จากกรณีมีคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ก่อเหตุหลอกเหมารถกระบะของคุณตาวัย 84 ปี จากพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้ไปส่งบ้านที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก่อนล่อลวงไปในที่เปลี่ยวแล้วชักอาวุธปืนออกมาจี้ชิงรถไป ล่าสุดตำรวจ สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี สามารถจับกุมคนร้ายขณะกำลังขับรถเก๋งที่เพิ่งไปก่อเหตุลักมาจากพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก เบื้องต้นสารภาพเสียงอ่อย ยอมรับก่อเหตุจริง ออกจากคุกมาไม่มีงานทำ ก่อเหตุชิงทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ไปเรื่อยๆ น้ำมันรถหมดหรือรถพัง ก็จะเปลี่ยนเป้าหมาย ล่าสุดไปเที่ยวคาราโอเกะ ก่อนเชิดค่าอาหารและรถหลบหนีมาจนมุม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ที่ชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้ควบคุมตัวนายนฤเบศร์ คำควร หรือบี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 257 หมู่ 3 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี พร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กม 2186 อุดรธานี และอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก หลังจากเข้าจับกุมตัวได้ขณะขับรถอยู่ใกล้กับ ทต.กุมภวาปี หลังจากมีข้อมูลว่าคนร้ายได้ก่อเหตุขโมยรถเก๋งจาก จ.สกลนคร แล้วหลบหนีเข้ามาในพื้นที่
ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี หลังจากได้รับข้อมูลของคนร้าย ได้ออกสืบสวนในพื้นที่จนเห็นรถเป้าหมายตั้งแต่ช่วงเช้า แต่คนร้ายได้ขับรถวนไปวนมาไม่อยู่เป็นเป้านิ่ง กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. คนร้ายได้จอดรถนิ่งอยู่ข้าง ทต.กุมภวาปี ตำรวจสายตรวจจึงได้เข้าไปสอบถาม คนร้ายมีท่าทางจะขับรถพุ่งชนและหลบหนี ตำรวจชุดสืบสวนจึงรีบเข้าสนับสนุน ชักปืนออกมาขู่คนร้าย เมื่อคนร้ายเห็นจึงยอมให้จับกุมในที่สุด โดยมีคลิปขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวเป็นหลักฐาน
นายนฤเบศร์ หรือบี สารภาพว่า ก่อเหตุลักรถและจี้ชิงรถของผู้อื่นจริง เคยถูกจำคุกในข้อหาเสพยาเสพติดและฉ้อโกง (ลักรถจักรยานยนต์) 1 ปี 1 เดือน และพ้นโทษเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 ออกมาแล้วก็ไม่มีงานทำ กลับไปอยู่บ้านแม่ได้ประมาณ 2 เดือน ตนเกิดความเบื่อจึงขอยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อน (ฮอนด้าเวฟ สี แดงดำ) อ้างว่าจะไปซื้อของ ตนก็ขับไปเรื่อยไม่มีเป้าหมาย พอมาถึง บ.หนองลาด ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน นึกขึ้นได้ว่าเคยมาเล่นแถวนี้ และได้แวะคุยชายคนหนึ่งอายุประมาณ 40 กว่า ที่เถียงนาที่ขับผ่านไป
