จากกรณีรถปิกอัพมิตซูบิชิ สตาร์ด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ทะเบียน กจ.4969 หนองคาย พุ่งชนท้ายรถเก๋งฮอนด้า บริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 1486 อุดรธานี ที่สี่แยกบ้านหนองแซง ถนนอุดรธานี – หนองบัวลำภู ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ รถปิกอัพหลบหนี ก่อนนำศพหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 50-55 ปี ที่โดยสารมาด้วยกัน ไปทิ้งไว้กลางถนนในหมู่บ้านนิคม 3 หมู่ 9 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี แล้วหลบหนีไปเหตุเกิด เวลา 16.50 น. วันที่ 11 มีนาคม 2567 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 12 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิเชฐ พรมสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ เดินทางไปสี่แยกวัดป่าหนองแซง ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ เพื่อตรวจหากล้องวงจรปิดและสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จากนั้นเดินทางไปจุดทิ้งศพกลางถนนบ้านนิคม 3 หมู่ 9 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 4-5 กม. ที่ชาวบ้านประสบเหตุระบุ คนขับทิ้งผู้ตาย แล้วหลบหนีไปทาง อ.กุดจับ โดยมีภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ ของพลเมืองดีที่ขับตามรถปิกอัพมา บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ และนำมาให้ตำรวจเป็นหลักฐาน
ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่พยานพบเห็นรถคันก่อเหตุ พบว่าได้หลบหนีไปทาง อ.กุดจับ บ้านผือ ท่าบ่อ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีเป็นระยะ และจากการตรวจสอบทะเบียนรถ ทราบชื่อผู้ครอบครองรถ เป็นผู้หญิงมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงได้ประสาน ไปยัง พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ เข้าตรวจสอบบุคคลดังกล่าว จนทราบว่าผู้ขับรถคันดังกล่าวไปชนรถเก๋งคือนายสุรชาติ ผิวเหลือง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 3 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และหลบซ่อนตัวอยู่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไปโรงพักท่าบ่อ เพื่อรอตำรวจ สภ.หนองวัวซอ มารับตัวไปดำเนินคดี
โดยระหว่างรอตำรวจ สภ.หนองวัวซอ นายสุรชาติ เล่าว่า หลังทำงานเสร็จได้ขับมากับผู้เสียชีวิต เพื่อไป อ.ท่าบ่อ โดยคุยกันมาตลอดเส้นทาง สักพักผู้ตายนอนหลับ ตนขับรถไม่เร็วประมาณ 60 -70 กม./ชั่วโมง เมื่อขับรถมาถึงแยกที่เกิดอุบัติเหตุเป็นช่วงที่ไฟสัญญาณจราจรเป็นสีเหลือง ตนคิดว่ายังสามารถขับผ่านไปได้ ไม่คิดว่ารถเก๋งคันที่อยู่ด้านหน้าจะหยุดรถกะทันหัน รถตนเบรกไม่อยู่ หักหลบไม่ทัน จึงชนท้ายรถเก๋งอย่างจัง ตนรู้สึกจุก ทั้งกลัวเพราะไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ผู้ตายก็ศีรษะแตก ตนจคงตัดสินใจขับรถหนี
ระหว่างหลบหนีผู้ตายบอกว่าจุก ให้ตนจอดรถ ขอเปิดประตูลงไปนั่งข้างล่างก่อน ตนก็จอดรถแล้วพาลงไปนั่งข้างล่าง ไม่นานเพื่อนก็ขอนอนหงายท้องก่อน สักพักชาวบ้านผ่านมา แล้วชาวบ้านบอกให้เอาผู้ตายนอนลง ก่อนที่ตนจะขึ้นรถ ก็ได้พูดฝากกับชาวบ้านว่า เดี๋ยวตนขอโทรศัพท์ก่อน รบกวนให้ชาวบ้านโทรแจ้งรถพยาบาลมารับเพื่อนด้วย ตนทั้งพูดทั้งสั่น จากนั้นตนก็ขับรถไป ตนได้ขับรถไปจอดที่บ้านห้วยเซียง อ.กุดจับ ก่อนจะจ้างคนไปส่งที่บ้านผือ ต่อไปบ้านที่ อ.ท่าบ่อ
นายสุรชาติ เล่าต่อไปอีกว่า ตอนขับรถหนีมา ตนไม่รู้ว่าเพื่อนตายแล้ว และไม่กล้าติดต่อใคร ไม่กล้าโทรศัพท์ รถที่เกิดเหตุก็เป็นชื่อแม่ เหตุที่ไม่ขับรถคันที่เกิดเหตุกลับ เนื่องจากดับเครื่องแล้วสตาร์ทไม่ติด และตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้ทิ้งศพเพื่อน ตนตกใจและทำอะไรไม่ถูก และตนไม่คิดว่าเพื่อนเสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจหนี ตนพึ่งรู้ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกำนันไปควบคุมตัว
จากนั้นเมื่อตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาถึง สภ.หนองวัวซอ ก็ได้มีการนำตัวไปให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำ ซึ่งก่อนจะสอบปากคำ ทางพนักงานสอบสวนได้นำรูปภาพของนายดำรงค์ จันทร์เวิน อายุ 50 ปี ให้นายสุรชาติ ชี้รูปภาพว่าใช่คนนี้หรือไม่ ที่นั่งรถไปด้วยตอนเกิดเหตุ และใช่คนตายหรือไม่ ซึ่งนายสุรชาติ ก็ยืนยันว่าใช่ ซึ่งตำรวจจะได้ติดต่อญาตินายดำรงมารับศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนรถปิกอัพตำรวจ สภ.ห้วยหลวง ได้ไปตรวจยึดนำมาเก็บไว้ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหานายสุรชาติ “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” โดยพรุ่งนี้จะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