ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ครั้งที่ 3/2563 เพื่อปิดค่ายกักตัวผู้เดินทางจาก ประเทศมีการระบาดเชื้อ “โควิด-19” ตามนโยบาลของรัฐบาล ที่ กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ มีผู้หญิงได้รับการกักตัว 27 คน และ ที่กองร้อย อส.อุดรธานี มีผู้ชายรับการกักตัว 16 คน
นายแพทย์ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 “โควิด-19” ยืนยันไม่พบผู้ป่วยหรือติดเชื้อ มีผู้เข้าเกณฑ์เข้ารับการตรวจเสมหะรวม 50 ราย รู้ผลแล้วไม่พบเชื้อ 50 ราย , การเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้น 60 คน รวมเป็น 988 คน เข้าระบบกักตัวอยู่ที่บ้านผ่านแล้ว 308 คน และยังอยู่ระหว่างกักตัวที่บ้านอีก 680 คน (เมื่อวาน 623)
โดยที่ประชุมมีมติส่งผู้ถูกกักตัว กลับไปยังภูมิลำเนาตนเองทั้งหมด โดยให้มีขั้นตอนให้คำแนะนำ ผู้ถูกกักตัว ญาติที่มารับ มอบอุปกรณ์ “โควิดกิ๊ปเซ็ท” ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ แต่ให้คงค่ายกักตัวที่ กองร้อย อส.อุดรธานี เป็นสถานที่สำรองไว้เป็นจุดพัก บุคคลที่เดินทางทางมากจากพื้นที่ระบาด และพื้นที่เสี่ยง ก่อนเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาตนเอง โดยชุดแรกจะมาจากสัตหีบ ชลบุรี 30 คน หรือสำรองไว้ผู้ที่เดินทางกลับมา แต่ไม่สามารถกลับไปกักตัวเองที่บ้านได้ จากปัญหาต่าง ๆ
ต่อมานายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี และหน่วยราชการเกี่ยวข้อง เดินทางไปยังค่ายกักตัว กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ และ กองร้อย อส.อุดรธานี เพื่อทำการปิดค่ายฯและปล่อยผู้ที่กักตัวกลับบ้าน โดยมีขั้นตอนให้คำแนะนำ การปฏิบัติตัวหลังกลับบ้าน 8 ข้อ 1.กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ส่วนใส่หน้ากากอนามัยทั้งในบ้านและนอกบ้าน , 2.จดบันทึกอุณหภูมิร่างกายทุกวัน เช้า-เย็น ถ้ามีอาการ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก ให้แจ้ง จนท.สาธารณสุขทันที
3.จดบันทึกกิจกรรมประจำวัน 14 วัน โดยเฉพาะอยู่ห่างคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร , 4. หากมีสมาชิกในครัวเรือน มีอาการไข้ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกหายใจลำบาก รีบแจ้ง จนท.สาธารณสุขทันที 5. แยกอยู่-แยกกิน-แยกนอน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือ เจลล้างมือ 6. ศึกษาข้อมูลคำแนะนำจากกรมควบคุมโรค 7. หากมีการปกปิดข้อมูลหรือไม่ให้ความร่วมมืออาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ.2558 และ 8. จดเบอร์โทร รพ.สต.ที่อยู่ใกล้บ้าน
ทำการควบคุมป้องกันอย่างเข้มงวด โดยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามร่างกาย ทั้งผู้ที่มารับ และผู้ที่ถูกกัก รวมทั้ง กระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งฉีดฆ่าเชื้อภายในรถ ที่จะเป็นพาหนะนำตัวไปส่งยังภูมิลำเนา มี จนท.สาธารณสุข ติดตามไปส่งตัวถึงบ้าน เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติขณะกักตัวที่บ้าน รวมถึงญาติ ผู้ใกล้ชิด คนในครอบครัว และเพื่อนบ้านให้เข้าใจ ไม่ให้มีปัญหาอื่นตามมา โดยทุกคนได้นั่งท้ายรถปิกอัพญาติกลับ ไม่ได้นั่งในตัวเก๋ง
ญาติที่มารับ เปิดเผยว่า ได้เตรียมจัดบ้านอีกหลังให้อยู่ หรือให้ไปอยู่บ้านสวนคนเดียวไปก่อน ก็จะเตรียมอุปกรณ์ในการทำอาหาร หม้อหุงข้าว หม้อนึ่งข้าวเตรียมไว้ให้ลูกด้วย และจะปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างใกล้ชิด หากมีอาการไข้ก็จะรีบโทรแจ้งทันที ส่วนถามว่ามีความรู้สึกกังวลใจหรือไม่ หลายคนบอกว่า ก็ยังวิตกอยู่ แต่ก็จะป้องกันให้ดีที่สุด เพราะทางคุณหมอให้ความมั่นใจว่าหากมีอาการไข้หรือสุ่มเสี่ยงจะเป็นโควิด 19 แล้วให้รีบโทรแจ้งทันที
ส่วน น.ส.เอ ผู้จะกลับไปกักตัวที่บ้าน เปิดเผยว่า เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้เมื่อ 3 วันก่อนจากนั้นก็ถูกนำตัวมากักตัวที่ค่าย ตชด.24 แห่งนี้ นอนไม่หลับคงเพราะผิดที่ แต่อาหารอร่อยกินได้มาก หลังจากกลับไปอยู่บ้านก็จะปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอที่บอกเอาไว้ ก็จะแยกตัวอยู่คนเดียวให้พ้น 14 วันก่อน ยังจะไม่พบปะกับญาติพี่น้อง ก็ภาวนาอย่าให้ตนเองป่วยเป็นโควิด-19
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี มีมติให้คงค่ายกักตัวกลุ่มเสี่ยง ที่กองร้อย อส.อุดรธานี ไว้ เพื่อสำหรับลูกหลานของเรากลับบ้านไปแล้ว ไม่สบายใจ หรือเพื่อนบ้านไม่สบายใจ ให้แจ้ง อสม.หมู่บ้าน กำนัน ผญบ. นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ เพื่อขอกลับมาอยู่ที่นี่ได้ฟรีทุกอย่างจนครบ 14 วัน นอกจากนี้อุดรธานีเป็นปลายทางของรถ ที่ขนผู้โดยสารลงจากเครื่องกลับมา ซึ่งรถแต่ละคันมาถึงไม่พร้อมกัน โดยที่นี่จะเป็นศูนย์ให้ผู้ที่เดินทางมาถึงได้พัก รอให้ญาติที่มาจากจังหวัดต่าง ๆ มารีบกลับบ้าน
“ พรุ่งนี้ลูกหลานเราอีก 30 คน จะมาจากสัตหีบ จะมาลงรถที่แห่งนี้ เพื่อส่งตามที่ต่างๆไม่ปะปนผู้อื่น เมื่อมาส่งตัวที่นี่จะมีแพทย์ พยาบาล สอนวิธีดำรงชีวิตว่า อยู่บ้านเราจะอยู่อย่างไร การทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งร่างกายของตัวเอง พร้อมแจกแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อแพทย์ พยาบาล หากมาถึงกลางวันอบรมแล้ว จะกลับบ้านก็กลับได้เลย หากมาถึงกลางคืนสามารถนอนพักรอเช้า เรามีที่นอนหนอมมุ้งไว้ให้ครบ ใช้เสร็จก็สามารถนำกลับบ้านได้เลย หรือหากอยากจะอยู่ที่นี่จนครบ 14 วัน ก็สามารถอยู่ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ”……