เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร ชั้น 3 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ( สำนักงาน กปร.) นายวันชัย จันทร์พร รอง ผวจ.อุดรธานี ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาราษฎร ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ถวายฎีกา ขอพระราชทานโครงการก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง กำนัน ผญบ. และนายชาติชาย พิลาดี แกนนำชาวบ้านถวายฎีกา
ที่ประชุมรายงานว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ให้นำโครงการอ่างฯปากแบ่ง บ.โคกสว่าง ม.10 ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ เข้าสู่การดำเนินโครงการของ สนง.กปร. หลังจากโครงการนี้เบื้องต้นคณะทำงาน เห็นว่ามีในเรื่องของที่ดินมีความซับซ้อน โดยการขับเคลื่อนโครงการนี้ ยังคงยึดแนวปฏิบัติ โครงการพระราชดำริจะต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หากพร้อมให้ใช้งบของ กปร.ดำเนินการได้ทันที
ทั้งนี้พื้นที่ดำเนินโครงการ ตัวอ่างฯปากแบ่ง และบริเวณน้ำท่วม อยู่ในพื้นที่ของราชพัสดุ ที่มณฑลทหารบกที่ 24 เข้าใช้ประโยชน์สนามยิงปืน และสนามยุทธวิธี ไม่มีราษฎรเข้าบุกรุก ในส่วนของพื้นที่ชลประทานระบบท่อ แบ่งออกเป็นพื้นที่นอกเขตราชพัสดุ ที่ราษฎรเข้าทำการเกษตรแล้ว บางรายยังไม่มีเอกสารสิทธิ และพื้นที่ในเขตราชพัสดุ ในส่วนนี้จะดำเนินการได้ก็เมื่อ ราษฎรที่บุกรุกพื้นที่จะต้องยินยอม เช่า(ราคาต่ำ)กับราชพัสดุ หลังจาก มทบ.24 คืนพื้นที่ให้ราชพัสดุ ซึ่งตัวแทนราษฎรยอมรับ
สำหรับการออกแบบมีความคืบหน้า เหลือเพียงการลงไปสำรวจ “ธรณีวิทยา” จึงจะชัดเจนว่าจะได้อ่างฯความจุเท่าใด ซึ่งขณะนี้การออกแบบเก็บน้ำได้ไม่เกิน 1.5 ล้าน ลบม. โดยการสร้างเขื่อนดินยาว 450 ม. กว้าง 8 ม. สูง 30 ม. , อาคารระบายน้ำล้น 1 แห่ง , อาคารท่อส่งน้ำและทิ้งน้ำ 1 แห่ง , ระบบท่อส่งน้ำสายใหญ่ 1 สาย 2.90 กม. , ระบบท่อส่งน้ำสายซอย 1 สาย 5 กม. และบ่อพักน้ำ 3 แห่ง
ที่ประชุมเห็นควรให้อุดรธานี แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การเข้าไปสอบสวนสิทธิแนวเขต , สำรวจพื้นที่ทางธรณี , สำรวจพื้นที่ระบบท่อส่งน้ำ , ทำความเข้าใจประชาชน (ถูกกฎหมาย-ราษฎรไม่เดือดร้อน) , การออกแบบเพิ่มเติม ตามศักยภาพสูงสุดของพื้นที่ ซึ่งจะต้องชี้แจงราษฎรถึงข้อเท็จจริง โดยต้นเดือนมีนาคม 2564 จะกลับมาติดตามความคืบหน้า….
