สต.โนนสูง มีพื้นที่รับผิดชอบเฉพาะเขต ทม.โนนสูง-น้ำคำ จำนวน 7 ชุมชน เจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. ได้ร่วมกับ อสม. ลงพื้นที่แบบเคาะประตูบ้าน ในส่วนการลงทะเบียนจองวัคซีนกับ “หมอพร้อม” 2 กลุ่ม คือ สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 1,603 คน และโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค 535 คน เป็นการลงทะเบียนจองวัคซีน 100 % รวม 2,138 คน ขณะนี้กำลัง เก็บข้อมูลความต้องการฉีดวัคซีน ของประชาชนกลุ่มอายุ 18-59 ปี
“ อสม.จะลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน สอบถามข้อมูลและความต้องการ นำข้อมูลกลับมาบันทึกลงโปรแกรม UD HOSPITAL ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลของ จ.อุดรธานี เมื่อหมอพร้อมเปิดให้กลุ่มไหนลงทะเบียนจองวัคซีน ก็จะนำข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ลงทะเบียนในหมอพร้อมให้ทันที ทั้งนี้การเก็บข้อมูลชุดนี้จะแล้วเสร็จพรุ่งนี้ โดยจะต้องแยกกลุ่มบุคคลากรด่านหน้า กำนัน , ผญบ. , อสม. และอื่นๆ เพื่อลงทะเบียนในหมอพร้อมต่อจากผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ”
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์. ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 เปิดเผยว่า ได้มาตรวจเยี่ยมติดตามความพร้อม และการปฏิบัติงานลงทะเบียนจองวัคซีนโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื่อรัง เพราะหากติดเชื้อจะมีอาการที่รุนแรง ขณะที่กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ก็เริ่มมีการรวมรวมข้อมูลเพื่อเตรียมลงทะเบียนจองไว้ โดย สสจ.อุดรธานี ได้ร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน , รพ.สต. และ อสม. ลงพื้นที่ไปแบบเคาะประตูบ้าน เตรียมรวบรวมความต้องการไว้ รวมไปถึง รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมกับ มรภ.อุดรธานี เตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนไว้แล้วด้วย ทั้งหมดดำเนินการไปด้วยดี
พ.ญ.ฤทัย วรรธณวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี กลับมาปฏิบัติหน้าที่หลังจาก เข้ารักษาติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี หายและรับการกักตัวครบแล้ว เปิดเผยว่า ได้รับวัคซีน “ซิโนแวค” เข็มแรก 5 เม.ย.64 และเมื่อ 19 เม.ย.64 มีเสมหะมากตอนตื่นนอน แม้จะเคยมีอาการแพ้อากาศ แต่เพราะอยู่ในสภาวะแวดล้อม เป็นข่าวมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เยอะมากขึ้นในอุดรธานี จึงแวะไปสวอพ PCR ซึ่งก็ตรวจครั้งที่ 2 หรือ 3 มาแล้ว พอตกเย็นมาผลก็ออกมาว่าติดเชื้อ
“ ที่เคยให้ข่าวไปทุกครั้งว่า ถ้าติดเชื้อเรากลัวปอดเราพัง เราจะใช้ชีวิตตอนสูงอายุลำบากมาก ตอนนี้ก้อายุ 59 ปี ปีหน้าก็เกษียณราชการแล้ว พอผลออกมาคณะแพทย์ก็ต่างตกใจ ด้วยอายุเรามาก โอกาสที่โรคจะเล่นงานปอดสูงมาก แต่หมอเองกลับไม่มีอาการ มีเพียงแต่เสมหะเท่านั้น ถ้าวิเคราะห์กลับไปเรารับวัคซีน 5 เม.ย. พบติดเชื้อ 19 เม.ย. ผ่านมาราว 2 สัปดาห์ ก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า ผ่านไป 2 สัปดาห์จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นระดับหนึ่ง ติดเชื้อได้แต่อาการไม่รุนแรง กรณีของเราเองเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ เมื่อตรวจภายหลังพบภูมิคุ้มกันขึ้นสูง ”
พ.ญ.ฤทัย วรรธณวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวอีกว่า ก็พอสรุปได้ว่า วัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่เพียงเข็มแรกก็ทำให้อาการท่านไม่รุนแรง เพราะหมอเองอายุขนาดนี้ น่าจะต้องใช้ท่อช่วยหายใจ แต่กลับไม่มีอาการอะไรเลย ก็ได้กักตัวไปทำงานที่บ้านแทน ก็อยากมาชักชวนให้มาฉีดวัคซีน แต่เข็มแรก 2 อาทิตย์ก็สามารถป้องกันท่านได้แล้ว ท่านจะไม่มีอาการรุนแรง และท่านจะไม่เสียชีวิตจากวิด-19แน่นอน แต่หากท่านมัวแต่เลือกวัคซีน เมื่อท่านติดเชื้อก็จะมีอาการรุนแรง
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่าอุดรธานีมีประชากรราว 1,500,000 คน คาดประชากรอายุ 18 ปีขึ้นไปมี 1,200,000 คน หากฉีดให้ได้ 70 % จะต้องมีผู้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 840,000 คน โดยขณะนี้บุคคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด่านหน้ารัฐเอกชน ของอุดรธานีฉีดวัคซีนไปแล้ว 15,000 คน สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุมี 265,029 คน และ7กลุ่มโรคเรื้อรังมี 119,021 คน รวม 348,804 คน ได้รับสิทธิฉีดวัคซีนในรอบนี้ จนถึงขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนจองวัคซีนไว้ผ่าน “หมอพร้อม” 39,664 คน และผ่านเจ้าหน้าที่ 104,721 คน รวม 144,385 คน (รายงานเย็น 13 พ.ค.เพิ่มเป็น 223,998) โดยยังไม่รวมที่จองไว้กับโปรแกรม UD HOSPITAL …