“ตอนนั้นก็ชวนพูดคุยกันไปเรื่อย ตนอยากได้ไว้ป้องกันตัว จึงถามว่าเขามีหรือไม่จะขอซื้อ เพราะเวลาไปไหนมาไหนจะได้เอาไว้ขู่วัยรุ่นที่อาจจะมีเรื่องในอนาคต ชายคนนั้นก็ไปเอาปืนมาให้ดูเป็นปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ตนจึงตกลงซื้อในราคา 2,500 บาท แล้วออกอุบายว่าจะขอยืมรถจักรยานยนต์ (ฮอนด้าเวฟ สีแดง) ของเขาขับมากดเงินที่ตู้ ATM ให้โดยเอารถคันที่ยืมเพื่อนมาเป็นประกัน จากนั้นตนก็ขับมาเมืองอุดรธานี”
นายนฤเบศร์ หรือบี สารภาพอีกว่า ตนขับมาถึง ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี มาถึงร้านขายรถจักรยานยนต์มือสอง ตนจึงออกอุบายว่าอยากได้รถแต่ง 2 จังหวะ (ฮอนด้าแดช สีเขียว) ตนอยากซื้อแต่ขอลองขับก่อน ตนจึงขับมาถึง บ.หนองนาคำ รถจึงน้ำมันหมด ตนจึงเดินตามทาง จนมาเจอกับร้านขายส้มตำ ปิ้งไก่ จึงขอซื้อปิ้งไก่ 2 ไม้ และข้าวเหนียว กินประทังความหิว ก่อนออกอุบายเหมารถกระบะของคุณตาเจ้าของร้าน (นายสมชาย โพธิรักษ์ อายุ 84 ปี ชาว ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี) ให้ไปส่งที่ อ.หนองหาน แล้วจึงใช้ปืนจี้ชิงรถ ตนแค่ข่มขู่เท่านั้น ตนไม่ลูกปืน ไม่ได้คิดจะยิงคุณตาเลย
“หลังจากนั้นตนก็ขับวนกลับไปทาง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จนถึง บ.หนองลาด อีกครั้ง ตอนนั้นยางล้อหน้าด้านซ้ายของรถกระบะแตก ตนจึงไปจอดที่เถียงนาแห่งหนึ่ง แล้วออกอุบายยืมรถของชาวบ้าน (ฮอนด้าดรีม สีฟ้า) ไปตามช่างมาปะยางรถ ตนก็ขับไปเรื่อยๆ อีกครั้ง จนไปถึง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ประมาณ 16.00 น. วานนี้ ตนหิวข้าวจึงแวะที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง สั่งเหล้าสั่งอาหารมากิน เมื่ออิ่มแล้วจึงออกอุบายให้เด็กเสิร์ฟหญิงขับรถเก๋งพาไปกดเงิน ตนก็ทำท่ากด แล้วกลับมาที่ร้าน เมื่อหญิงเจ้าของรถเผลอ ก็ได้หยิบกุญแจรถขับออกมาทันที ออกมาประมาณ 17.00 น. ตนขับตามทางมาโดยไม่มีจุดหมาย จนมาถึง อ.กุมภวาปี และถูกจับกุมได้ในที่สุด”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถขณะเสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่อื่น ต้องรอให้ตำรวจในท้องที่นั้นๆ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป (รถจักรยานยนต์ 4 คัน รถยนต์กระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน)
ต่อมา ร.ต.อ.ศักดิ์ สัพโส รอง สว.สืบสวน สภ.สว่างแดนดิน ญาติของ น.ส.ดวงพร สารสิทธิ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เจ้าของรถเก๋ง ได้เดินทางมาที่ สภ.กุมภวาปี เพื่อมาติดตามคดีและติดต่อขอรับรถเก๋งกลับคืน ก่อนเล่าว่า น.ส.ดวงพรฯ ให้ข้อมูลว่า นายบีได้ทำทีขับรถจักรยานยนต์มาที่ร้านน้องตาคาราโอเกะ ในเขต ทต.สว่างแดนดิน เขาอ้างว่าชื่อบอย อยู่บ้านบ่งเหนือ สั่งเหล้า 1 กลม และอาหารหลายอย่างเต็มโต๊ะ เช็คบิลออกมาทั้งหมด 2,800 บาท เขาหลอกให้ น.ส.ดวงพรฯ ขับรถเก๋งพาไปกดเงินมาจ่าย เมื่อทำทีกดเงินแล้วก็กลับมาที่ร้าน พอเผลอเขาก็หยิบเอากุญแจรถและขับหลบหนี น.ส.ดวงพรฯ จึงโทรบอกตน ตนจึงพาไปแจ้งความไว้ โชคดีมากที่ตามจับได้ทันควัน และรถก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด