ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี สถานที่ฉีดวัคซีนปิ้องกันโควิด-19 ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่เป็นวันแรกที่ไม่มีการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรัง หลังจากวัคซีน “แอสตราเซเนกา” ที่รับจัดสรรคมาฉีดหมดแล้ว และประกาศให้ผู้นัดฉีดรอไปก่อน ทั้งนี้ยังคงมีการฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” เข็มที่สอง 600 คน แต่ก็ยังมีผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค ที่ลงทะเบียนฉีดในวันนี้ ทยอยเดินทางมาต่อเนื่อง จนท.ฝ่ายปกครอง และ อส. ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งมีบางคนแสดงความไม่พอใจ
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวขอโทษผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้ ขอให้รอจนกว่าวัคซีนจะมา ในวันหนัดหมายอีกครั้ง จะแจ้งประสัมพันธ์อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ 7-8 มิ.ย.ยังมีผู้ตกค้างไม่ได้มาฉีด 9 มิ.ย.ได้ฉีดไปบางส่วน และ 10-11 มิ.ย.ไม่มีวัคซีนฉีดเลย รวมผู้ลงทะเบียนถึงวันไม่ได้ฉีดกว่า 25,000 คน หากวัคซีนเดินทางมาถึงวันนี้ ก็จะนัดฉีดเรียงลำดับจาก 7-8-9-10…. มิ.ย. ตามลำดับมาก่อน สำหรับที่ฉีดอยู่ในขณะนี้คือ วัคซีนซิโนแวคเข็มสอง จะฉีดที่ มรภ.อุดรธานี วันละ 600 ราย
“ สำหรับครูฉีดวัคซีนไปแล้ว 5,000 คน จากเป้าหมาย 20,000 คน หรือฉีดไปแล้ว 25 % การจะฉีดให้ครบเปิดเรียน 14 มิ.ย.นี้คงไม่ได้ มาตรการต้องเข้มงวดอยู่ ครู-นักเรียนมาจากพื้นที่เสี่ยง จะต้องรับการตรวจเชื้อ และกักตัวไม่มีข้อยกเว้น ขณะการเข้าเรียนต้องใช้ 6 มาตรการ คือ สวมหน้ากากตลอดเวลา-เว้นระยะห่าง 1-2 ม.-ล้างมือบ่อยๆ-วัดไข้ สังเกตอาการ คัดกรอง-ลดความแออัด และทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ ”
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานหอการค้าไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) กล่าวในที่ประชุม ศปก.อุดรธานี ว่า อุดรธานีได้รับการจัดสรรควัคซีนน้อย สวนทางกับจำนวนประชากร การเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ และความพร้อมฉีดได้วัน 20,000 คน ขณะที่จังหวัดข้างเคียงอุดรธานีได้มากกว่า ยกตัวอย่างที่ จ.หนองคาย มากกว่า จ.อุดรธานี เกิน 2 เท่า ทำให้ปฏิบัติการ “ฉีดวัคซีน เปิดเมือง ปลดแมส” ของอุดรธานีต้องสดุดไปด้วย โดยกลุ่มภาคธุรกิจยังไม่มีวัคซีนฉีด เข้าใจดีว่าวัคซีนมาไม่ตรงตามนัด แต่แปลกใจอุดรธานีได้รับจัดสรรมาน้อย
