วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมบิ๊กโจ๊กแถลงจับแก๊งเงินกู้เหิมคงปืนยิงขู่ชาวบ้านผวา

บิ๊กโจ๊กแถลงจับแก๊งเงินกู้เหิมคงปืนยิงขู่ชาวบ้านผวา

จากรณีแก๊งเงินกู้ควงปืนบุกยิงขู่บ้านลูกหนี้ หลังจากทะเลาะวิวาทกับลูกชายลูกหนี้วัย 16 ปี โดยไม่สนเสียงขอร้องและอ้อนวอนของเพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในพื้นที่ บ.หนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ต่อมาตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งเงินกู้ทั้งหมด 6 คน พร้อมของกลางอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ช่วงหัวค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ภ.4 ตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันสอบปากคำและแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งเงินกู้เหิม ประกอบด้วย นายชาญชัย หรือชาญ เววิชัยโก อายุ 23 ปี นายธนาวุฒิ หรือจ๊อบ สุขมานพ อายุ 23 ปี นายบรรพต หรือบิ๊ก แสนโคตร อายุ 22 ปี นายธนพล หรือทัช บุราโส อายุ 23 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายวสันต์ หรือโอ เมฆประทีป อายุ 24 ปี และนายวรพล หรือไอซ์ คล้ายนุช อายุ 19 ปี ชาว อ.เมือง จ.พิจิตร

พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น (แบ้งค์กัน) แบบออโตเมติก ลำกล้องขนาด 9 มม.โอโตเมติก 1 กระบอก แม๊กกาซีน 1 อัน เครื่องกระสุนแบ้งค์กัน 5 นัด กล่องใส่อาวุธปืน 1 กล่อง มีดพกสั้น 1 เล่ม มีดดาบยาว 75 เซนติเมตร 1 เล่ม ไม้คมแฝกยาว 60 เซนติเมตร 1 ท่อน และเสื้อผ้าที่สวมใส่ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถเก๋งสีขาว 1 คัน ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุและหลบหนี

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ซ่องโจร ,ร่วมกันประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด , ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของผู้ถูกขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันบุกรุกโดยมีอาวุธ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยมีอาวุธ,ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็น,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” รวมทั้งสิ้น 7 ข้อกล่าวหา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และท่าน ผบ.ตร.ได้เห็นคลิปที่เกิดขึ้นแล้ว จึงได้สั่งการให้ตนลงมาช่วยเหลือ และแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ในคดีนี้เราสามารถยึดบัญชีของลูกหนี้ทั้งหมด 22 ราย วงเงินที่ให้กู้ประมาณแสนกว่าบาท เป็นการเก็บเงินกู้รายวันที่เรียกว่าดอกเบี้ยลอย ร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งโหดมาก เมื่อ 2 ปีก่อนก็ได้ลงพื้นที่อีสาน เข้าจับกุมนายทุนเงินกู้มาแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนเดินร้อนเป็นจำนวนมาก ฝากว่าการปล่อยเงินกู้ให้ปล่อยตามที่กฎหมายกำหนดก็คือร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ฉ้อฉลกลโกง ถ้าท่านที่มีพฤติกรรมแบบนี้แล้วยังไม่เลิก ผมเองในฐานรองผู้บัญชาการปราบปรามหนี้นอกระบบ จะเข้าดำเนินการปราบปราม และดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

”ฝากเตือนอีกครั้งว่า การเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนจนไม่มีที่ยืน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีเรือกสวนไร่นาอยู่ เตือนไว้ก่อน ขอให้เลิกพฤติกรรมนี้ ส่วนการทวงเงินทวงหนี้โดยใช้กำลัง ให้รู้ไว้ว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแส ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ วันนี้เราเชื่อว่าน่าจะมีนายทุนมากกว่านี้ เชื่อว่ามีนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไป หากพบว่ามีนายทุนจริง เราก็จะดำเนินคดีกับนายทุนด้วย ประมาณ 1 สัปดาห์ น่าจะได้ทราบกัน ส่วนเรื่องนามบัตรนายทุนเงินกู้ที่แจกตามหน้าบ้านเรือนประชาชน หรือใบปลิวที่ติดตามสถานที่ต่างๆ เรื่องนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศแล้วให้ตรวจสอบที่มาของนามบัตรเหล่านี้ ให้สแกนทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน”

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยต่อว่า ฝากถึงกลุ่มที่แจกนามบัตรหรือใบปลิวเงินกู้ ผมจะตรวจสอบให้หมด หากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน รวมไปถึงกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการโฆษณาปล่อยกู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ตรงนี้เราก็จะเข้าตรวจสอบเช่นกัน เบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกค่ายแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ในส่วนไหนที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเราจะเข้าตรวจสอบให้ทั้งหมด หลังจากนี้จะลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชน และย้ำให้รับทราบว่า จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ทั้งสองฝ่ายภายใต้กฎหมายเดียวกัน

