เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กันยายน ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมนายเฉลิมพล เมืองสูง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 2 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาลักถังแก๊ส ร้านกะเพราซาวบาท เวลา 02.03 น.วันที่ 8 กันยายน 2565 มีภาพวงจรปิดภายในร้านเป็นหลักฐาน โดยจับได้บนโรงพักเมืองอุดรธานี ขณะมาถอนแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ควบคุมตัวไปสอบสวน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 กันยายน 2565 ร.ต.อ.พชร รัตนวิชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก น.ส.รวีกานต์ เลิศนาวีพร อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน อาหารตามสั่ง “กะเพราซาวบาท” เลขที่ 18/6 ชุมชนเก่าจาน 1 ซอยประชาสันติ 5 ชุมชนเก่าจาน 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างร้าน เดินมาเปิดสแลนที่ปิดหน้าร้าน คนร้ายถอดรองเท้าย่องเข้ามาลักถังแก๊สน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป และยังทำรองเท้าฟองน้ำสีดำ 1 ข้างตกไว้หน้าร้านให้ดูต่างหน้า จากการสืบสวนตำรวจทราบว่าคนร้ายที่เข้าไปลักถังแก๊สคือนายเฉลิมพล ซึ่งมาแจ้งความโทรศัพท์หาย จึงไปติดตามตัวแต่ไม่อยู่บ้าน
กระทั่งเช้าวันนี้พบนายเฉลิมพล เดินทางมา สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อมาถอนแจ้งความคดี โดนลักบัตรเอทีเอ็มไปกดเอาเงินผู้สูงอายุ ซึ่งคนลักได้นำบัตรเอทีเอ็มมาคืน และยินยอมจ่ายเงินชดใช้จนเงินครบ จึงมาถอนแจ้งความ หลังจากดำเนินการถอนแจ้งความเสร็จแล้ว ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี จึงได้เข้าจับกุมควบคุมตัว พร้อมกับเปิดหลักฐาน ภาพกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุให้นายเฉลิมพลดู จนยอมรับว่าคนร้ายที่ลักถังแก๊สคือตน ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน
นายเฉลิมพล ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป สาเหตุที่ไปลักถังแก๊ส เพราะจะเอาไปขายเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ เพื่อสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แอพเป๋าตัง โครงการคนละครึ่ง สาเหตุที่ถอดรองเท้าเข้าไปลักถังแก๊ส เพราะกลัวว่าจะทำร้านเขาเปื้อนดินโคลน และทิ้งรองเท้าไว้ 1 ข้างเพราะว่าเจ็บเท้าจึงทอดทิ้งไว้ เมื่อลักถังแก๊สได้แล้ว ก็นำไปขายให้คนรู้จักได้เงิน 700 บาท แต่ยังไม่ได้นำไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ และวันนี้ขึ้นโรงพักในฐานะผู้เสียหายมาถอนแจ้งความเรื่องลักบัตรเอทีเอ็ม เลยถูกตำรวจจับ “ฝากขอโทษเจ้าของร้านด้วย จะไม่ทำอีกแล้ว เพราะอารมณ์ชั่ววูบ” ไม่คิดว่าตำรวจจะรู้ว่าเป็นคนขโมยถังแก๊ส จึงมาถอนแจ้งความ แต่ต้องจำนนนด้วยภาพวงจรปิด
ส่วน น.ส.รวีกานต์ เลิศนาวีพร อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน อาหารตามสั่ง “กะเพราซาวบาท” เล่าว่า ตำรวจได้นำถังแก๊สมาคืนที่ร้าน เพราะเกรงว่าจะไม่มีแก๊สใช้ทำอาหาร อยากขอบคุณตำรวจที่ติดตามคนร้ายและได้ถังแก๊สคืน เพราะยังคิดว่าจะหาเงินที่ไหนไปซื้อถังแก๊ส และฝากบอกคนร้ายว่า หากพ้นโทษออกมา ให้กลับตัวเป็นคนดี ทำมาหากินโดยสุจริต และหากไม่มีข้าวกิน ให้แวะมากินข้าวที่ร้านได้