สุดจะทน !!! ชาวบ้านที่ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โวยหนุ่มตุ้งติ้งเพื่อนบ้าน เปิดบทสวดมนต์ต่อด้วยเพลงลูกทุ่งหมอลำ ผ่านลำโพงที่วางไว้หน้าบ้าน หันหน้าออกนอกบ้าน ตั้งแต่เช้ามืดยืนดึก เดือดร้อนรำคาญมานานกว่า 4 ปี พูดคุยเจรจาแล้วก็ถูกด่ากลับ แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งตำรวจหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล ยังคงเปิดลำโพงเสียงดังไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น จนกระทั่งมีการทะเลาะกันขว้างปาขวดใส่บ้านคนอื่น ชาวบ้านทนไม่ไหวถึงขั้นปาอุจจาระใส่บ้าน มิหนำซ้ำยังควงดาบไล่ฟันเพื่อนบ้าน อ้างฝันว่าถูกเพื่อนบ้านทำร้าย จึงต้องการฆ่าให้ตาย ชาวบ้านเผยซ้ำตั้งตนเป็นร่างทรง ดูดวง แก้กรรม ทำคุณไสย ทุกวันพุธ ที่สุดแล้วทนแรงกดดันไม่ไหวหนีออกจากบ้านไปแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่อุ่นใจ หวั่นกลับมาสร้างปัญหาอีก วอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขให้เด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ช่วงเย็นของวันที่ 13 มกราคม 2566 นายพงษ์เทพ สิทธิพรหม ผญบ.บ้านเชียง ม.2 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นำชาวบ้านให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว และพาไปตรวจสอบที่บ้านปูนชั้นเดียวหลังหนึ่ง ภายในซอยพ่อคำพันธุ์ 1 ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน ห่างจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง ประมาณ 2 กม. โดยพบว่าที่บ้านปิดเงียบเหลือเพียงหลานชายเฝ้าบ้านอยู่คนเดียว และมีสุนัขอีกประมาณ 3 ตัว อยู่ในรั้วบ้าน ส่วนนายอ๊อด อายุ 49 ปี ผู้ที่ชาวบ้านร้องเรียนออกจากบ้านไปแล้ว ทราบว่าเข้ามาพักอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี และไม่สามารถติดต่อได้
ชาวบ้านร่วมกันให้ข้อมูลว่า นายอ๊อดมีนิสัยตุ้งติ้ง มีบ้านอยู่ริมอ่างเก็บน้ำบ้านเชียง เมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน เคยเข้ามาทำงานบาร์เกย์อยู่ในตัวเมืองอุดรธานี หลังจากนั้นกลับมาเปิดร้านคาราโอเกะที่บ้านตัวเอง ทำได้ไม่นานก็ปิดตัวลง เนื่องจากบ้านหลุดจำนองถูกยึดไป ก่อนมาอาศัยบ้านหลังนี้ที่เป็นบ้านของน้องสาว ปี 2540 เริ่มอ้างตัวเป็นร่างทรงของปู่ขุนเชียงสวัสดิ์ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นสิ่งศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านบ้านเชียงเคารพนับถืออย่างมาก แต่ก็เริ่มมีคนหลงเชื่อมาเป็นลูกศิษย์ จนถึงปี 2543 ก็เริ่มมีลูกศิษย์ลดลง