นางนุชฯและหลานสาวคนถ่ายคลิปเปิดเผยว่า รู้สึกโล่งใจมีความปลอดภัยมากขึ้น หลังทราบข่าวว่าตำรวจจับตัวแก๊งเงินกู้ได้ทั้งหมด ทำให้นอนหลับสบาย เพราะนอนไม่หลับมา 2 คืนแล้ว จากนี้ต่อไปคงจะไม่ขอกู้เงินอีกแล้ว เพราะเข็ดหลาบ ส่วนหนี้ที่ยังใช้ไม่หมด ต้องรอให้เรื่องจบก่อนจะค่อยคุยกันกับคู่กรณีอีกที ในส่วนของลูกชายที่ไปทำร้ายอีกฝ่าย ตามที่ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนก็ไม่ยอมรับว่าลูกชายไปทำร้ายก่อน แต่เป็นการร่วมกันทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน และขอบคุณตำรวจที่จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วและให้ความเป็นธรรมในเรื่องคดีความเป็นอย่างดี และรู้สึกอบอุ่นใจที่ตำรวจเดินทางมาให้กำลังใจถึงบ้าน และสัญญาว่าจะดูแลประชนเป็นอย่างดีด้วย

หลานสาวนางนุช อายุ 24 ปี คนถ่ายคลิป เล่าว่า ตนได้อัดคลิปไว้ตลอดเวลา ขณะที่กแก๊งเงินกู้บุกเข้ามาในหมู่บ้าน ตนก็กลัวเค้าจะยิงไปทั่วหมู่บ้าน เพราะกลัวจะไปโดนเด็กคนแก่ จึงอัดคลิปไว้ ซึ่งตนก็กลัวว่าจะไปทำร้ายน้องคู่กรณีที่มีเรื่องชกต่อยกัน ร้อมกับเข้าไปห้าม 2-3ครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ซ้ำยังถามหาคนนั้นคนนี้อยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา 10 ปี สาเหตุเกิดมาจากวัยรุ่นแก๊งเงินกู้ 2 คน มาเก็บเงิน แล้วเกิดที่ปากเสียงและท้าทายกันเรื่องศักดิ์ศรีกันกับน้องชายของตน และเคยเห็นแก๊งเงินกู้กลุ่มนี้มาเก็บเงินตามหมู่บ้านบ้างแต่ก็ไม่บ่อยครั้ง

ชาวบ้านหญิงแม่ลูกอ่อน อายุ 17 ปี เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังพาลูกสาว อายุ 2 เดือน ใส่รถเข็นอยู่หน้าบ้าน จากนั้นมีแก๊งเงินกู้ขี่รถจักรยานยนต์และรถเก๋งมาจอด คนในรถเก๋งนำเอาปืนออกมายิง เพราะคิดว่าเรื่องจะจบไปกันแล้ว แต่มันก็ไม่จบ เพราะแก๊งเงินกู้ยังกลับมาทางหน้าปากซอย แล้วก็ยิงปืนลงพื้นมาทางหน้าปากซอย ตนเห็นท่าไม่ดีจึงอุ้มลูกวิ่งเข้าไปในบ้าน แก๊งเงินกู้ยังเดินตามมาในบ้าน แล้วถามหาคู่กรณีที่มีเรื่องกันก่อนหน้านี้ แล้วพวกนั้นก็ยกปืนขึ้นมาหันปากกระบอกปืนเข้ามาหาตน โดยตนก็เลยเอาลูกสาวเข้าไปซุกไว้ในตู้เสื้อผ้า เพราะกลัวจะได้รับอันตราย เพราะแก๊งเงินกู้ท่าทางจะโมโหจนเหมือนคนเสียสติแล้วยิงปืนไปทั่ว

ด้านแฟนสาวนายชาญ 1 ในหัวโจกแก๊งเงินกู้ที่ยิงปืน เปิดเผยว่า คบกันมาประมาณ 2 ปี ตนมีอาชีพค้าขายผลไม้กับแฟนอยู่ที่ตลาดแม่ยุพิน และไม่เคยรู้ว่าแฟนอยู่กับแก๊งเงินกู้ พวกเขาน่าจะรู้จักกันเฟชบุ๊ก วันที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็มีโทรหากันบ้าง เขาก็บอกว่ากำลังจะกลับบ้าน และก็กลับบ้านมาตามปกติ พอเห็นคลิปแล้วก็รู้สึกตกใจ เรื่องที่เกิดขึ้นสอบถามแฟนแล้ว เขาบอกว่าถ้าคู่กรณีไม่มารุมทำร้ายรุ่นน้องในกลุ่มจนเลือดออกเต็มหน้าก่อน เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด ไม่เคยรู้ว่าแฟนมีอาวุธปืน อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้เดินทางมากับแม่ของตนเอง และแม่ของแฟน เพื่อมาดูสถานการณ์ก่อนว่าจะหาทางช่วยเหลือแฟนต่อไปอย่างไรได้บ้าง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments