เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2565 ขณะที่ ร.ต.อ. แทน นุ่มเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักมี น.ส.อรพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว จ.อุดรธานี ผู้เสียหาย นำกล่องพัสดุ ภายในมีหูฟังโทรศัพท์แบบไร้สาย 1 ชุด เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังถูกมิจฉาชีพเป็นผู้ชายมาส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ระบุชื่อที่อยู่ของตนมาส่งที่บ้าน แต่ตนเองไม่อยู่บ้าน คุณตาจึงรับไว้ พร้อมกับจ่ายเงินไป 1,650 บาท แต่ราคาหูฟังที่มิจฉาชีพส่งมาราคาหลักร้อย โดยไม่มีใครในบ้านสั่งสินค้าชิ้นนี้เลย
น.ส.อรพรรณฯ เล่าว่า เมื่อวานมีพนักงานมาส่งพัสดุที่บ้าน ตนไปโรงเรียนและคนอื่นในบ้านก็ไปทำงานกันหมด มีเพียงคุณตาอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งคุณตาคิดว่าตนเป็นคนสั่ง และไม่ได้โทรมาสอบถามตน คุณตาจึงรับไว้และจ่ายเงินไป จำนวน 1,650บาท เพราะคุณตาเห็นว่าตนเองเคยสั่งซื้อของบ่อย ส่วนใหญ่ตนจะสั่งพวกเสื้อผ้า และไม่เคยมีแบบเก็บเงินหลายทางด้วย เมื่อตนกลับมาถึงบ้าน แม่และคุณตาก็นำกล่องพัสดุมาให้ จึงแกะกล่องมาดู ถึงกับตะลึงเมื่อเจอของที่ส่งมา เป็นหูฟังไร้สาย 1 ชุด และกระดาษ ชื่อร้าน MMI เบอร์โทรติดต่อ และ กระดาษมีข้อความ คุณคือผู้โชคดีได้รับทอง 0.1 กรัม ให้ติดต่อกลับ เบอร์ 020266484
”โดยตนก็ได้โทรไปหา แต่เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ ซึ่งตนตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าไม่ได้สั่งสินค้าประเภทนี้ จึงคิดในใจว่าโดนเข้าแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีส่งมาแบบนี้ แต่ยอดเงินประมาณ 100 บาท เป็นผ้าขนหนู แต่ไม่ได้มาแจ้งความ เพราะเห็นราคาไม่สูง กระทั่งมาครั้งนี้เป็นเงินจำนวน 1,650 บาท และเป็นเงินของคุณตาด้วย จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และฝากเตือนผู้ที่ชอบสั่งซื้อของออนไลน์ บางทีข้อมูลในแอปก็ไม่ปลอดภัย อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ และส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สั่งของออนไลน์ เพราะลงข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ในส่วนมีคนสูงวัย หรือคุณตาคุณยายที่อยู่บ้าน หากมีพัสดุส่งมาเป็นชื่อของคนในบ้าน หรือชื่อตัวเอง ก็ให้ตรวจสอบกับคนใกล้ตัวว่าได้สั่งพัสดุมาจริงหรือไม่ จะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้”