นายอ๊อดจะทำพิธีทุกวันพุธ เริ่มมีปัญหาเปิดเพลงเสียงดังเมื่อปี 2562 ช่วงที่โควิด-19 ระบาดรอบแรก ตอนนั้นยังเป็นลำโพงที่เล็กกว่านี้ ก็ยังพอทนได้ แต่มาเดือดร้อนอย่างหนักเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เมื่อนายอ้อดเปลี่ยนเป็นลำโพงขนาดใหญ่ขึ้นและมีเสียงดังมาก จนมีเรื่องกันชาวบ้านบางส่วนทนไม่ไหวถึงกับต้องปาอุจจาระใส่บ้าน ก่อนที่จะมีเรื่องทะเลาะกันถึงขั้นขว้างขวดใส่กัน และนายอ๊อดเคยถือดาบไปบุกรุกบ้านคนอื่น ข่มขู่ที่จะทำร้ายจนถึงชีวิต ชาวบ้านรอบข้างต้องเดือดร้อนจากการเปิดเพลงเสียงดัง บางวันหลังจากทำพิธีร่างทรงเสร็จก็จะกินเหล้า สังสรรค์ กับกลุ่มเพื่อน ชาวบ้าน เด็กเล็ก เด็กนักเรียน ถึงขนาดทำการบ้านไม่ได้ รวมถึงบ้านที่อยู่ติดกันด้านหน้า มีหญิงชราป่วยติดเตียง ต้องทนฟังมานาน ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ
ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ในตอนนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก นายอ๊อด ได้เปิดเพลงเสียงดัง เอาแต่ความสุขของตนเองไม่สนใจคนอื่นว่าเขาเป็นเช่นไรบ้าง ซึ่งได้ร้องเรียนมาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้ โดยจะหันลำโพงออกมาหน้าบ้าน ส่วนนายอ๊อด จะไปอยู่หลังบ้าน หากเป็นการเปิดเพลงเพื่อความสนุกของตนเอง ควรเปิดเพลงเบากว่านี้ หรือเปิดอยู่ข้างในบ้าน ที่ผ่านมาหลายครั้งได้ลงพื้นที่เข้าไปดู พร้อมขอร้องนายอ๊อด หลายครั้ง ให้เปิดเพลงเบากว่านี้ด้วย แต่นายอ๊อด อ้างว่าตนเองรู้กฎหมาย มันเป็นความสุขของตนเอง ถึงเวลาจะปิดเอง เพราะการเปิดเพลงมันไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเลย แต่เขาจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ถึง 3 ทุ่ม
“ เคยประสานไปยังตำรวจ แต่ทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือน แต่เขาก็ยังทำเหมือนเดิม แม้แต่ปลัดอำเภอ ลงพื้นที่มาดู แต่นายอ๊อด ก็หนีออกจากบ้าน สักพักก็กลับมาบ้าน ยังทำเหมือนเดิม ทำการเปิดเพลงเสียงดัง เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมา ได้2-3 ปี แล้ว หนักสุดก็คือทุกวันพุธ นายอ๊อด จะทำพิธีว่าตนเองร่างทรง จนชาวบ้านทนไม่ไหว ถึงขั้นมีการโยนขวดใส่บ้านกัน ระหว่างบ้านนายอ๊อดกับเพื่อนบ้าน “
ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยอีกว่า เมื่อวานนี้นายอำเภอหนองหาน ได้มาให้การช่วยเหลือบ้านของลูกบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่าได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากนายอ๊อด เปิดเพลงเสียงดัง จึงได้เดินไปเพื่อสอบถาม แต่ได้นายอ๊อด เดิน ออกมาในมือถือจอบ มาร้องตะโกนต่อว่า นายอำเภอ แต่เขาไม่รู้ว่า เป็นนายอำเภอหนองหาน ซึ่งนายอำเภอหนองหาน จะหาวิธีทาง ในการ ออมชอมกันในเรื่องนี้ ในการช่วยเหลือแก้ปัญหาในเรื่อง ล่าสุดเมื่อเช้าตนกับกำนันเข้าไปคุยกับนายอ๊อด ก็ไม่เป็นผล ซึ่งช่วงเย็น นายอ๊อด ให้หลานชายขี่รถจักรยานยนต์ ไปส่งขึ้นรถโดยสาร เดินทางเข้ามาตัวเมืองอุดรธานี
นายสุพัฒน์ บัวฮมบุรา อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนเองได้รับผลกระทบ ที่นายอ๊อดเปิดแพลงเสียงดัง ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน เพราะที่บ้านมีคนป่วยติดเตียง ไม่ได้พักผ่อน ต้องทนเป็นแบบนี้ อยู่ประมาณ 2 ปี แล้ว เคยไปพูดคุยขอร้องนายอ๊อด แต่เขาบอกว่า เปิดเพลงอยู่บ้านของตนเอง ค่าไฟฟ้าก็จ่ายเอง แถมด่าต่อว่าตน เคยแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยแก้ปัญหา แต่ก็ไม่เป็นผล ใครจะเดือดร้อนก็ไม่สน หากจะย้ายบ้านหนีก็ทำไม่ได้ เนื่องจากพวกตนอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด ตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ตั้งแต่ตัวเขาเองยังไม่เกิด
“ บ้านที่นายอ๊อดอยู่เป็นของน้องสาว ให้ลูกชายอยู่ แต่หลานก็ทนอยู่กับนายอ๊อด ไม่ได้เพราะเปิดเพลงเสียงดัง ต้องไปอยู่บ้านเพื่อน หากนายอ๊อดไม่อยู่บ้าน จึงถึงกลับมานอนบ้านตนเอง การที่นายอ๊อด ทำเช่นนี้ เพื่อต้องการให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน เขาเคยพูดว่า ต้องการให้พวกนี่เป็นบ้าเป็นประสาทตาย หากเป็นคนป่วยก็ให้ตายไปเลย หากวันไหนมีการดื่มเหล้า ยิ่งเสียงดังจนดึก ไม่ได้หลับนอนกันเลย ทำให้ชาวบ้านสุดที่จะทนแล้ว ยายไพร อายุ 75 ปี ญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยอยู่นั้น บางครั้งถึงกับร้องไห้ออกมาให้เห็น เพราะทรมานมากกับเสียงเพลงดังไม่ได้พักผ่อน “
นางหน่อย ศรีมุกดา อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ที่ผ่านมานายอ๊อดเคยเอามีดดาบลงอาคมคล้ายกับมีดหมอมาขู่ฆ่าทำร้าย อยู่บริเวณหน้าบ้านบ้าง หลังบ้านบ้าง รวมทั้งหมด 6 ครั้ง ตนและหลานต้องหลบเข้าไปอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย ที่นายอ๊อดทำอย่างนั้นกับตน โดยนายอ๊อดอ้างว่าในความฝันตนเองไปตีไปทำร้ายเขา พอตื่นเช้าขึ้นมานายอ๊อดก็นำมีดดาบมาขู่ฆ่าขู่ทำร้ายทุกครั้ง ตนคิดว่านายอ๊อดคงมีอากรทางจิตประสาท หรือเป็นบ้าแน่นอน แต่ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุที่แน่ชัด และไม่กล้าไปกล่าวหาว่าเกิดจากยาเสพติด เพราะไม่มีหลักฐาน
“ ครั้งล่าสุดตนเองก็จำไม่ได้ว่าวันไหน ขณะตนยืนอยู่หน้าบ้าน น้องสาวนั่งอยู่หน้าบ้านตะโกนร้องบอกว่า นายอ๊อดถือมีดดาบมาอีกแล้ว ตนก็วิ่งเข้าไปหลบในบ้าน ส่วนนายอ๊อดเมื่อเห็นน้องสาวและชาวบ้านที่เป็นผู้ชายร้องขู่ก็ตกใจ และถือมีดดาบวิ่งกลับบ้านของตัวเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ตนเองและชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กับนายอ๊อด ก็ต้องเข้าบ้านปิดตั้งแต่หัวค่ำ เพราะเกรงกลัวได้รับอันตราย เพราะที่ผ่านมาตนอยู่กับหลานสาว แต่พักหลังลูกชายมาอยู่ด้วยเพราะเป็นห่วง และรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นในช่วงนี้ แต่ก็ยังหวาดระแวงอยู่ไม่หาย “